น้ำท่วมล่าสุด! ยังประสบภัย 10 จังหวัด กระทบ 4,207 ครัวเรือน

น้ำท่วมล่าสุด! ยังประสบภัย 10 จังหวัด กระทบ 4,207 ครัวเรือน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ห่วงใยและได้ติดตามสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยให้จังหวัดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ และเร่งสำรวจ ช่วยเหลือและดูแลประชาชน

สรุปข่าว

นายกฯ ห่วงใย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนืออย่างใกล้ชิด ขณะที่ปภ. อัปเดตน้ำท่วมปัจจุบันมี 10 จังหวัดที่ยังได้รับผลกระทบ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 17 อำเภอ 54 ตำบล 207 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,207 ครัวเรือน 15,563 คน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ห่วงใยและได้ติดตามสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยให้จังหวัดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ และเร่งสำรวจ ช่วยเหลือและดูแลประชาชน

“นายกฯ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด สั่งการหากต้องการความช่วยเหลือสามารถรายงานตรงกับอธิบดี ปภ. ได้เลย ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนได้ทางช่องทางของ ปภ. และหากสถานการณ์มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อประชาชน จะส่งแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast และสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ. รับแจ้งเหตุ” และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง”

สถานการณ์น้ำท่วม

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานว่า อิทธิพลของพายุ “บัวลอย” ได้ส่งผลกระทบกับหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 68 – ปัจจุบัน เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ในพื้นที่ 14 จังหวัด ในพื้นที่ 31 อำเภอ 85 ตำบล 352 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 5,484 ครัวเรือน 18,647 คน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ต.ค. 68 เวลา 06.00 น.) 

ปัจจุบันมี 10 จังหวัดที่ยังได้รับผลกระทบ 

ได้แก่ แม่ฮ่องสอน พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม สุรินทร์ นครราชสีมา และปราจีนบุรี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 17 อำเภอ 54 ตำบล 207 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,207 ครัวเรือน 15,563 คน โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตยังคงส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง ย้ำหน่วยงานบริหารจัดการสาธารณภัยและการใช้ทรัพยากรโดยใช้กลไกศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center: EOC) และยึดหลักความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ อิทธิพลของพายุ “บัวลอย” ส่งผลให้ยังคงมีสถานการณ์ฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยกรมอุตุนิยมวิทยายังคาดการณ์ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ อาจจะส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ช่วงประมาณวันที่ 5 ตุลาคมนี้

“ขอให้ทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งการเตรียมทรัพยากรในการป้องกัน เตรียมพื้นที่อพยพประชาชน พร้อมจะต้องเร่งสำรวจเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยต้องใช้ทุกกลไกร่วมกันรับมือช่วยดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ ต้องประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรับรู้รับทราบผ่านทุกช่องทาง ให้สามารถเตรียมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีด้วย” นายสิริพงศ์กล่าว

ที่มาข้อมูล : รัฐบาล

ที่มารูปภาพ : ปภ.