
คืบหน้าน้ำท่วมภาคใต้
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรง ทำให้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่
โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.) มีสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา และปัตตานี รวม 66 อำเภอ 316 ตำบล 2,258 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 239,699 ครัวเรือน 645,247 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์น้ำภาพรวมในปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
สรุปข่าว
คืบหน้าน้ำท่วมภาคใต้
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรง ทำให้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่
โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.) มีสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา และปัตตานี รวม 66 อำเภอ 316 ตำบล 2,258 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 239,699 ครัวเรือน 645,247 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์น้ำภาพรวมในปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคใต้ พื้นที่ใกล้เคียง หรือศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัย เร่งส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนจังหวัดที่ประสบสถานการณ์ภัย พร้อมออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว ซึ่งทีมปฏิบัติการ ปภ. ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตนอกพื้นที่ได้ทยอยนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
โดยเข้าสนับสนุนการดำเนินการให้กับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา เพื่อรับมอบภารกิจในการปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย อาทิ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการ จำนวน 17 นาย และเครื่องจักรกลสาธารณภัย จำนวน 34 รายการ ได้แก่ รถผลิตน้ำดื่ม จำนวน 1 คัน รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 คัน รถบรรทุกเครื่องสูบน้ำท่วม/ขัง จำนวน 2 คัน รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน
รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 3 คัน รถประกอบอาหารพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก 2 คัน รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขนาดไม่น้อยกว่า 200 KVA พร้อมโคมไฟส่องสว่าง แบบเสาสูง 9 เมตร จำนวน 1 คัน รถสูบน้ำกู้ภัยเคลื่อนที่สมรรถนะสูง แบบโมบายยูนิต พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน รถดับเพลิงพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 คัน เครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 เครื่อง เครื่องต้นกำลังไฮดรอลิค ขนาด 200 แรงม้า (เครื่องสูบน้ำ) จำนวน 2 เครื่อง เครื่องต้นกำลังไฮดรอลิค ขนาด 75 แรงม้า (เครื่องสูบน้ำ) จำนวน 1 เครื่อง เรือท้องแบนอะลูมิเนียม จำนวน 6 ลำ และเครื่องยนต์เรือ จำนวน 6 เครื่อง
นอกจากนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการ จำนวน 4 คน พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ได้แก่ เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 4 ชุด รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี ส่งเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการ จำนวน 6 คน พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ได้แก่ เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 10 ชุด รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ ติดตั้งเครน จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน
น้ำท่วมภาคเหนือ-กลาง
สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และนครปฐม รวม 49 อำเภอ 440 ตำบล 2,888 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 145,988 ครัวเรือน 490,855 คน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะยังคงติดตามสถานการณ์และสนับสนุนทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและสนับสนุนการทำงานของจังหวัดในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยหากประชาชนพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง “ไลน์ ปภ. รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ID @1784DDPM หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือต่อไป
- น้ำท่วมหาดใหญ่! น้ำทะลัก สภ.หาดใหญ่ ปชช.แห่จอดรถบนสะพานหนีน้ำ
- ฝนตกหนัก! น้ำท่วมใต้ ยังประสบภัย 8 จังหวัด กระทบ 124,003 ครัวเรือน
- กรมชลฯ ชี้แจงกรณีน้ำท่วมซ้ำซาก “อยุธยา” ข้อเท็จจริงบริหารจัดการน้ำ
- ประกาศ! ลุ่มน้ำคลองเสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ ระดับน้ำใกล้แตะระดับตลิ่ง-เพิ่มต่อเนื่อง
- ท่าดินแดงอยุธยายังวิกฤตน้ำสูง 4 เมตร
ที่มาข้อมูล : ปภ.
ที่มารูปภาพ : Pr.Songkhla ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
