เวิร์กไหม? หมอเหรียญทอง ชูไอเดีย "ทัวร์หนีตาย" รับผู้ป่วยโควิดมารักษาหารายได้

วันนี้ (21 เม.ย.63) พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ อดีตนายทหารยุทธการ กรมแพทย์ทหารบก โพสต์เฟซบุ๊กถึง ผอ.ศบค. และคณะทำงาน ศบค. ระบุว่า สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ยังคงรุนแรงต่อเนื่องต่อไปอีกหลายเดือน โดยเฉพาะในต่างประเทศ จึงขอเสนอให้รัฐบาลใช้สนามบินที่ว่างเปล่า มีประชากรพักอาศัยใกล้สนามบินน้อย

สมมติว่าเป็นสนามบินเพชรบูรณ์ พัฒนาให้เป็น "โรงพยาบาลศูนย์นานาชาติเพื่อรับการส่งต่อผู้ป่วยจากต่างประเทศ" โดยเป็นโรงพยาบาลสนามที่มีขีดความสามารถทางการแพทย์เฉพาะทาง สำหรับผู้ป่วยติดเชื้ออย่างครบครันและเบ็ดเสร็จ 

จากนั้นใช้ การบินไทย และพันธมิตร ทำการบินขนส่งผู้ป่วยจากต่างประเทศทั่วโลกมาลงที่สนามบินเพชรบูรณ์ เพื่อทำการรักษา กักกัน จนสิ้นสุดการรักษาแล้วส่งออกคืนประเทศต้นสังกัด ไทยจะมีรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในสถานการณ์ระบาดทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

คนไทยอย่ากลัวว่าจะเป็นการนำเข้าเชื้อโรคเข้ามาในประเทศ เพราะหากจะทำโครงการในลักษณะนี้ เราจะต้องจำกัดเขตสนามบินที่จะใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลศูนย์นานาชาติ เพื่อรับการส่งต่อผู้ป่วยจากต่างประเทศ ให้เป็นเขตต้องห้าม เราต้องกล้าคิด กล้าทำ ในสถานการณ์วิกฤตซึ่งจะเป็นโอกาสของประเทศให้ดำรงความอยู่รอดต่อไปได้ เพียงแต่กล้าด้วยความรอบคอบเท่านั้น

วันนี้ประเทศไทยได้แสดงแสนยานุภาพทางการแพทย์ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลก  เป็นโอกาสของชาติที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยแนวคิด "สุขภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพ้อเจ้อ ไม่ใช่เรื่องตลกสนุกโพสต์เอามันส์…แต่นี่คือโอกาสทางเศรษฐกิจของชาติและปวงชนชาวไทย

พลตรี เหรียญทอง ยังโพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี และคณะทำงาน ศบค. เสนอโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย "ทัวร์ผู้ลี้ภัยโควิด-19" หรือ "ทัวร์หนีตาย" ระบุว่า การที่ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดและมีสถิติการรักษาผู้ป่วยโควิดได้ผลดีมาก ได้รับความเชื่อมั่นจากชาวต่างชาติทั้งยุโรป-สหรัฐอเมริกา-เอเซีย ดังนั้นหากรัฐบาลไทยจัดให้มี "ทัวร์ผู้ลี้ภัยโควิด-19" โดยใช้สนามบินภายในประเทศที่ถูกทิ้งร้างว่างเปล่าในจังหวัดต่างๆ มาเป็นสนามบินนานาชาติชั่วคราว  

โดยคัดกรองคัดแยกผู้ลี้ภัยที่ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อ ให้กักกันพักอยู่ภายในสนามบินที่จัดให้มีความสะดวกสบาย ปลอดภัย  เมื่อผ่านการตรวจไม่พบการติดเชื้อก็ให้พักผ่อนในโรงแรมต่างๆ นอกสนามบิน โดยระยะเวลาในการพำนักอาศัยในประเทศไทยให้ยาวนานจนกว่าสถานการณ์ระบาดทั่วโลกทุเลาเบาบางลง

จะทำให้ประเทศไทยยังคงมีรายได้จากการท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจการบิน โรงแรม การค้าขาย บริการ การจ้างงาน ฯลฯ ของไทยดำรงอยู่รอดได้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโรคระบาด

ด้าน ชาวโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความเห็นทาง 2 มุม โดยมองว่าเป็นอีกหนทางที่จะสามารถหารายได้เข้าประเทศได้ แต่ต้องเป็นพื้นที่ปิด เช่น เกาะ เพื่อป้องกันการบังเอิญการติดเชื้อ อาจจะเป็นเกาะที่มีสนามบิน และสต๊าฟที่ทำงานที่นั่น ต้องเสียสละไม่ได้กลับบ้าน 6 เดือน จะสามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้

ขณะที่ อีกมุมมองหนึ่ง เห็นว่า ปัจจุบันอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังไม่เพียงพอ อีกทั้ง บุคลากรทางการแพทย์มีไม่มาก และยังต้องรักษาคนในประเทศอีก กลายเป็นการผลักภาระให้กับกลุ่มคนภาคสนาม

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand