
ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ 2025 เพิ่งจะปิดตัวลงไปหมาดๆ ซึ่งในตลาดรอบนี้ มีการย้ายทีมที่เรียกเสียงฮือฮาได้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงท้ายของตลาด ไม่ว่าจะเป็นการที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไป ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวแพงที่สุดเป็นสถิติของเกาะอังกฤษที่ 125 ล้านปอนด์ หรือจะเป็น อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ท้ายที่สุดแล้วก็ย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ เชลซี จนได้ ด้วยค่าตัวเพียง 40 ล้านปอนด์เท่านั้น
อีกหนึ่งดีลที่อาจจะไม่ใช่ดีลใหญ่และมีค่าตัวแพงอะไร แต่ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย ก็คือการที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงทีมชาติเดนมาร์ก ตัดสินใจย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปร่วมทีม นาโปลี ใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยสัญญาแบบยืมตัว 1 ฤดูกาล พร้อมกับมีเงื่อนไขบังคับซื้อในซัมเมอร์ปีหน้า ที่ราคา 44 ล้านยูโร 1,657 ล้านบาท
ถือเป็นการจบสิ้นความฝันในการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลาเพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อตาลันต้า ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 64 ล้านปอนด์ (2,776 ล้านบาท) เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2023
วันนี้เราจะไปส่องประวัติของกองหน้าวัย 22 ปีรายนี้กันว่ามีเส้นทางที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และทำไมเขาถึงไม่ประสบความสำเร็จกับการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด
วัยเด็กและการเริ่มต้นบนเส้นทางลูกหนัง
ราสมุส วินเธอร์ ฮอยลุนด์ เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 2003 ที่เมืองโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก ฮอยลุนด์ เติบโตในครอบครัวนักกีฬา คุณพ่อของเขา อันเดอร์ส ฮอยลุนด์ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลและอดีตนักฟุตบอลอาชีพ ส่วนน้องชายฝาแฝดของเขา ออสการ์ ฮอยลุนด์ และ เอมิล ฮอยลุนด์ ก็เป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน เขาเริ่มเส้นทางในวงการฟุตบอลกับทีมเยาวชนของสโมสรท้องถิ่นอย่าง ฮอร์สโฮล์ม-อุสเซรอด ก่อนจะขยับไปอยู่กับ บรอนด์บี้ และในช่วงที่เริ่มเป็นวัยรุ่น เขาก็ได้เข้าไปอยู่กับทีมเยาวชนของ เอฟซี โคเปนเฮเกน
ที่ เอฟซี โคเปนเฮเกน ฮอยลุนด์ ได้พัฒนาฝีเท้าอย่างก้าวกระโดดภายใต้การดูแลของทีมโค้ชและผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เขาใช้เวลาไม่นานในการไต่เต้าจากทีมเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้สำเร็จ
ในเดือนตุลาคม ปี 2020 ด้วยวัยเพียง 17 ปี ฮอยลุนด์ได้ลงประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพให้กับทีมชุดใหญ่ของโคเปนเฮเกน ในศึกเดนิช ซูเปอร์ลีกา นัดที่พบกับ ออร์ฮุส ผลงานในช่วงแรกของเขากับโคเปนเฮเกนยังไม่โดดเด่นมากนัก เนื่องจากมีโอกาสลงสนามไม่มาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังสามารถยิงได้ 5 ประตูจาก 32 นัดในทุกรายการในช่วงเวลา 2 ปีที่อยู่กับสโมสร
ก้าวสู่ต่างแดน : สตวร์ม กราซ (2022)
แม้จะมีโอกาสลงเล่นไม่มากกับโคเปนเฮเกน แต่ศักยภาพของฮอยลุนด์ก็ยังเป็นที่สนใจของสโมสรในยุโรป และในเดือนมกราคม ค.ศ. 2022 เขาได้เซ็นสัญญาย้ายไปร่วมทีม สตวร์ม กราซ ในศึกออสเตรียบุนเดสลีกา ด้วยค่าตัวประมาณ 1.8 ล้านยูโร การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในอาชีพของเขา
ที่ สตวร์ม กราซ ฮอยลุนด์ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องและสามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ เขาสามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นในลีกออสเตรียได้อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมทันที เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งซีซั่นหลังของฤดูกาล 2021-22 เมื่อยิงไป 6 ประตูจาก 13 นัดในลีก จากนั้นในฤดูกาลถัดมา เขาก็ยิงไปอีก 6 ประตูจากการลงสนาม 8 นัดแรกรวมทุกรายการให้กับ สตวร์ม กราซ จากผลงานที่เตะตา ทำให้เขาย้ายทีมอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2022 ด้วยการย้ายไปเล่นในลีกที่ใหญ่กว่าอย่าง เซเรีย อา กับ อตาลันต้า
สรุปข่าว
ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ 2025 เพิ่งจะปิดตัวลงไปหมาดๆ ซึ่งในตลาดรอบนี้ มีการย้ายทีมที่เรียกเสียงฮือฮาได้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงท้ายของตลาด ไม่ว่าจะเป็นการที่ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไป ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวแพงที่สุดเป็นสถิติของเกาะอังกฤษที่ 125 ล้านปอนด์ หรือจะเป็น อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ท้ายที่สุดแล้วก็ย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ เชลซี จนได้ ด้วยค่าตัวเพียง 40 ล้านปอนด์เท่านั้น
อีกหนึ่งดีลที่อาจจะไม่ใช่ดีลใหญ่และมีค่าตัวแพงอะไร แต่ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย ก็คือการที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงทีมชาติเดนมาร์ก ตัดสินใจย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปร่วมทีม นาโปลี ใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยสัญญาแบบยืมตัว 1 ฤดูกาล พร้อมกับมีเงื่อนไขบังคับซื้อในซัมเมอร์ปีหน้า ที่ราคา 44 ล้านยูโร 1,657 ล้านบาท
ถือเป็นการจบสิ้นความฝันในการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลาเพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อตาลันต้า ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 64 ล้านปอนด์ (2,776 ล้านบาท) เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2023
วันนี้เราจะไปส่องประวัติของกองหน้าวัย 22 ปีรายนี้กันว่ามีเส้นทางที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และทำไมเขาถึงไม่ประสบความสำเร็จกับการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด
วัยเด็กและการเริ่มต้นบนเส้นทางลูกหนัง
ราสมุส วินเธอร์ ฮอยลุนด์ เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 2003 ที่เมืองโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก ฮอยลุนด์ เติบโตในครอบครัวนักกีฬา คุณพ่อของเขา อันเดอร์ส ฮอยลุนด์ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลและอดีตนักฟุตบอลอาชีพ ส่วนน้องชายฝาแฝดของเขา ออสการ์ ฮอยลุนด์ และ เอมิล ฮอยลุนด์ ก็เป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน เขาเริ่มเส้นทางในวงการฟุตบอลกับทีมเยาวชนของสโมสรท้องถิ่นอย่าง ฮอร์สโฮล์ม-อุสเซรอด ก่อนจะขยับไปอยู่กับ บรอนด์บี้ และในช่วงที่เริ่มเป็นวัยรุ่น เขาก็ได้เข้าไปอยู่กับทีมเยาวชนของ เอฟซี โคเปนเฮเกน
ที่ เอฟซี โคเปนเฮเกน ฮอยลุนด์ ได้พัฒนาฝีเท้าอย่างก้าวกระโดดภายใต้การดูแลของทีมโค้ชและผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เขาใช้เวลาไม่นานในการไต่เต้าจากทีมเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้สำเร็จ
