กลาโหมระดมยุทโธปกรณ์ทุกเหล่าทัพปฏิบัติการกู้ภัยน้ำท่วมใต้ เร่งอพยพ - ส่งเสบียง

ระดมทรัพยากรครั้งใหญ่เทียบเคียงภารกิจช่วยเชียงราย

กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติแผนปฏิบัติการและระดมทรัพยากรขนาดใหญ่ทันที ดังนี้:

• กองทัพอากาศ: เตรียมเครื่องบินลำเลียง C-130 จำนวน 5 ลำ เพื่อสนับสนุนการลำเลียงเสบียง เวชภัณฑ์ และการอพยพฉุกเฉิน
• กองทัพเรือ: เรือหลวงจักรีนฤเบศร พร้อมเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือ 2 ลำ และชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยซีล 13 ชุด เดินทางถึงจังหวัดสงขลาแล้ว เพื่อใช้ปฏิบัติการเทียบเคียงภารกิจช่วยเหลืออุทกภัยครั้งใหญ่ในอดีต
• กรมการทหารช่าง: ส่งเรือท้องแบน 8 ลำ, เรือยาง 17 ลำ, เรือยนต์/เรือยางเพิ่ม 15 ลำ, และ รถบรรทุกทางยุทธวิธี (FTS) กว่า 120 คัน เข้าพื้นที่

นอกจากนี้ ยังมีการจัดส่ง ชุดแพทย์ทหาร จากทุกเหล่าทัพ เข้าสู่พื้นที่เสี่ยงและศูนย์พักพิง เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน

ตั้งโครงสร้างบัญชาการ 2 โซน เน้นความรวดเร็ว

เพื่อให้การปฏิบัติการมีเอกภาพและลดความซ้ำซ้อน กลาโหมได้จัดระบบบัญชาการร่วม โดยกำหนดให้ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์หลัก และ ผบ.นทพ. เป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ พร้อมทั้งแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น 2 โซน คือ โซนตะวันออก (รับผิดชอบโดย ทภ.4) และโซนตะวันตก (รับผิดชอบโดย ปภ. เขต 12)

เร่งช่วยผู้ป่วยวิกฤติ รพ.หาดใหญ่เสี่ยงขาดออกซิเจน

สถานการณ์เร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันทีคือ การช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะที่ โรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งกำลังเสี่ยงขาดแคลนออกซิเจน เนื่องจากเครื่องผลิตออกซิเจนจมใต้น้ำ กระทรวงกลาโหมกำลังเร่งประสานเฮลิคอปเตอร์เพื่ออพยพผู้ป่วยวิกฤตไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) ภายในวันนี้

เป้าหมายเร่งด่วนสูงสุดของภารกิจ ได้แก่:

1. เร่งอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงให้ ครบ 100%

2. เปิดเส้นทางขนส่งหลักอย่างน้อย 3–5 จุดสำคัญ

3. เติมเสบียงให้พื้นที่ถูกตัดขาดทั้งหมด

5.เสริมระบบการแพทย์ภาคสนามและการอพยพผู้ป่วยฉุกเฉิน

กระทรวงกลาโหมได้จัดตั้งศูนย์บริหารข้อมูลข่าวสารเพื่อรวบรวมข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างตรงจุดที่สุด พร้อมยืนยันว่า ยุทโธปกรณ์ทางอากาศชุดแรกจะเริ่มทยอยออกจากกองบิน 6 ภายในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย. 68)