
"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ยอดนักตบลูกขนไก่ชาวไทย ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังผงาดคว้าแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025" มาครองได้สำเร็จต่อหน้า "แฟนกีฬาชาวไทย" ที่ตามมาเชียร์กันอย่างล้นหลานจนแน่น อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ
"รอบชิงชนะเลิศ" ในศึกแบดมินตัน "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025" รายการสะสมคะแนน "บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500" ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 475,000 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 16,150,000 บาท) ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะว่าในปีนี้ "นักกีฬาไทย" มีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ถึง 2 คน ประกอบด้วย "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์
ประเภทชายเดี่ยว "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 2 ของโลก และ มือวางอันดับ 1 ของรายการ พบกับ แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลก และ มือวางอันดับ 2 ของรายการจากเดนมาร์ก ผลปรากฏว่า "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ไม่ทำให้กองเชียร์ชาวไทยต้องผิดหวังเบียดชนะ แอนทอนเซ่น ไปแบบสุดมันส์ 2-1 เกม(21-16, 17-21, 21-9)
"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าถ้วยพระราชทานฯ พร้อมเงินรางวัล 35,625 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,175,625 บาท) และนับเป็นแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่นฯ" ครั้งที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 2023 รวมทั้งยังเพิ่มสถิติเอาชนะ แอนทอนเซ่น ได้เป็นครั้งที่ 2 จากการพบกันทั้งหมด 8 ครั้ง
ประเภทหญิงเดี่ยว "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 6 ของโลก มือวาง 1 ของรายการ พยายามอย่างเต็มที่แต่ต้านไม่ไหว! ก่อนจะพ่ายต่อคู่ปรับสำคัญ เฉิน ยู่เฟย อดีตมือ 1 ของโลก เเละ มือวาง 2 ของรายการจากจีน ไปแบบสนุก 0-2 เกม(16-21, 12-21)
"หมิว" พรปวีณ์ พลาดท่าพ่าย ยู่เฟย เป็นครั้งที่ 14 ครั้ง(พบกันทั้งหมด 15 ครั้ง) รับเงินรางวัลปลอบใจ 18,050 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 595,650 บาท) ส่วนทาง เฉิน ยู่เฟย คว้าถ้วยพระราชทานฯ พร้อมเงินรางวัล 35,625 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 1,175,625 บาท) โดยนับเป็นการครองแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่นฯ" สมัยที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 2019
สรุปข่าว
"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ยอดนักตบลูกขนไก่ชาวไทย ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังผงาดคว้าแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025" มาครองได้สำเร็จต่อหน้า "แฟนกีฬาชาวไทย" ที่ตามมาเชียร์กันอย่างล้นหลานจนแน่น อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ
"รอบชิงชนะเลิศ" ในศึกแบดมินตัน "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025" รายการสะสมคะแนน "บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500" ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 475,000 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 16,150,000 บาท) ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะว่าในปีนี้ "นักกีฬาไทย" มีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ถึง 2 คน ประกอบด้วย "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์
ประเภทชายเดี่ยว "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 2 ของโลก และ มือวางอันดับ 1 ของรายการ พบกับ แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลก และ มือวางอันดับ 2 ของรายการจากเดนมาร์ก ผลปรากฏว่า "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ไม่ทำให้กองเชียร์ชาวไทยต้องผิดหวังเบียดชนะ แอนทอนเซ่น ไปแบบสุดมันส์ 2-1 เกม(21-16, 17-21, 21-9)
"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าถ้วยพระราชทานฯ พร้อมเงินรางวัล 35,625 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,175,625 บาท) และนับเป็นแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่นฯ" ครั้งที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 2023 รวมทั้งยังเพิ่มสถิติเอาชนะ แอนทอนเซ่น ได้เป็นครั้งที่ 2 จากการพบกันทั้งหมด 8 ครั้ง
ประเภทหญิงเดี่ยว "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 6 ของโลก มือวาง 1 ของรายการ พยายามอย่างเต็มที่แต่ต้านไม่ไหว! ก่อนจะพ่ายต่อคู่ปรับสำคัญ เฉิน ยู่เฟย อดีตมือ 1 ของโลก เเละ มือวาง 2 ของรายการจากจีน ไปแบบสนุก 0-2 เกม(16-21, 12-21)
"หมิว" พรปวีณ์ พลาดท่าพ่าย ยู่เฟย เป็นครั้งที่ 14 ครั้ง(พบกันทั้งหมด 15 ครั้ง) รับเงินรางวัลปลอบใจ 18,050 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 595,650 บาท) ส่วนทาง เฉิน ยู่เฟย คว้าถ้วยพระราชทานฯ พร้อมเงินรางวัล 35,625 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 1,175,625 บาท) โดยนับเป็นการครองแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่นฯ" สมัยที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 2019
"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เก็บเพิ่มไปอีก 2,780 คะแนน หลังจากคว้าแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่นฯ" โดยล่าสุดมีทั้งหมด 92,779 คะแนน ยังรั้งเป็น "อันดับที่ 2 ของโลก" แต่ว่าขยับไล่ตาม ฉี ยู่ฉี นักแบดมินตันมือ 1 ของโลกจากจีน เข้ามาเหลือ 7,338 คะแนน
แม้ว่าจะยังไม่สามารถก้าวขึ้นไปยึด "เบอร์ 1 ของโลก" ได้สำเร็จ แต่ว่าผลงานของ "วิว" กุลวุฒิ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว เพราะว่าล่าสุด เจ้าตัว ทำสถิติเป็นนักกีฬาไทยที่อันดับโลกสูงสุดในประเภทชายเดี่้ยว รวมทั้งยังเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ "ไทยแลนด์ โอเพ่นฯ" มาครองได้ 2 สมัยในประเภทชายเดี่ยว
"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2544 ปัจจุบันอายุ 24 ปี เป็นลูกชายของ คุณพ่อณัฐวัชร กับ คุณแม่นัฎกนก วิทิตศานต์ และมีน้องสาว 1 คนคือ "ส้ม" สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ ที่ปัจจุบันถือว่าเป็น "นักแบดมินตันดาวรุ่ง" ฝีมือดีมากเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทย และคว้าแชมป์รายการต่างๆในระดับเยาวชนมาครองได้มากมาย
เส้นทางสายแบดมินตันของ "วิว" กุลวุฒิ เริ่มต้นขึ้นเพราะปัญหาเรื่องสุขภาพ โดนย้อนกลับไปเมื่อตอนอายุ 7 ขวบ! ด.ช.กุลวุฒิ เล่นแบดฯเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเเละหายขาดจาก "โรคภูมิแพ้อากาศ" ภายใต้การดูเเลของ คุณพ่อณัฐวัชร ที่เป็นผู้ฝึกสอนแบดมินตันอยู่แล้ว ก่อนจะเริ่มจริงๆจังมากขึ้นเรื่อยๆและเข้าไปฝึกซ้อมกับ ชมรมแบดมินตันเสนานิคม ภายใต้การดูแลของ ไตรรงค์ ลิ่มสกุล และ เมตไตรย์ อมาตยกุล
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ "วิว" กุลวุฒิ คือการตัดสินใจย้ายไป โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เมื่อปี 2557 ด้วยวัยเพียงแค่ 13 ปี หลังได้รับแรงบันดาลใจเมื่อครั้งที่เห็น "เมย์" รัชนก อินทนนท์ ผงาดคว้า "แชมป์โลก" มาครองได้สำเร็จ และนับจากนั้นเป็นต้นมา เจ้าตัว ก็เริ่มได้รับโอกาสลงสนามแข่งขันรายการต่างๆอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จมากมายทั้งรายการในประเทศและต่างประเทศ
จนกระทั่งปี 2560 ชื่อของ "วิว" กุลวุฒิ เป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงการแบดมินตันระดับโลก เพราะว่า เจ้าตัว สามารถคว้าแชมป์ "เยาวชนโลก" ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาครองได้สำเร็จด้วยวัยเพียง 16 ปี(5 เดือน) กลายเป็น "แชมป์เยาวชนโลก" คนแรกของไทยในประเภทชายเดี่ยว ก่อนจะตอกย้ำความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ "เยาวชนโลก" ได้อีก 2 สมัยในปี 2561 เเละ 2562
ความจริงแล้ว "วิว" กุลวุฒิ ประสบความสำเร็จต่อเนื่องและคว้าแชมป์รายการต่างๆมาครองได้พอสมควร แต่ว่าสำหรับแฟนๆชาวไทยที่อาจจะไม่ใช่ "แฟนแบดมินตันพันธุ์แท้" อาจจะเริ่มรู้จัก "วิว" กุลวุฒิ แบบเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้นในปี 2565 จากผลงานการคว้า "เหรียญทองซีเกมส์ 2021" ที่ประเทศเวียดนาม(แข่งปี 2022) ต่อด้วยการคว้า "รองแชมป์โลก" ในปี 2022 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ปีต่อมา(2566) น่าจะเป็นปีที่ "วิว" กุลวุฒิ แจ้งเกิดได้แบบเต็มตัวในวงการแบดมินตัน หลังจากเอาชนะ นาราโอกะ โคได คู่ปรับสำคัญชาวญี่ปุ่น แบบสุดมันส์ 2-1 เกม ในรอบชิงชนะเลิศแบดมินตันชิงแชมป์โลกฯ ส่งผลให้ เจ้าตัว กลายเป็น "แชมป์โลกชายเดี่ยว" คนแรกในประวัติศาสตร์ของไทย และก้าวตามรอย "เมย์" รัชนก อินทนนท์ แรงบันดาลใจสำคัญของ เจ้าตัว ได้อย่างน่าประทับใจ
ชื่อเสียงและความสำเร็จของ "วิว" กุลวุฒิ ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น! ในปี 2567 เจ้าตัว ดังเป็นพลุแตกและเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ จากผลงานสุดยิ่งใหญ่ในการแข่งขัน "โอลิมปิกเกมส์ 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แม้ว่า เจ้าตัว จะพลาดท่าพ่าย วิกเตอร์ แอ็กเซลเซน ยอดนักแบดชาวเดนมาร์ก ในรอบชิงชนะเลิศ แต่ว่าการคว้า "เหรียญเงินโอลิมปิกฯ" ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว เพราะว่านี่คือ "เหรียญรางวัลแรก" ในประวัติศาสตรของสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ
ส่วนในปีนี้ 2568 "วิว" กุลวุฒิ คว้าแชมป์มาครองได้แล้ว 3 รายการ ประกอบด้วย แบดมินตันชิงแชมป์เอเชีย 2025 , อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2025 และ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 โดยจากบทสัมภาษณ์หลังจบทัวร์นาเมนต์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "วิว" กุลวุฒิ เปิดเผยว่า ตนเอง จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้าแชมป์รายการที่ 4, 5, 6 มาครองให้ได้
ที่มาข้อมูล : มติชน, เดลินิวส์, สยามสปอร์ต, วิกิพีเดีย
ที่มารูปภาพ : ประชาสัมพันธ์