ในเดือนตุลาคม ปี 2020 ด้วยวัยเพียง 17 ปี ฮอยลุนด์ได้ลงประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพให้กับทีมชุดใหญ่ของโคเปนเฮเกน ในศึกเดนิช ซูเปอร์ลีกา นัดที่พบกับ ออร์ฮุส ผลงานในช่วงแรกของเขากับโคเปนเฮเกนยังไม่โดดเด่นมากนัก เนื่องจากมีโอกาสลงสนามไม่มาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังสามารถยิงได้ 5 ประตูจาก 32 นัดในทุกรายการในช่วงเวลา 2 ปีที่อยู่กับสโมสร
ก้าวสู่ต่างแดน : สตวร์ม กราซ (2022)
แม้จะมีโอกาสลงเล่นไม่มากกับโคเปนเฮเกน แต่ศักยภาพของฮอยลุนด์ก็ยังเป็นที่สนใจของสโมสรในยุโรป และในเดือนมกราคม ค.ศ. 2022 เขาได้เซ็นสัญญาย้ายไปร่วมทีม สตวร์ม กราซ ในศึกออสเตรียบุนเดสลีกา ด้วยค่าตัวประมาณ 1.8 ล้านยูโร การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในอาชีพของเขา
ที่ สตวร์ม กราซ ฮอยลุนด์ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องและสามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ เขาสามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นในลีกออสเตรียได้อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมทันที เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งซีซั่นหลังของฤดูกาล 2021-22 เมื่อยิงไป 6 ประตูจาก 13 นัดในลีก จากนั้นในฤดูกาลถัดมา เขาก็ยิงไปอีก 6 ประตูจากการลงสนาม 8 นัดแรกรวมทุกรายการให้กับ สตวร์ม กราซ จากผลงานที่เตะตา ทำให้เขาย้ายทีมอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2022 ด้วยการย้ายไปเล่นในลีกที่ใหญ่กว่าอย่าง เซเรีย อา กับ อตาลันต้า
การพิสูจน์ตัวเองใน เซเรีย อา : อตาลันต้า (2022-2023)
ฟอร์มอันร้อนแรงกับ สตวร์ม กราซ ทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายของสโมสรชั้นนำในยุโรปทันที และในเดือนสิงหาคม ปี 2022 ขณะที่ลงเล่นให้ สตวร์ม กราซ ไปได้เพียงแค่ 8 นัด อตาลันต้า ได้ทุ่มเงิน 17 ล้านยูโร หรือเกือบๆ 10 เท่าจากตอนที่้เขาย้ายมาเล่นที่ออสเตรีย เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีม การย้ายมาสู่ลีกที่แข็งแกร่งอย่าง เซเรีย อา ถือเป็นการยกระดับฝีเท้าของเขาไปอีกขั้น
ที่ อตาลันต้า ภายใต้การคุมทีมของโค้ชอย่าง จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ ฮอยลุนด์ ได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องมากขึ้น เขามีความแข็งแกร่งขึ้น และสามารถเล่นลูกกลางอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้เขายังมีความเข้าใจในแท็กติกและสามารถเชื่อมเกมกับเพื่อนร่วมทีมได้ดี ทำให้ในฤดูกาล 2022-23 ฮอยลุนด์ โชว์ผลงานได้น่าประทับใจ แม้ว่าจำนวนประตูอาจจะยังไม่ได้มากนัก แต่พละกำลังของเขาและการบุกตะลุยไปข้างหน้า ทำให้เขาได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากว่าเป็นกองหน้าดาวรุ่งที่น่าจะมีอนาคตอันยาวไกลหลังจากนี้
การลงเล่นใน เซเรีย อา ฤดูกาลแรกของ ฮอยลุนด์ จบลงด้วยสถิติ 10 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 34 เกมรวมทุกรายการ ผลงานที่น่าประทับใจนี้ทำให้เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าดาวรุ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในวงการฟุตบอลอิตาลี และทำให้เขาเป็นที่สนใจของสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วโลก
ความท้าทายในพรีเมียร์ลีก : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2023-2025)
หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ อตาลันต้า ในเดือนสิงหาคม ปี 2023 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้ประกาศคว้าตัว ราสมุส ฮอยลุนด์ ไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 64 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,769 ล้านบาท) โดยมีโบนัสเพิ่มเติมอีก 8 ล้านปอนด์ ตามผลงานในการลงสนาม ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสร
การย้ายมาโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับ ฮอยลุนด์ เขาต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลในการเล่นให้กับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่กระนั้นเจ้าตัวก็เผยว่าเป็นเหมือนความฝันที่เป็นความจริง เพราะเขาเป็นแฟนบอลของทีมปีศาจแดง และใฝ่ฝันที่จะได้ลงเล่นที่นี่มาโดยตลอด
ในฤดูกาลแรกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ถือว่า ฮอยลุนด์ มีผลงานที่ไม่แย่นัก เขาได้ลงสนามเกมแรกในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีกที่พบกับ อาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2023 โดยในเกมดังกล่าวเขาถูกลงสนามในฐานะตัวสำรองแทนที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ในนาทีที่ 67 ก่อนที่ทีมจะเป็นฝ่ายแพ้ไป 1-3
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ในวันที่ 20 กันยายน ฮอยลุนด์ ก็ยิงประตูแรกในนาม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกไปพ่าย บาเยิร์น มิวนิค หวุดหวิด 3-4 แม้ว่าจะเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานอยู่บ้าง แต่ ฮอยลุนด์ ก็ได้ลงสนามไปทั้งสิ้น 43 เกมในทุกรายการให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนจะทำไป 16 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ถือว่าเป็นผลงานที่ไม่ถึงกับดีมากนัก แต่ก็ไม่แย่ กับฤดูกาลแรกในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่สำคัญ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ในบั้นปลายอีกด้วย หลังเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาล 2024-25 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สองของ ฮอยลุนด์ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น เขากลับทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง จุดเด่นที่เขาเคยทำได้ดี ก็คือความเร็วในการพาบอลตะลุยไปข้างหน้า รวมถึงการเล่นเป็นตัวเก็บบอลในแดนหน้ากลับทำได้ไม่ดีเหมือนเดิม หลายเกมที่เขาลงสนามไปแล้วกลับไม่สามารถสร้างความแตกต่างอะไรได้เลย ประกอบกับการที่ผลงานโดยรวมของทีมก็ย่ำแย่กันหมด มีการปลด เอริค เทน ฮาก ออกจากตำแหน่งช่วงกลางฤดูกาล ขณะที่ รูเบน อาโมริม กุนซือคนใหม่เข้ามาก็ปรับมาเล่นในระบบที่ไม่เหมาะสมกับตัวเขา
ทำให้ผลงานในซีซั่นที่สองของ ฮอยลุนด์ นั้นย่ำแย่อย่างมาก เขาทำได้เพียง 10 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 53 เกมรวมทุกรายการ ที่น่าผิดหวังเอามากๆ ก็คือเขายิงได้แค่ 4 ประตูจากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 32 นัด เป็นผลงานที่ย่ำแย่เกินไป และทำให้เริ่มมีข่าวลือมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะขายเขาออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ และมองหากองหน้ารายใหม่เข้ามาทดแทน โดยตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับทีมปีศาจแดง ฮอยลุนด์ ลงเล่นไปทั้งสิ้น 95 นัดในทุกรายการ และทำไปเพียง 26 ประตูกับ 6 แอสซิสต์เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยเกินไป เมื่อเทียบกับเงินลงทุนที่สโมสรซื้อเขามาร่วมทีมเมื่อสองปีก่อน
