เปิดประวัติ ซน เฮือง มิน ... ยอดนักเตะที่เกือบไม่เคยคว้าแชมป์!

เปิดประวัติ ซน เฮือง มิน ... ยอดนักเตะที่เกือบไม่เคยคว้าแชมป์!

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2024-25 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สามารถเบียดเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแบบหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ เบรนแนน จอห์นสัน ในช่วงท้ายครึ่งแรก ส่งผลให้ "ไก่เดือยทอง" คว้าแชมป์มาครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี และเป็นการประสบความสำเร็จในเวทียุโรปครั้งแรกในรอบ 41 ปี

ชัยชนะครั้งนี้ของ สเปอร์ส สร้างรอยยิ้มให้กับเหล่าสาวก สเปอร์ส ได้พอสมควร เนื่องจากในฤดูกาลนี้ สเปอร์ส โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังมากใน พรีเมียร์ลีก นอกจากนี้การคว้าแชมป์ ยูโรป้าฯ ยังกลายเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ "นักเตะคนหนึ่้ง" ที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานแต่กลับไม่เคยประสบความสำเร็จเลย .... เขาคนนั้นก็คือ ซน เฮือง มิน แข้งตัวเก่งชาวเกาหลีใต้

ซน เฮือง มิน(Son Heung-min) เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 ที่เมืองชุนชอน จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้ แจ้งเกิดขึ้นมากับ ฮัมบูร์ก ในลีกเยอรมนี หลังจากนั้นโด่งดังเป็นพลุแตกกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับ สเปอร์ส เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2015 และอยู่กับทีมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ซน เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลในประเทศเกาหลีใต้ ก่อนที่จะย้ายไปฝึกกับอะคาเดมี่ของ ฮัมบูร์ก เอสวี เมื่ออายุ 16 ปี ภายใต้โครงการ Korean FA Youth Project โดยเป็นการร่วมมือกันพัฒนานักเตะเยาวชนระหว่าง สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ กับ สโมสรฟุตบอลในลีกยุโรป โดยเมื่อปี 2010 เจ้าตัว ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ ฮัมบูร์กฯ เป็นครั้งแรก และกลายเป็น "นักเตะอายุน้อยที่สุด" ที่ทำประตูได้ใน บุนเดสลีกา ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น



สรุปข่าว

นับตั้งแต่ย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม สเปอร์ส ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี "ตี๋ซน" และ แฮร์รี่ เคน กลายเป็นคู่หูที่อันตรายมากที่สุดคู่หนึ่งใน พรีเมียร์ลีก แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมขนาดไหนก็ตาม สเปอร์ส ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จและคว้าแชมป์มาครองได้เลย โดยเฉียดเข้าไปใกล้ที่สุดก็คือ "แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2016" เเละ แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2019" จนในที่สุด เคน ก็หมดความอดทนและตัดสินใจย้ายไปตามล่าความสำเร็จกับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2024-25 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สามารถเบียดเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแบบหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ เบรนแนน จอห์นสัน ในช่วงท้ายครึ่งแรก ส่งผลให้ "ไก่เดือยทอง" คว้าแชมป์มาครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี และเป็นการประสบความสำเร็จในเวทียุโรปครั้งแรกในรอบ 41 ปี

ชัยชนะครั้งนี้ของ สเปอร์ส สร้างรอยยิ้มให้กับเหล่าสาวก สเปอร์ส ได้พอสมควร เนื่องจากในฤดูกาลนี้ สเปอร์ส โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังมากใน พรีเมียร์ลีก นอกจากนี้การคว้าแชมป์ ยูโรป้าฯ ยังกลายเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ "นักเตะคนหนึ่้ง" ที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานแต่กลับไม่เคยประสบความสำเร็จเลย .... เขาคนนั้นก็คือ ซน เฮือง มิน แข้งตัวเก่งชาวเกาหลีใต้

ซน เฮือง มิน(Son Heung-min) เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 ที่เมืองชุนชอน จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้ แจ้งเกิดขึ้นมากับ ฮัมบูร์ก ในลีกเยอรมนี หลังจากนั้นโด่งดังเป็นพลุแตกกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับ สเปอร์ส เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2015 และอยู่กับทีมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ซน เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลในประเทศเกาหลีใต้ ก่อนที่จะย้ายไปฝึกกับอะคาเดมี่ของ ฮัมบูร์ก เอสวี เมื่ออายุ 16 ปี ภายใต้โครงการ Korean FA Youth Project โดยเป็นการร่วมมือกันพัฒนานักเตะเยาวชนระหว่าง สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ กับ สโมสรฟุตบอลในลีกยุโรป โดยเมื่อปี 2010 เจ้าตัว ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ ฮัมบูร์กฯ เป็นครั้งแรก และกลายเป็น "นักเตะอายุน้อยที่สุด" ที่ทำประตูได้ใน บุนเดสลีกา ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น



