
สรุปข่าว
วันนี้( 21 พ.ค.63) นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า เห็บมีหลายชนิดเป็นพาหะนำโรคติดเชื้อ มักอาศัยอยู่บริเวณต้นหญ้าสูง ๆ หรือเกาะอยู่กับสัตว์เลี้ยง เช่น หมา หรือ แมว ซึ่งถ้าถูกเห็บกัดจะไม่มีอาการเจ็บเพราะในน้ำลายของเห็บมีสารที่ทำให้เกิดอาการชาเฉพาะที่แต่อาการที่เห็นชัดเจน คือมีตุ่มนูนบวมแดงในบางรายที่มีอาการแพ้อาจมีไข้ หรือผื่นลมพิษกำเริบได้ ดังนั้นการรักษาที่ถูกวิธีจะช่วยให้หายจากอาการผื่น บวมแดงหรือแม้กระทั่งอาการอัมพาตชั่วคราวได้อย่างรวดเร็ว
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า เมื่อถูกเห็บกัดเบื้องต้นให้คีบหัวของเห็บแล้วค่อยดึงออกขึ้นตรง ๆ แต่ต้องระวังอย่าคีบบริเวณลำตัวหรือท้องของเห็บและไม่บิดคีมขณะที่กำลังคีบเพราะจะทำให้ส่วนปากของเห็บยังคงค้างอยู่ในผิวหนัง จะทำให้อาการเรื้อรังตามมาได้ หลังจากเอาตัวเห็บออกใช้ยาทาลดการอักเสบ บวมแดง ในกรณีที่อาการบวมแดงรุนแรงจำเป็นต้องฉีดยาใต้ผิวหนังแต่ต้องให้แพทย์พิจารณาการรักษาเฉพาะราย โดยทั่วไปอาการที่เกิดจากเห็บกัดมีเพียงอาการเฉพาะที่ พบน้อยมากในรายที่เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เกิดอัมพาตหลังจากถูกเห็บกัด ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัวจากนั้นระยะเวลาไม่นานจะเกิดเป็นอัมพาต ซึ่งภาวะนี้อาจนำไปสู่ภาวะระบบหายใจล้มเหลวเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อาการอัมพาตมักเกิดหลังจากถูกเห็บกัด 4-6 วัน ดังนั้นควรรีบคีบเห็บออกจากผิวหนังทันทีอาการอัมพาตก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว
Cr. กรมการแพทย์
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
- หมอเด็กแนะวิธีการรักษาโควิดในเด็กเบื้องต้น
- มะเร็งผิวหนัง ชนิดที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง? เช็กอาการ ปัจจัยเสี่ยง
- ถอดรหัสความเสี่ยง 'นวดผิดวิธี' โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคประจำตัว
- โรงพยาบาลราชวิถี ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดสำเร็จเป็นรายแรกของโรงพยาบาลและกรมการแพทย์
- สถาบันประสาทวิทยาโชว์ นวัตกรรมหุ่นยนต์กล้องผ่าตัด ความแม่นยำสูง ลดความเสี่ยง
- มีแผลเรื้อรังในช่องปาก สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีความเสี่ยงเกิดมะเร็งช่องปาก
- สัญญาณเตือน อัมพาตเฉียบพลัน (Stroke) พร้อมวิธีรับมืออย่างทันท่วงที
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand