ไทยย้ำกัมพูชาต้องรับผิดชอบความเสียหาย เดินหน้าฟ้องเวทีโลก

ไทยย้ำกัมพูชาต้องรับผิดชอบความเสียหาย เดินหน้าฟ้องเวทีโลก

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์เพื่อติดตามสถานการณ์หลังการสู้รบ พร้อมให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสู่การหยุดยิงและสร้างสันติภาพถาวร

รมว.ต่างประเทศเผยว่า แม้มีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว แต่ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนได้เกิดขึ้นจากการโจมตีและการวางทุ่นระเบิดของกองทัพกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและอนุสัญญาออตตาวา กระทรวงการต่างประเทศจึงเดินหน้าร้องเรียนในเวทีสหประชาชาติและต่อประชาคมโลก เพื่อให้กัมพูชารับผิดชอบต่อการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย

สรุปข่าว

กต.ไทยยืนยันแม้หยุดยิงกับกัมพูชา แต่ยังต้องเรียกร้องความรับผิดชอบต่อการโจมตีพลเรือนและวางทุ่นระเบิดที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ เดินหน้าร้องเรียนต่อยูเอ็น พร้อมเปิดพื้นที่ให้ ICRC ตรวจสอบและเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบ

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์เพื่อติดตามสถานการณ์หลังการสู้รบ พร้อมให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสู่การหยุดยิงและสร้างสันติภาพถาวร

รมว.ต่างประเทศเผยว่า แม้มีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว แต่ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนได้เกิดขึ้นจากการโจมตีและการวางทุ่นระเบิดของกองทัพกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและอนุสัญญาออตตาวา กระทรวงการต่างประเทศจึงเดินหน้าร้องเรียนในเวทีสหประชาชาติและต่อประชาคมโลก เพื่อให้กัมพูชารับผิดชอบต่อการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย

กระทรวงได้ดำเนินการแล้วในสองประเด็นหลัก คือ ประเด็นทุ่นระเบิด โดยได้ออกแถลงการณ์ประท้วง ส่งหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อขอคำชี้แจงจากกัมพูชา อีกประเด็นคือการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ซึ่งได้มีการประณามอย่างเป็นทางการ ทั้งผ่านแถลงการณ์และการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

นอกจากนี้ ไทยยังประสานงานกับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เพื่อลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 11–14 สิงหาคม เพื่อเยี่ยมประชาชนและสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงตรวจสอบการปฏิบัติต่อเชลยศึก 18 นายของกัมพูชาเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

นายมาริษย้ำว่า ไทยเคารพและพร้อมปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงทั้ง 13 ข้อ แต่จะเดินหน้าทำงานทั้งในมิติการสร้างสันติภาพและการเรียกร้องความรับผิดชอบควบคู่กัน

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : กต.

บรรณาธิการออนไลน์