ปี 2013 "หนุ่มน้อยจากแดนกิมจิ" ย้ายจาก ฮัมบูร์กฯ มาร่วมทัพ "ห้างขายยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยค่าตัวประมาณ 10 ล้านยูโร หรือราวๆ 37 ล้านบาท และเป็นไปตามความคาดหมาย ซน เฮือง มิน โชว์ฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่องกับต้นสังกัดใหม่ ทำไปทั้งหมด 29 ประตู จากการลงสนามทุกรายการ 87 เกม 

"ตี๋ซน" มีเวลาอยู่กับ "ห้างขายยา" เพียงแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น โดยหลังจากฤดูกาล 2015-16 เปิดฉากได้ไม่นาน "ไก่เดือยทอง" ก็ยื่นข้อเสนอ 30 ล้านยูโร(ประมาณ 1,110 ล้านบาท) คว้าตัว ซน เฮือง มิน มาร่วมทีม และนับเป็นครั้งแรกของ เจ้าตัว ที่ย้ายออกมาโลดแล่นนอกเวที บุนเดสลีกา

ในเวที พรีเมียร์ลีก ไม่มีใครสงสัยเรื่องฝีเท้าของ ซน เฮือง มิน เพราะว่าโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และเคยตกเป็นข่าวกับทีมดังในลีกยุโรปมากมาย โดยเฉพาะในฤดูกาล 2021-2022 ซน คว้ารางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก มาครองร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกตัวเก่งของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ด้วยการทำไป 23 ประตู 

นอกจากนี้ เจ้าตัว ยังได้รับรางวัล "นักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร" มาครองได้ถึง 2 ครั้งในซีซั่น 2018-2019 เเละ 2019-2020 รวมทั้งยังเป็นกำลังสำคัญช่วยพา สเปอร์ส ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018-2019 แต่ว่าสุดท้ายพลาดท่าพ่าย ลิเวอร์พูล ไปแบบน่าเสียดาย

ผลงานในนาม "ทีมชาติเกาหลีใต้" ซน เฮือง มิน เริ่มติดธงครั้งแรกกับ ทีมชุดยู-17ปี และค่อยๆขยับขึ้นมาสู่ "ทีมชุดใหญ่" ตามสำดับ โดยปัจจุบัน เจ้าตัว ลงสนามรับใช้  "ทีมชาติเกาหลีใต้" ไปแล้วทั้งสิ้น 133 นัด ยิงได้ 51 ประตู และเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชุด "แชมป์เอเชียนเกมส์" ในปี 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย


นับตั้งแต่ย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม สเปอร์ส ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี "ตี๋ซน" และ แฮร์รี่ เคน กลายเป็นคู่หูที่อันตรายมากที่สุดคู่หนึ่งใน พรีเมียร์ลีก แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมขนาดไหนก็ตาม สเปอร์ส ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จและคว้าแชมป์มาครองได้เลย โดยเฉียดเข้าไปใกล้ที่สุดก็คือ "แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2016" เเละ แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2019" จนในที่สุด เคน ก็หมดความอดทนและตัดสินใจย้ายไปตามล่าความสำเร็จกับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค

แม้ว่าผลงานของ ซน เฮือง มิน จะไม่โดดเด่นเหมือนช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายการรอคอยมาตลอดชีวิตของ เจ้าตัว ก็สิ้นสุดลงที่ ซาน มาเมส หลังจาก สเปอร์ส เฉือนเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2024-25 มาครองได้สำเร็จ มันอาจจะไม่ใช่รางวัลที่ยิ่งใหญ่ของใครหลายๆคน แต่มันคือที่สุดเเล้วของชายที่ชื่อ  ซน เฮือง มิน 

เกียรติประวัติ : สเปอร์ส 

- รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018-2019

- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสโมสร ฤดูกาล 2018-2019, 2019-2020

- ผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน ก.ย. 2016, เม.ย. 2017, ต.ค. 2020

- ประตูยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-2020 

- ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกของพีเอฟเอ ฤดูกาล 2020-2021

- แชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2024-25 


เกียรติประวัติ : ทีมชาติเกาหลีใต้ 

- แชมป์เอเชียน เกมส์ 2018

- รองแชมป์เอเชียน คัพ 2015

- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย 5 สมัย (2014, 2015, 2017, 2018, 2019)

- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเกาหลีใต้ 4 สมัย (2013, 2014, 2017, 2019)

ที่มาข้อมูล : Wikipedia

ที่มารูปภาพ : AFP