
ปภังกร ธวัชธนกิจ เป็นชื่อที่แฟนกอล์ฟชาวไทยคุ้นหูเป็นอย่างดี ทั้งที่จริงแล้ว “โปรแพ็ตตี้” ที่ผู้ชมทั่วโลกรู้จักอยู่ในสายอาชีพมา 6 ปีเท่านั้น และเส้นทางนี้ยังทอดยาวออกไป มีเวลาและโอกาสอีกมากมาย
ปภังกร เป็นลูกสาวของคุณพ่อคุณแม่นักธุรกิจ ธนธัช และ ทิพยรัตน์ ธวัชธนกิจ ที่มองเห็นพรสวรรค์ในตัวตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบเท่านั้นจากการแข่งขันตีไกลที่โรงเรียน จากนั้นจึงเริ่มสนใจ และขอเรียนตีกอล์ฟอย่างจริงจัง ก่อนก้าวไปคว้าแชมป์ในระดับประเทศ ร่วมด้วยฝีมือที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้นทีละน้อย
คุณพ่อธนธัชยอมรับตามตรงว่า ฐานะทางบ้านไม่ร่ำรวย แค่พอมีพอกิน ช่วงเวลาสามปีแรก คุณพ่อและคุณแม่ติดตามรับส่ง ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด จนกระทั่งได้รับการสนับสนุน ทำให้ทั้งสองวางเส้นทางให้ “เหมียว” เข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ แม้ที่โรงเรียนไม่มีทีมก็ไม่เป็นไร เพราะยังอยู่ในระดับเก็บประสบการณ์ ตระเวนแข่งขันในประเทศไทยและต่างประเทศ
พรสวรรค์ของปภังกรฉายแววชัดเจน เมื่อปี 2014 คว้าแชมป์ จูเนียร์ เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ และยังได้รางวัลผู้เล่นสมัครเล่นยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทยในปีถัดมาต่อด้วยแชมป์ โรเล็กซ์ ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปี้ยน ระดับเอเชียในปี 2016 ไม่เคยว่างเว้นจากการฉายแสงในความสามารถที่มี จึงตัดสินใจไม่ยากที่คุณพ่อและคุณแม่จะสนับสนุนให้เรียนต่อและเล่นกอล์ฟที่สหรัฐ ปูทางไปสู่การเป็นโปรระดับโลก

สรุปข่าว
ด้วยรางวัลที่บอกถึงความสามารถ ทำให้มีมหาวิทยาลัย 20 แห่งในสหรัฐพร้อมจะมอบทุนให้ และมหาวิทยาลัย UCLA ก็เป็นสถานที่เรียนและทีมที่เลือก การเข้าสู่ทีมระดับมหาวิทยาลัยยังเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ปภังกร หรือ “แพ็ตตี้” ได้รับรางวัลเด็กปีหนึ่งยอดเยี่ยมจาก WGCA หรือสหพันธ์โค้ชหญิงกีฬากอล์ฟ และ Pac-12 Coference ซึ่งเปรียบเทียบให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในดิวิชั่นของประเภทกีฬากอล์ฟหญิงนั่นเอง ทุกอย่างที่ว่านั้นคือเส้นทางสู่อาชีพ ในที่สุดเมื่อเข้าสู่ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น 2018 ปภังกรก็เป็นผู้เล่นระดับสมัครเล่นที่ทำสกอร์ต่ำที่สุด ความเป็นไปได้ในการก้าวสู่อาชีพอยู่ไม่ไกล
ปี 2019 ปภังกร เริ่มเดินทางสายอาชีพใน ซีเมตรา ทัวร์ หรือการแข่งขันระดับดิวิชั่นสอง ที่จัดขึ้นในเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี และคว้าแชมป์ 3 จาก 8 รายการที่ลงเล่น พร้อมกับรางวัลรุกกี้ยอดเยี่ยมแห่งปี ฝีมือที่ดีขึ้นในทุกปี ทำให้ในปีถัดมาเริ่มเข้าสู่ แอลพีจีเอทัวร์ ลงเล่นรายการแรกที่ เกนบริดจ์ แอลพีจีเอ แอท โบคา ริโอ แม้ไม่ได้สวยงามอย่างใจคิด จบในอันดับ 35 ร่วม และลงเล่น 14 รายการในปี 2020
นานนับสิบปี ตั้งแต่เริ่มเรียนกอล์ฟ ฝึกฝน แข่งขัน ในที่สุดการทำงานหนักก็ตอบแทนในปี 2021 รายการเมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น ชื่อเดิมของเมเจอร์ เดอะ เชฟรอน แชมเปี้ยนชิพ กลายเป็นแชมป์แรกในทัวร์ใหญ่และแชมป์เมเจอร์ครั้งแรกของ แพ็ตตี้ ธวัชธนกิจ ที่ไม่ใช่ความฝันกลายเป็นความจริง แต่เป็นรางวัลของครอบครัวที่ดูแลและทุ่มเทเพื่อลูกสาวคนเดียวเสมอมา
หลังจากปลดล็อกด้วยการคว้าแชมป์อันยิ่งใหญ่ ปภังกรก็เดินหน้าเล่นอาชีพ แต่ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีหลังจากนั้น กลับไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดได้เลย ปี 2022 เธอกลับมาในรายการเมเจอร์ที่คว้าแชมป์เมื่อปีก่อน จบด้วยอันดับ 4 ร่วม แต่อีก 4 เมเจอร์ถัดจากนั้นไม่ผ่านการตัดตัว และปีถัดจากนั้น ไม่สามารถขึ้นท็อป 10 ในรายการเมเจอร์ได้ และรวมสถิติในสองปี ติดท็อป 10 ในแอลพีจีเอทัวร์เพียง 4 รายการ หล่นจากมือ 11 ของโลกเป็นอันดับ 71 เมื่อจบปี 2023
