เงินเฟ้อไทย ก.ค.ลดลง -0.70% ต่ำกว่าคาด เหตุพลังงาน–ผักผลไม้ลด

เงินเฟ้อไทย ก.ค.ลดลง -0.70% ต่ำกว่าคาด เหตุพลังงาน–ผักผลไม้ลด

เงินเฟ้อไทยลดลงต่อเนื่อง 4 เดือน เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ -0.70% ต่ำกว่าคาดการณ์ตลาด

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 100.15 ลดลง -0.70% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่อยู่ในช่วง -0.4% ถึง -0.5% และถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. ระบุว่า การลดลงของเงินเฟ้อครั้งนี้เกิดจากสองปัจจัยหลัก ได้แก่

 1. ราคาพลังงานลดลง โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น แก๊สโซฮอล์ที่ราคาลดลงจากปีก่อนถึง 6 บาท รวมถึงเบนซิน ดีเซล และค่าไฟฟ้า ที่ได้รับผลจากการลดค่า Ft จากภาครัฐ

 2. ราคาผักผลไม้สดปรับลดลง อย่างชัดเจน โดยจากทั้งหมด 32 รายการที่มีการเก็บข้อมูล พบว่าราคาลดลงถึง 22 รายการ

เงินเฟ้อพื้นฐานยังขยายตัวต่อเนื่อง

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงาน เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 101.40 เพิ่มขึ้น 0.84% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.–ก.ค. 68) ขยายตัวที่ 0.95% และเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 0.21%

สรุปข่าว

ดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค. 68 ลดลง -0.70% ต่ำกว่าคาดการณ์ตลาด จากราคาพลังงาน–ผักผลไม้ลดลง ขณะที่ Core CPI ยังขยายตัวต่อเนื่อง สนค.ย้ำไม่ใช่ภาวะเงินฝืด คาดเงินเฟ้อจะพลิกกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 4

เงินเฟ้อไทยลดลงต่อเนื่อง 4 เดือน เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ -0.70% ต่ำกว่าคาดการณ์ตลาด

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 100.15 ลดลง -0.70% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่อยู่ในช่วง -0.4% ถึง -0.5% และถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. ระบุว่า การลดลงของเงินเฟ้อครั้งนี้เกิดจากสองปัจจัยหลัก ได้แก่

 1. ราคาพลังงานลดลง โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น แก๊สโซฮอล์ที่ราคาลดลงจากปีก่อนถึง 6 บาท รวมถึงเบนซิน ดีเซล และค่าไฟฟ้า ที่ได้รับผลจากการลดค่า Ft จากภาครัฐ

 2. ราคาผักผลไม้สดปรับลดลง อย่างชัดเจน โดยจากทั้งหมด 32 รายการที่มีการเก็บข้อมูล พบว่าราคาลดลงถึง 22 รายการ

เงินเฟ้อพื้นฐานยังขยายตัวต่อเนื่อง

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงาน เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 101.40 เพิ่มขึ้น 0.84% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.–ก.ค. 68) ขยายตัวที่ 0.95% และเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 0.21%

แนวโน้มเงินเฟ้อ ส.ค.–ธ.ค. 2568 คาดกลับมาเป็นบวกช่วงไตรมาส 4

สำหรับแนวโน้มในเดือนสิงหาคม สนค.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงติดลบใกล้เคียงเดือนกรกฎาคม โดยคาดการณ์ว่าในไตรมาส 3 ของปีนี้ เงินเฟ้อจะเฉลี่ยอยู่ที่ -0.50% ก่อนจะกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 4

ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินเฟ้อลดลงในช่วงนี้ ได้แก่

 • ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ยังต่ำจากปีที่แล้ว

 • มาตรการลดค่าครองชีพภาครัฐ เช่น การปรับลดค่าไฟฟ้าลงเหลือ 3.98 บาท/หน่วย

 • ปริมาณผักผลไม้ในตลาดเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย

 • ค่าบริการท่องเที่ยวปรับลดลงจากกิจกรรมส่งเสริมการขาย

ในทางกลับกัน ยังมีปัจจัยที่อาจดันเงินเฟ้อให้กลับมาสูงขึ้น เช่น

 • ราคาสินค้าเกษตรบางประเภท เช่น เนื้อสุกร น้ำมันพืช มะพร้าว

 • ความชัดเจนของอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ต่ำลงกว่ารอบก่อน อาจช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัว

ยืนยันไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะ “เงินฝืด”

แม้เงินเฟ้อจะติดลบต่อเนื่อง 4 เดือน แต่ สนค. ยืนยันว่า “ยังไม่ใช่ภาวะเงินฝืด” เนื่องจากการลดลงของเงินเฟ้อไม่ได้มาจากอุปสงค์ที่หดตัว แต่เกิดจากราคาพลังงานและผักผลไม้ที่ลดลง ซึ่งเป็นผลชั่วคราว และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หากย้อนดูประวัติ ไทยเคยประสบภาวะเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องนานถึง 13 เดือน ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ปี 2563 และ 6 เดือน ในช่วงตุลาคม 2566 ถึงมีนาคม 2567

เมื่อเปรียบเทียบกับนานาประเทศ อัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนมิถุนายน 2568 ยังอยู่ในระดับต่ำเป็นอันดับ 10 จากทั้งหมด 140 เขตเศรษฐกิจ และอยู่ในอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากบรูไน

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN