ทุกวันที่ 25 ตุลาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันโอเปร่าโลก (World Opera Day)” เพื่อเฉลิมฉลองศิลปะแห่งการแสดง ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง “เสียงดนตรี” “เรื่องราว” และ “อารมณ์ของมนุษย์” ไว้อย่างงดงาม
วันนี้ไม่ได้เป็นเพียงวันของนักร้องเสียงทรงพลังบนเวทีเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่โลกให้เกียรติแก่ศิลปะการแสดงแขนงหนึ่ง ที่สะท้อนความงามของวัฒนธรรม การสื่อสาร และพลังแห่งเสียงดนตรีที่ไร้พรมแดน
สำหรับประวัติของ “วันโอเปร่าโลก” เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2019 โดยองค์กร Opera Europa, Opera America และ Ópera Latinoamérica สามเครือข่ายใหญ่ระดับนานาชาติ ที่ต้องการเผยแพร่คุณค่าของโอเปร่าให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น
สรุปข่าว
ทุกวันที่ 25 ตุลาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันโอเปร่าโลก (World Opera Day)” เพื่อเฉลิมฉลองศิลปะแห่งการแสดง ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง “เสียงดนตรี” “เรื่องราว” และ “อารมณ์ของมนุษย์” ไว้อย่างงดงาม
วันนี้ไม่ได้เป็นเพียงวันของนักร้องเสียงทรงพลังบนเวทีเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่โลกให้เกียรติแก่ศิลปะการแสดงแขนงหนึ่ง ที่สะท้อนความงามของวัฒนธรรม การสื่อสาร และพลังแห่งเสียงดนตรีที่ไร้พรมแดน
สำหรับประวัติของ “วันโอเปร่าโลก” เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2019 โดยองค์กร Opera Europa, Opera America และ Ópera Latinoamérica สามเครือข่ายใหญ่ระดับนานาชาติ ที่ต้องการเผยแพร่คุณค่าของโอเปร่าให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น
วันที่ 25 ตุลาคม ถูกเลือกขึ้นมา เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของคีตกวีชื่อดังสองคน ได้แก่ Georges Bizet (ผู้ประพันธ์โอเปร่าชื่อดัง Carmen) และ Johann Strauss II (ผู้ประพันธ์ The Bat – Die Fledermaus) เพื่อเป็นการรำลึกถึงผลงานของพวกเขาที่มีอิทธิพลต่อวงการโอเปร่าทั่วโลก
สำหรับโอเปร่าถือเป็นศิลปะที่รวมศาสตร์หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ดนตรี วรรณกรรม ศิลปะการแสดง และแฟชั่น ซึ่งไม่ใช่แค่การร้องเพลง แต่คือการ “เล่าเรื่องด้วยเสียงและอารมณ์” ที่สามารถถ่ายทอดความรัก ความสูญเสีย ความกล้าหาญ และความหวังได้อย่างทรงพลัง
ในยุคปัจจุบัน แม้โอเปร่าจะดูเป็นศิลปะที่ห่างไกลจากชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ แต่แท้จริงแล้ว มันยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปะร่วมสมัยมากมาย ตั้งแต่ภาพยนตร์ ดนตรีคลาสสิก ไปจนถึงเพลงป๊อปที่เราฟังกันในทุกวันนี้
ที่มาข้อมูล : www.daysoftheyear.com
ที่มารูปภาพ : Canva
