ว่าที่ รมช.คลัง หนุนกลไก Risk-Based Pricing แก้หนี้นอกระบบยั่งยืน

ว่าที่ รมช.คลัง หนุนกลไก Risk-Based Pricing แก้หนี้นอกระบบยั่งยืน

วันที่ 13 กันยายน 2568 นายวรภัค ธันยาวงศ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย (KTB) และว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเสนอแนวทางจัดการปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนการเดินหน้ากลไก Risk-Based Pricing (RBP) ซึ่งอยู่ระหว่างการผลักดันโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สมาคมธนาคารไทย และผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย

การประชุมร่วมครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการออกแบบ RBP ในประเทศไทย โดยแนวคิดนี้ไม่เพียงช่วยลดดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ที่มีวินัยการเงินดี แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้มีความเสี่ยงสูงสามารถกู้ได้ในระบบ ไม่ต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงถึง 60–200% ต่อปี

สรุปข่าว

ว่าที่ รมช.คลัง วรภัค ธันยาวงศ์ หนุนกลไก Risk-Based Pricing เป็นเครื่องมือใหม่แก้หนี้นอกระบบ ลดข้อจำกัดเพดานดอกเบี้ยที่ผลักผู้กู้สู่เจ้าหนี้เถื่อน ชี้หากทำได้จริง จะสร้างเครดิตให้ประชาชน เข้าถึงสินเชื่ออย่างยั่งยืน และเปลี่ยนโครงสร้างทางการเงินไทยทั้งระบบ

วันที่ 13 กันยายน 2568 นายวรภัค ธันยาวงศ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย (KTB) และว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเสนอแนวทางจัดการปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนการเดินหน้ากลไก Risk-Based Pricing (RBP) ซึ่งอยู่ระหว่างการผลักดันโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สมาคมธนาคารไทย และผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย

การประชุมร่วมครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการออกแบบ RBP ในประเทศไทย โดยแนวคิดนี้ไม่เพียงช่วยลดดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ที่มีวินัยการเงินดี แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้มีความเสี่ยงสูงสามารถกู้ได้ในระบบ ไม่ต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงถึง 60–200% ต่อปี

นายวรภัคชี้ว่า RBP คืออนาคตของสินเชื่อไทย โดยมีหลักการ “เสี่ยงสูงกู้ได้ เสี่ยงต่ำกู้ถูกลง” สร้างความยุติธรรมทางการเงิน (Financial Fairness) ที่แท้จริง และช่วยแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่เพียงนโยบายชั่วคราว แนวทางนี้ยังสอดคล้องกับหลักการ Financial Inclusion และ Responsible Lending ที่หลายประเทศประสบความสำเร็จ เช่น อินเดียที่ยกเลิกเพดานดอกเบี้ยไมโครไฟแนนซ์ตั้งแต่ปี 2022 อินโดนีเซียที่ธนาคาร BRI ใช้ RBP กับลูกค้ารายย่อยกว่า 30 ล้านราย และเคนยาที่ใช้ RBP ใน SME lending จนสินเชื่อขยายตัวกว่า 11.4% ในปีเดียว

อย่างไรก็ตาม การใช้ RBP ต้องอาศัยศักยภาพของผู้ให้บริการ ทั้งด้านโมเดลเครดิตที่แม่นยำ การเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใส การดูแลลูกหนี้หลังปล่อยกู้ รวมถึงการใช้โครงสร้างดิจิทัลเพื่อลดต้นทุน ซึ่งไม่ใช่ทุกสถาบันจะสามารถดำเนินการได้

สำหรับประเทศไทย ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมทดลองผ่าน pilot sandbox เพื่อประเมินผล ทั้งความเป็นไปได้ในการใช้งานจริง ผลต่อการลดหนี้นอกระบบ และผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยในระบบ หากได้ผล จึงจะขยายสู่การใช้ในวงกว้าง

นายวรภัคย้ำว่า ประเทศไทยไม่ควรกลับไปสู่การควบคุมเพดานดอกเบี้ยแบบเหมารวม แต่ควรมุ่งสู่กลไก RBP ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสร้างเครดิตและเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Getty Image

บรรณาธิการออนไลน์