
7 สิงหาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอม ครั้งที่ 1/2568 โดยกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม หรือ “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งชาติ” ขึ้น โดยได้มีการประชุมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม โดยเฉพาะข้อมูลข่าวสารที่ถูกสร้างขึ้นและถูกส่งต่อกันทางสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต ที่มีการเผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม บิดเบือนข้อมูลข่าวสารไปจากข้อเท็จจริง ก่อให้เกิดการปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสถาบันหลักของชาติ ตลอดจนความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของประเทศ
สรุปข่าว
7 สิงหาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอม ครั้งที่ 1/2568 โดยกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม หรือ “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งชาติ” ขึ้น โดยได้มีการประชุมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม โดยเฉพาะข้อมูลข่าวสารที่ถูกสร้างขึ้นและถูกส่งต่อกันทางสื่อสังคมออนไลน์และระบบอินเทอร์เน็ต ที่มีการเผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสม บิดเบือนข้อมูลข่าวสารไปจากข้อเท็จจริง ก่อให้เกิดการปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสถาบันหลักของชาติ ตลอดจนความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของประเทศ
กำหนดมาตรการการแก้ไขปัญหาร่วมกัน 5 มาตรการสำคัญ
ที่ประชุมได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือในการปราบปรามข่าวปลอม และ บัญชีผู้ใช้งานต้องสงสัย (Account IO) โดยมีการกำหนดมาตรการการแก้ไขปัญหาร่วมกัน 5 มาตรการสำคัญดังนี้
1.การจัดลำดับความสำคัญกับข่าวที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความมั่นคงชายแดนให้เป็นอันดับความสำคัญสูงสุด (Priority) ในการสนับสนุนการจัดการข่าวปลอม
2. การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ตรวจจับรวบรวมข่าวปลอมที่มีการยืนยันแล้วและดำเนินการปิดกั้น (Take Down) ข่าวปลอมในทุกช่องทางแพลตฟอร์ม
3. การเพิ่มปริมาณเจ้าหน้าที่สนับสนุนเพื่อรองรับการดำเนินการตามมาตรการการจัดการข่าวปลอม และแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์จะมีการพัฒนา AI ในการตรวจจับบัญชีผู้ใช้งาน ที่ระบุว่าเป็นบัญชีผู้ใช้ที่เป็นบุคคลสาธารณะปลอม (Fake Account)
4. กระบวนการดำเนินการด้าน “ปฏิบัติการข่าวสาร (IO)” บริหารจัดการข่าวในด้านจิตวิทยา หากมีการตรวจพบ จะดำเนินการส่งให้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA เพื่อแจ้งแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ดำเนินการระงับเผยแพร่
5. การยกระดับการยืนยันตัวตนของแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ (Account Verification) โดยผู้ที่จะลงโฆษณาต้องเป็นบริษัทฯ ซึ่งมีการยืนยันตัวตน ที่ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว และจะยกระดับการดำเนินการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ กระทรวงดีอี เป็นศูนย์กลางในการรับเรื่องข่าวปลอมจากทุกหน่วยงานรวมถึงประชาชน และนำส่งกรมประชาสัมพันธ์ ประสานงานหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวปลอม ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ภายหลังจากการตรวจสอบแล้ว กรมประชาสัมพันธ์จะเป็นหน่วยงานหลักในการเผยแพร่กระจายข้อมูล ประสานงานสื่อมวลชน และกระทรวงดีอี จะรับผลการดำเนินการดังกล่าว เพื่อแจ้งแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ดำเนินการปิดกั้นต่อไป
พบเห็นลิงก์หรือข้อมูลซึ่งสงสัยว่าเป็นข่าวปลอม สามารถแจ้งเบาะแส
สำหรับประชาชนที่พบเห็นลิงก์หรือข้อมูลซึ่งสงสัยว่าเป็นข่าวปลอม สามารถแจ้งเบาะแสโดยตรง ได้ที่เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti Fake News Center: AFNC) : www.antifakenewscenter.com ซึ่งผู้ใช้งานต้องกรอกข้อมูล URLs ของข่าวที่พบ พร้อมแนบหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และอธิบายพฤติการณ์หรือเนื้อหาที่เชื่อว่าเป็นข่าวปลอม เพื่อนำข้อมูลเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้ที่กระจายข่าวปลอม ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือรายละเอียดกระบวนการร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามข่าวปลอมเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านการดำเนินการปิด IP Address ได้มอบหมายให้ สำนักงาน กสทช. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้ให้บริการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำ IO และดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสม
“คณะกรรมการฯ มุ่งเน้นการบูรณาการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามข่าวปลอมบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ตามสถานการณ์ปัญหาความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับข่าวสารที่มีการตรวจสอบยืนยันจากหน่วยงานภาครัฐได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว และเป็นการแก้ไขปัญหาข่าวปลอมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ” นายประเสริฐ กล่าว
- บุ๋ม ปนัดดา งงสิ! เจอเฟกนิวส์โดนลูกหลง BM-21 ชายแดน ไทยกัมพูชา
- “ไทย” เตือนกัมพูชา หยุดบิดเบือนข้อเท็จจริงบนเวทีโลก
- ข่าวปลอมล่าสุด! 10 ข่าวยอดฮิตประชาชนสนใจ ระวังเสียเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล
- YouTube เริ่มแล้ว ! ใช้ AI ตรวจ “อายุ” คัดกรองผู้ใช้ต่ำกว่า 18 ปี
- จีนเปิดศึกประชัน “ทีมนักรังสีแพทย์ล้วน VS ทีมที่ใช้ AI” โชว์วินิจฉัยโรคบนเวที
- ฝันร้ายของช่างภาพ? นิตยสาร "Vogue" เริ่มใช้นางแบบ AI ฉบับพิมพ์เดือนสิงหาคม
- องค์กรสื่อไทยร่วมต้านข้อกล่าวหา CCJ ระงับสัมพันธ์ชั่วคราว
