
ที่วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการหลายหน่วยงานด้านการบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพให้กับกลุ่มเปราะบาง และให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่และทหารร่วมกันเสริมกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมชุมชน

การสำรวจพบว่าระดับน้ำหน้าวัดไชยวัฒนารามสูงขึ้นจากเมื่อวานประมาณ 10 เซนติเมตร โดยกรมชลประทานยังคงการระบายน้ำที่ 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ผักไห่ เสนา บางบาล บางไทร พระนครศรีอยุธยา และบางปะอิน
นายรณฤทธิ์ ปัญญากวาว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้สูงกว่าตลิ่งประมาณ 7 เซนติเมตร ทำให้น้ำล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ แต่ยังไม่กระทบเขตเศรษฐกิจหรือเกาะเมือง
อย่างไรก็ตาม หากต้องเพิ่มอัตราการระบายน้ำเป็น 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 20–25 เซนติเมตร โดยการระบายน้ำเข้าทุ่งเพื่อบรรเทาผลกระทบ จะเริ่มหลังวันที่ 15 กันยายน หลังหารือร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่

ปัจจุบันการจัดการน้ำมีการลดการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา และตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทาน ทั้งฝั่งซ้ายและขวาก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนมากที่สุด
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบนอกคันกั้นน้ำราว 20,000 ครัวเรือน หากระดับน้ำยังสูงขึ้น มีแผนยกคันกั้นน้ำตามแนวถนนอู่ทอง ระยะทาง 12 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในเกาะเมือง ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดตลอดเดือนกันยายน เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์น้ำปีนี้จะใกล้เคียงกับปี 2567
สรุปข่าว
ที่วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้อำนวยการหลายหน่วยงานด้านการบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพให้กับกลุ่มเปราะบาง และให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่และทหารร่วมกันเสริมกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมชุมชน

การสำรวจพบว่าระดับน้ำหน้าวัดไชยวัฒนารามสูงขึ้นจากเมื่อวานประมาณ 10 เซนติเมตร โดยกรมชลประทานยังคงการระบายน้ำที่ 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ผักไห่ เสนา บางบาล บางไทร พระนครศรีอยุธยา และบางปะอิน
นายรณฤทธิ์ ปัญญากวาว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้สูงกว่าตลิ่งประมาณ 7 เซนติเมตร ทำให้น้ำล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ แต่ยังไม่กระทบเขตเศรษฐกิจหรือเกาะเมือง
อย่างไรก็ตาม หากต้องเพิ่มอัตราการระบายน้ำเป็น 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 20–25 เซนติเมตร โดยการระบายน้ำเข้าทุ่งเพื่อบรรเทาผลกระทบ จะเริ่มหลังวันที่ 15 กันยายน หลังหารือร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่

ปัจจุบันการจัดการน้ำมีการลดการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา และตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทาน ทั้งฝั่งซ้ายและขวาก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ประชาชนมากที่สุด
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบนอกคันกั้นน้ำราว 20,000 ครัวเรือน หากระดับน้ำยังสูงขึ้น มีแผนยกคันกั้นน้ำตามแนวถนนอู่ทอง ระยะทาง 12 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในเกาะเมือง ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดตลอดเดือนกันยายน เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์น้ำปีนี้จะใกล้เคียงกับปี 2567
- กรมชลประทาน ย้ำพร้อมปรับแผนระบายน้ำ "ขื่อนพระราม 6"
- “เขื่อนเจ้าพระยา” ระบายน้ำเพิ่มต่อเนื่อง เตือน 11 จังหวัดรับมือมวลน้ำ
- แจ้งล่าสุด! "เขื่อนเจ้าพระยา" ปรับเพิ่มระบายน้ำเป็น 1,900 ลบ.ม./วินาที
- "เขื่อนเจ้าพระยา" ระบายน้ำเพิ่ม! เตือน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ยกของขึ้นที่สูง
- “เขื่อนเจ้าพระยา” ระบายน้ำเพิ่ม เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนน้ำสูงขึ้นอีก
ที่มาข้อมูล : พรรษนันท์ ช่างคิด
ที่มารูปภาพ : พรรษนันท์ ช่างคิด