ปีนั้น ปภังกรไม่มีแชมป์เดี่ยว แต่มีแชมป์ประเภททีมร่วมกับเพื่อนๆ ทีมชาติไทยใน ฮันฮวา ไลฟ์พลัส อินเตอร์เนชั่นแนล คราวน์ ที่เอาชนะออสเตรเลียในรอบชิงชนะเลิศ และได้รับคำชมล้นหลามจากสื่อทั่วโลกว่าโปรจากไทยมีทีมเวิร์กและบรรยากาศในทีมอันยอดเยี่ยมร่วมกับ อาฒยา ฐิติกุล, โมรียา และ เอรียา จุฑานุกาล เป็นทีมที่เกือบสมบูรณ์แบบ
เอรียา คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมสมฐานะอดีตมือ 1 โลกซึ่งปภังกรกล่าวว่า “รู้สึกเหมือนได้กลับเป็นเด็กอีกครั้ง” ในฐานะรุ่นน้องร่วมอาชีพที่เคยได้ชมรุ่นพี่เล่นกอล์ฟ แต่วันนี้ได้กลายเป็นเพื่อนร่วมทีมที่เป็นทั้งความฝันและเป็นเกียรติอย่างมาก
ปภังกรยังเชื่อมั่นกับสิ่งที่เคยกล่าวไว้เมื่อครั้งที่คว้าแชมป์เมเจอร์ว่า “เมื่อเราเชื่อมั่นในตนเองและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้” และเธอกลับมาอีกครั้งในปี 2024 เลดี้ส์ยูโรเปี้ยน อารัมโก้ ซาอุดิ เลดี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ ริยาห์ด กอล์ฟ คลับ เป็นแชมป์แรกในรอบสามปี หลังจากพัตต์ที่หลุม 18 ลง เธอขยับหมวกเล็กน้อย ก้มหน้าร่ำไห้ ขณะที่เพื่อนๆ วิ่งมาร่วมแสดงความยินดี
หลังจากคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเอาชนะอันดับ 2 ถึง 7 สโตรก แพ็ตตี้ยอมรับตามตรงว่า ไม่ได้เล่นดีขนาดนี้มานานแล้ว ซาบซึ้งมาก และซาบซึ้งที่ก้าวข้ามความรู้สึกต่างๆ มากมาย แชมป์ครั้งนี้คือประสบการณ์ที่ทำให้ได้มองย้อนกลับไปว่า ค่อยๆ คิดไปทีละวันจะดีกว่า และจะทำงานหนักต่อไป
สัปดาห์ถัดจากนั้น โปรชาวไทยเดินทางกลับบ้านเกิดใน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ด้วยความสดใส ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 43 ของโลก พร้อมกับความคาดหวังของแฟนๆ ที่รอคอยอยู่เสมอ และครั้งนี้ปภังกรก็สานต่อความสำเร็จได้สมกับที่ตั้งใจ จบรอบสาม เธอเป็นผู้นำ รอบสุดท้ายยังเล่นได้ดีต่อเนื่องเฉือนเอาชนะ อัลบอน วาเลนซูเอล่า สโตรกเดียว กลายเป็นผู้เล่นชาวไทยรายที่สองที่คว้าแชมป์รายการนี้ถัดจาก เอรียา เมื่อปี 2021
แพ็ตตี้กล่าวว่า “ดีใจที่สามารถคว้าแชมป์ต่อหน้าแฟนกอล์ฟชาวไทยและคุณพ่อคุณแม่ ขอบคุณทุกๆ คน รู้สึกโชคดีที่มีแฟนกอล์ฟและครอบครัวคอยสนับสนุน ยอมรับว่าช่วงแรกรู้สึกประหม่า แต่ก็พยายามคุมสติซึ่งก็ทำได้เป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นผู้ชมและเคยเล่นในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นมาก่อน เป็นเหมือนความฝันที่ได้แชมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ซาอุดีอาระเบียและสัปดาห์นี้ก็ได้แชมป์ที่ประเทศไทย การได้เล่นกับนักกอล์ฟที่ดีสุดในโลก และสามารถปิดท้ายได้อย่างสวยงาม”
เมื่อคว้าแชมป์สำเร็จ มีผลงานดี ความมั่นใจก็กลับมาอีกครั้ง ปภังกรมีลุ้นแชมป์เมเจอร์ที่สองในอาชีพที่ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ เริ่มต้นในฐานะผู้นำร่วมรอบแรก และเกาะท็อป 4 เมื่อผ่านสามรอบ แม้ในรอบสามมีความผิดพลาดเล็กน้อย ตีเกินพาร์สนาม ตามหลังผู้นำถึง 5 สโตรก แต่เธอเล่นต่ออย่างระมัดระวัง จบด้วยอันดับ 3 ตามหลัง อายากะ ฟุรุเอะ แชมป์เพียงแค่ 2 สโตรกเท่านั้น
ปี 2025 เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ ก่อนจะมาถึงเมเจอร์แรกของปีที่แพ็ตตี้เคยคว้าแชมป์มาแล้ว ฤดูกาลนี้ลงเล่นไป 4 รายการ ผลงานดีที่สุดคือ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ จบเป็นอันดับ 4 ร่วม และอยู่ในอันดับ 25 ของโลก ไม่ว่าจะเริ่มอย่างไร จบอย่างไร เส้นทางอาชีพของ ปภังกร ธซัชธนกิจ ก็ยังอีกยาวไกลด้วยวัยเพียง 25 ปี