พรีวิว-วิเคราะห์บอล ทีมชาติไทย พบ อินเดีย อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์

พรีวิว-วิเคราะห์บอล ทีมชาติไทย พบ อินเดีย อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์

พรีวิว-วิเคราะห์บอล ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องพบ อินเดีย

วันพุธที่ 4 มิถุนายน เวลา 19.30 น. 

ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินเดีย

สนาม : เมน สเตเดียม (ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต)

ถ่ายทอดสด : แอปพลิเคชัน TrueVisions Now ช่อง truesports 2 (667)

ลิงค์รับชมถ่ายทอดสด https://tvs-now.onelink.me/fKef/6k3nbwq4


ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ เพิ่งจะเข้าแคมป์รายงานตัว ก่อนจะผึกซ้อมร่วมกันมื้อแรกคือช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ บีจี เทรนนิ่ง เซนเตอร์ โดยภารกิจครั้งนี้รวมระยะเวลา 9 วัน (2-10 มิถุนายน 2568) กับโปรแกรมที่วางไว้ 2 นัด เกมแรกอุ่นเครื่องเจอกับ ทีมชาติอินเดีย ที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ก่อนจะยกพลไปเยือน เติร์กเมนิสถาน ในศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่2 


โดยผลงานของทีมชาติไทย ในช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือนมีนาคม ถือว่าทำได้อย่างน่าพอใจ กับการเก็บชัย 2 นัดรวด ทั้งเกมอุ่นเครื่องชนะ อัฟกานิสถาน 2-0 และเปิดบ้านเอาชนะ ศรีลังกา 1-0 ในศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดแรก


ในส่วนของสภาพทีมที่ประกาศรายชื่อ 23 คน ออกมาก่อนหน้านี้ มาซาทาดะ อิชิอิ เปลี่ยนแปลงจากเดือนมีนาคม ถึง 11 ราย ล่าสุดมีการถอนตัวไป 2 ราย จากปัญหาอาการบาดเจ็บ ประกอบไปด้วย สุภโชค สารชาติ แนวรุกของคอนซาโดเล ซัปโปโร กับ ศศลักษณ์ ไหประโคน แบ็กซ้ายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่ง อิชิอิ ตัดสินใจเรียกตัว ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จากชลบุรี เอฟซี และ ชานนท์ ทำมา จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เข้ามาแทนที่ตามลำดับ 


ส่วนการขาดหายไปของ พาตริก กุสตาฟส์สัน ดาวยิงที่กำลังฟอร์มแรงในช่วงฟีฟ่าเดย์รอบที่แล้ว แต่ดันโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนัก ทำให้ปิดเทอมยาวมาก่อนหน้านี้ ย่อมส่งผลกระทบกับทีมแน่นอน แต่ก็น่าสนใจว่าเกมรุกที่มีทั้ง กรวิชญ์ ทะสา, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, เอกนิษฐ์ ปัญญา รวมถึง ศุภชัย ใจเด็ด ที่กลับเข้ามารอบนี้ จะประสานงานยกระดับทีมชาติไทยได้ดีขนาดไหน

สรุปข่าว

พรีวิวความพร้อมการแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่อง ฟีฟ่าเดย์ วันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568 ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ พบกับ ทีมชาติอินเดีย

พรีวิว-วิเคราะห์บอล ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องพบ อินเดีย

วันพุธที่ 4 มิถุนายน เวลา 19.30 น. 

ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินเดีย

สนาม : เมน สเตเดียม (ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต)

ถ่ายทอดสด : แอปพลิเคชัน TrueVisions Now ช่อง truesports 2 (667)

ลิงค์รับชมถ่ายทอดสด https://tvs-now.onelink.me/fKef/6k3nbwq4


ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ เพิ่งจะเข้าแคมป์รายงานตัว ก่อนจะผึกซ้อมร่วมกันมื้อแรกคือช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ บีจี เทรนนิ่ง เซนเตอร์ โดยภารกิจครั้งนี้รวมระยะเวลา 9 วัน (2-10 มิถุนายน 2568) กับโปรแกรมที่วางไว้ 2 นัด เกมแรกอุ่นเครื่องเจอกับ ทีมชาติอินเดีย ที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ก่อนจะยกพลไปเยือน เติร์กเมนิสถาน ในศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่2 


โดยผลงานของทีมชาติไทย ในช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือนมีนาคม ถือว่าทำได้อย่างน่าพอใจ กับการเก็บชัย 2 นัดรวด ทั้งเกมอุ่นเครื่องชนะ อัฟกานิสถาน 2-0 และเปิดบ้านเอาชนะ ศรีลังกา 1-0 ในศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดแรก


ในส่วนของสภาพทีมที่ประกาศรายชื่อ 23 คน ออกมาก่อนหน้านี้ มาซาทาดะ อิชิอิ เปลี่ยนแปลงจากเดือนมีนาคม ถึง 11 ราย ล่าสุดมีการถอนตัวไป 2 ราย จากปัญหาอาการบาดเจ็บ ประกอบไปด้วย สุภโชค สารชาติ แนวรุกของคอนซาโดเล ซัปโปโร กับ ศศลักษณ์ ไหประโคน แบ็กซ้ายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่ง อิชิอิ ตัดสินใจเรียกตัว ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว จากชลบุรี เอฟซี และ ชานนท์ ทำมา จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เข้ามาแทนที่ตามลำดับ 


