สรุปดรามา BMW พีช ชนลุงป้า “กัน จอมพลัง” ปะทะ “สป.สายไหม”

18 เมษายน 2568: พีชเข้าพบตำรวจ รับ 4 ข้อหา

ในวันที่ 18 เมษายน 2568 พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรลำลูกกา เปิดเผยว่า ได้แยกคดีออกเป็น 2 ส่วน:

กรณีเฉี่ยวชนกันบริเวณหลังด่านเอ็มโฟร์ รับผิดชอบโดยตำรวจทางหลวง

กรณีขับรถปาดกันจนรถกระบะชนแบริเออร์ อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ลำลูกกา

ช่วงค่ำวันเดียวกัน นายสมิทธิพัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ลำลูกกา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา 4 ข้อหา

1. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส (กรณีคุณลุง)
2. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ (กรณีคุณป้า)
3. ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
4. ทำให้เสียทรัพย์

19 เมษายน 2568: ผบ.ตร. ส่งตำรวจสอบปากคำลุงป้าถึงเตียงคนไข้

วันที่ 19 เมษายน 2568 นายสมิทธิพัฒน์ พร้อมด้วยบิดา นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ เดินทางมาที่ สภ.ลำลูกกา เวลาประมาณ 15.10 น. โดยนายพีชถือพวงมาลัยและคุกเข่าขอโทษครอบครัวของผู้เสียหาย พร้อมแสดงความยินยอมที่จะดูแลค่าเสียหายทั้งหมด

นายพีชเปิดเผยว่า สาเหตุที่ไม่ได้ไปเยี่ยมผู้เสียหายในวันแรกเนื่องจากตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาหลบหนี พร้อมขอโอกาสจากสังคม

ในวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.รัชพล บุญวิเชียร รอง ผกก.สส.สภ.ลำลูกกา และ พ.ต.ต.สมโภช สืบวงศกร สารวัตรสอบสวน เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บและสอบปากคำที่โรงพยาบาลบางประกอกรังสิต 2

จากการสอบถาม พบว่านายประจักษ์ มีอาการกระดูกซี่โครงด้านขวาหัก 6 ซี่ และมีอาการเจ็บบริเวณหน้าอก รักษาตัวในห้องผู้ป่วยวิกฤต ไม่สามารถให้ปากคำได้ ส่วนนางสาวสมศรี ดวงใย อาการดีขึ้นและสามารถให้ปากคำได้แล้ว 

20 เมษายน 2568: กัน จอมพลัง ลงพื้นที่ เยี่ยมเหยื่อ-ออกค่ารักษา

วันที่ 20 เมษายน 2568 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" ได้เดินทางไปเยี่ยมลุงและป้าที่โรงพยาบาลบางประกอก-รังสิต 2 เวลา 15.00 น. เขาเปิดเผยว่าได้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลแล้วรวม 74,305 บาท แบ่งเป็นเงินส่วนตัว 47,697 บาท และจากมูลนิธิกันจอมพลังอีก 26,608 บาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจาก พ.ร.บ. อีกคนละ 30,000 บาท รวม 60,000 บาท

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ชำระเงินไปเมื่อเวลา 11.00 น. และปรากฏว่าคู่กรณีเดินทางมาขอจ่ายเงินหลังจากนั้น โดยยืนยันว่ายินดีและเปิดทางให้คู่กรณีช่วยเหลือ แต่อยากให้แสดงความรับผิดชอบที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงเพื่อถ่ายรูปหรือลดโทษ

ในวันเดียวกัน กัน จอมพลัง ได้กล่าวถึงกรณีที่ "สป.สายไหม" โพสต์ในโซเชียลมีเดียพาดพิงถึงตนว่า เป็นเพียง "เด็กน้อย คนละเบอร์กัน" ไม่ได้สนใจเพราะตนทำในสิ่งที่ถูกต้อง พร้อมเล่าถึงอดีตที่เคยประสานงานให้ตำรวจ สภ.ลำลูกกา เข้าจับกุมบ่อนการพนันในพื้นที่

นอกจากนี้ กัน จอมพลัง ยังได้ตอบกลับโพสต์ของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ "เต้ มงคลกิตติ์" ที่เตือนให้เขาถอย โดยกล่าวว่า "ไม่ต้องเป็นห่วงผม อยากให้พี่เต้ไปดูแลโซนพระราม 7 เดี๋ยวผมจัดการตรงนี้เอง"

เสียงสะท้อนจากพื้นที่: ยังหนุน “นายกเบี้ยว”

จากการสำรวจความคิดเห็นของชาวบ้านในเขตตำบลธัญบุรี พบว่าหลายคนยังให้การสนับสนุนนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ และทีมงาน โดยบอกว่า "นายกเบี้ยว" ดูแลประชาชนดีมากควรแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงาน