
วันที่ 7 สิงหาคม 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) บุกเข้าตรวจสอบคลังสินค้า บริษัท ดีเอส ทูลส์ จำกัด ในพื้นที่บางขุนเทียน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดกระจายสินค้าประเภทปลั๊กไฟ เต้ารับ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ
ผลการตรวจสอบพบผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. จำนวนมากกว่า 500,000 ชิ้น และยังพบฝักบัว–ก๊อกน้ำอีกกว่า 2,400 ชิ้น ที่แสดงเลข มอก. ไม่ถูกต้อง โดยทั้งหมดถูกอายัดไว้เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดี

พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ในครัวเรือนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะเหตุเพลิงไหม้จากปลั๊กไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งที่ผ่านมาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และการตรวจพบในครั้งนี้เป็นส่วนของ “กระบวนการกลางน้ำ” ที่เชื่อมโยงไปถึงผู้บริโภคปลายน้ำ และขบวนการต้นน้ำคือ “ผู้นำเข้าหรือผู้ผลิต” จากต่างประเทศ
เบื้องต้น DSI เห็นว่าอาจเข้าข่ายเป็น คดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท และมีจำนวนเกิน 50,000 หน่วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ พร้อมระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลหาตัวการใหญ่และขบวนการนำเข้า

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI ได้สั่งการให้กองคดีคุ้มครองผู้บริโภคประสานกระทรวงอุตสาหกรรมและ สมอ. เดินหน้าเอาผิดอย่างเฉียบขาดในทุกมิติ พร้อมย้ำว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญกับกรณีนี้เป็นพิเศษ โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง
ประชาชนที่สงสัยว่ากำลังใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบรหัส มอก. ได้ที่เว็บไซต์ของ สมอ. หรือแจ้งเบาะแสผ่าน DSI เพื่อร่วมกันปกป้องผู้บริโภคจากความเสี่ยงที่มองไม่เห็น
สรุปข่าว
วันที่ 7 สิงหาคม 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) บุกเข้าตรวจสอบคลังสินค้า บริษัท ดีเอส ทูลส์ จำกัด ในพื้นที่บางขุนเทียน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดกระจายสินค้าประเภทปลั๊กไฟ เต้ารับ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ
ผลการตรวจสอบพบผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. จำนวนมากกว่า 500,000 ชิ้น และยังพบฝักบัว–ก๊อกน้ำอีกกว่า 2,400 ชิ้น ที่แสดงเลข มอก. ไม่ถูกต้อง โดยทั้งหมดถูกอายัดไว้เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดี

พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ในครัวเรือนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะเหตุเพลิงไหม้จากปลั๊กไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งที่ผ่านมาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และการตรวจพบในครั้งนี้เป็นส่วนของ “กระบวนการกลางน้ำ” ที่เชื่อมโยงไปถึงผู้บริโภคปลายน้ำ และขบวนการต้นน้ำคือ “ผู้นำเข้าหรือผู้ผลิต” จากต่างประเทศ
เบื้องต้น DSI เห็นว่าอาจเข้าข่ายเป็น คดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท และมีจำนวนเกิน 50,000 หน่วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ พร้อมระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลหาตัวการใหญ่และขบวนการนำเข้า

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI ได้สั่งการให้กองคดีคุ้มครองผู้บริโภคประสานกระทรวงอุตสาหกรรมและ สมอ. เดินหน้าเอาผิดอย่างเฉียบขาดในทุกมิติ พร้อมย้ำว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญกับกรณีนี้เป็นพิเศษ โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง
ประชาชนที่สงสัยว่ากำลังใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบรหัส มอก. ได้ที่เว็บไซต์ของ สมอ. หรือแจ้งเบาะแสผ่าน DSI เพื่อร่วมกันปกป้องผู้บริโภคจากความเสี่ยงที่มองไม่เห็น
- "Temu" เสี่ยงละเมิดกฎขายสินค้าเถื่อนผิดกฎบริการดิจิทัล
- CIB ทลายโกดังลอบผลิตของใช้ไร้มาตรฐาน ขายผ่านโซเชียล
- กรมศุลฯ จับสินค้าผิดกฎหมายครึ่งเดือนแรกก.ค. กว่า 214 ล้านบาท
- ศาลพิพากษา แก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ จ.นครศรี ผู้ต้องหารวม 70 ราย จำคุกสูงสุด 24 ปี
- DSI จับสมาชิกแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ ร่วมตั้ง 29 บริษัทปลอม หลอกโอนค่าสินค้า เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท
- ก.อุตฯ สั่งปิดโรงงานทิชชู่ จ.สระบุรี หาต้นเหตุไฟไหม้
- จับกุมผู้ค้ายาเสพติด ยึดของกลางยาบ้า 800,000 เม็ด รับคนในคุกสั่งการ
ที่มาข้อมูล : กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ที่มารูปภาพ : กรมสอบสวนคดีพิเศษ