ส่วนการขาดหายไปของ พาตริก กุสตาฟส์สัน ดาวยิงที่กำลังฟอร์มแรงในช่วงฟีฟ่าเดย์รอบที่แล้ว แต่ดันโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนัก ทำให้ปิดเทอมยาวมาก่อนหน้านี้ ย่อมส่งผลกระทบกับทีมแน่นอน แต่ก็น่าสนใจว่าเกมรุกที่มีทั้ง กรวิชญ์ ทะสา, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, เอกนิษฐ์ ปัญญา รวมถึง ศุภชัย ใจเด็ด ที่กลับเข้ามารอบนี้ จะประสานงานยกระดับทีมชาติไทยได้ดีขนาดไหน

รายชื่อ 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนามของ ทีมชาติไทย (ระบบ 4-3-3)

ผู้รักษาประตู กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล กองหลังมี สันติภาพ จันทร์หง่อม, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ, ชินภัทร์ ลีเอาะ, อิรฟาน ดอเลาะ กองกลางส่ง  เบนจามิน เดวิส, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล แนวรุกมี กรวิชญ์ ทะสา, ศุภชัย ใจเด็ด และ ปรเมศย์ อาจวิไล ลงล่าตาข่าย 


ทางฝั่ง ทีมชาติอินเดีย คุมทัพมาโดย มาโนโล มาเกวซ กุนซือชาวสเปน ทำผลงานไม่แพ้ใครมา 4 เกมติดต่อกัน แต่ส่วนใหญ่หนักไปทางผลเสมอ ล่าสุด เปิดบ้านแบ่งแต้มกับ ทีมชาติบังกลาเทศ 0-0 ในศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดแรก โดยพวกเขาจะอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย เพื่อลองแผนการเล่น ก่อนจะต้องเจอเกมสำคัญในการเยือนทีมชาติฮ่องกง ในศึกเอเชียน คัพ


ในส่วนของสภาพความพร้อมจะหมดไม่มี อิรฟาน ยาดวาด กองหน้าตัวเก่งที่ถอนตัวออกไปจากการผ่าตัดไส้ติ่ง ซึ่งพวกเขาเรียกตัว เอดมันด์ ลาลลินดิกา เข้ามาเสริมทัพแทน โดยที่ผ่านมา อินเดีย รวมตัวฝึกซ้อมกันเร็วและมีเวลาเตรียมทีมมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ถือเป็นข้อได้เปรียบเรื่องเวลาที่พวกเขาน่าจะใช้จุดนี้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

ส่วนการเจอกันกับทีมชาติไทย ก่อนหน้านี้ ทีมชาติอินเดีย ปราบช้างศึกได้ทั้ง 2 นัด ในปี 2019 ชนะ 4-1 ในศึกเอเซียน คัพ วันที่ 6 ม.ค. และ ชนะ 1-0 ในศึกคิงส์คัพ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.  แต่ ณ เวลานี้ ทีมชาติไทยมีอับดับฟีฟ่าแรงกิ้ง เหนือกว่า โดยไทยรั้งที่ 99 อินเดีย รั้งที่ 127 ของโลก


ทรรศนะ 

เป็นเกมที่น่าสนใจแม้จะเป็นโปรแกรมอุ่นเครื่อง แต่ต่างฝ่ายต่างต้องการผลการแข่งขันที่ดีเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ ก่อนจะเล่นในศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่2 เพราะฉะนั้นเราจะได้เห็นแผนการของทั้งสองทีมที่จะจำลองเกมสำคัญในระดับเอเชีย นัดวันที่ 10 มิถุนยายน


โดยเฉพาะทีมชาติไทย ถือว่าการประกาศรายชื่อครั้งนี้ของ อิชิอิ น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะตั้งแต่แผงกองกลางถึงกองหน้าที่เปลี่ยนแปลงหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการกลับเข้ามาของ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา 2 แข้งจากญี่ปุ่น ว่าจะช่วยยกระดับทีมได้มากน้อยขนาดไหน


ภาพรวมยังเชื่อว่าเกมจะเป็นของ ทีมชาติไทย ที่ครองบอลบุกเป็นส่วนใหญ่ เพราะแม้ทีมจะเปลี่ยนแปลงจากรอบก่อนถึง 11 ตะแหน่ง แต่ทุกคนก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับว่าจังหวะจบสกอร์จะเฉียบขาดมากพอหรือไม่ ซึ่งมองว่าทัพ "ช้างศึก" จะมีทีเด็ดเดินหน้าเก็บชัยชนะ ถอนแค้นเมื่อ 6 ปีก่อนได้สำเร็จ 


ผลการแข่งขันที่คาด

ทีมชาติไทย ชนะ อินเดีย 3-1 

อ่านข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

พรีวิว-วิเคราะห์บอล ทีมชาติไทยU23 พบ ฮ่องกงU23 เกมอุ่นเครื่อง


ทีมชาติไทย ประกาศรายชื่อลุยศึกเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก นัดที่2


ประกาศรายชื่อทีมชาติไทยU23 อุ่นเครื่องเดือนมิถุนายน

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : truevisions