กลับสู่ เซเรีย อา อีกครั้งกับ นาโปลี
ในวันที่ 1 กันยายน ปี 2025 หลังจากที่อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ 2 ฤดูกาล นาโปลี ก็ได้ประกาศยืนยันการคว้าตัว ราสมุส ฮอยลุนด์ ไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวระยะเวลา 1 ฤดูกาล โดยมีเงื่อนไขบังคับซื้อขาดในช่วงซัมเมอร์ปีหน้าในราคา 44 ล้านยูโร ซึ่งมารวมกับค่ายืมตัว 6 ล้านยูโรแล้ว จะทำให้ ฮอยลุนด์ มีค่าตัวรวมอยู่ที่ 50 ล้านยูโร (ราว 1,885 ล้านบาท) หรือคิดเป็นเงินปอนด์จะอยู่ที่ราว 43.5 ล้านปอนด์โดยประมาณ เท่ากับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะขาดทุนราว 20 ล้านปอนด์ หลังลงทุนคว้าตัวมาจาก อตาลันต้า เมื่อซัมเมอร์ปี 2023 ที่ราคา 64 ล้านปอนด์
การตัดสินใจย้ายมายัง นาโปลี ในครั้งนี้ สาเหตุสำคัญเลยก็เป็นเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เป็นตัวจริงของทีมอีกต่อไป และตัดสินใจคว้า เบนยามิน เชชโก้ มาร่วมทีมในซัมเมอร์นี้แทน ทำให้ ฮอยลุนด์ ที่ตอนแรกยังมีความคิดที่จะสู้ต่อ ต้องยอมตัดใจและย้ายมาพิสูจน์ตัวเองกับ นาโปลี แทน
อย่างไรก็ดี การเลือกย้ายมาที่ นาโปลี ไม่ใช่ตัวเลือกที่ย่ำแย่แต่อย่างใด เพราะอย่าลืมว่านี่คือแชมป์ เซเรีย อา ทีมล่าสุด แถมยังได้สิทธิ์ไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้อีกด้วย นอกจากนี้ ฮอยลุนด์ ยังจะได้ร่วมงานกับโค้ชมากฝีมืออย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้ซึ่งชื่นชอบสไตล์การเล่นของเขาเป็นอย่างมาก
อีกทั้งในทีมก็ยังมีอดีตเพื่อนร่วมทีมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่พา นาโปลี คว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้ว รวมถึง เควิน เดอ บรอยน์ ที่เพิ่งย้ายจาก แมนฯ ซิตี้ มาร่วมทีม นาโปลี แบบไม่มีค่าตัวในซัมเมอร์นี้ ทำให้การย้ายทีมครั้งนี้ของ ฮอยลุนด์ จึงเป็นโอกาสในการกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งใน เซเรียอา ซึ่งเป็นลีกที่เขาเคยสร้างชื่อเสียงไว้กับ อตาลันต้า
ผลงานกับทีมชาติเดนมาร์ก
ฮอยลุนด์ เป็นตัวแทนของทีมชาติเดนมาร์กตั้งแต่ชุดเยาวชนในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ถึง 21 ปี เขาลงประเดิมสนามให้กับทีมชาติชุดใหญ่ในเดือนกันยายน ปี 2022 ในรายการยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่พบกับ โครเอเชีย และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือก เขาเป็นส่วนสำคัญในแนวรุกของทีมและเป็นที่คาดหวังว่าจะเป็นอนาคตของทีมชาติเดนมาร์กในฐานะศูนย์หน้าตัวหลักคนต่อไป โดยปัจจุบันเขาลงเล่นให้เดนมาร์กไปแล้ว 26 นัด ทำไปแล้ว 8 ประตูด้วยกัน
ราสมุส ฮอยลุนด์ คือนักฟุตบอลที่มาพร้อมกับพรสวรรค์และความมุ่งมั่นในการพิสูจน์ตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง จากเด็กหนุ่มที่สร้างชื่อในลีกออสเตรีย สู่การเป็นกองหน้าดาวรุ่งใน เซเรีย อา อิตาลี และย้ายไปเผชิญความท้าทายในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะไม่สบความสำเร็จเมื่อมองในฐานะผลงานส่วนตัว แต่การย้ายมาร่วมทีม นาโปลี ภายใต้การคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ด้วยอายุที่ยังน้อยเพียงแค่ 22 ปี และศักยภาพที่ยังพัฒนาได้อีกมาก ทำให้ ฮอยลุนด์ มีโอกาสที่จะกลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้ง และแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า ฟอร์มการเล่นของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่แท้จริง และยังสามารถที่จะพัฒนาไปเป็นสุดยอดดาวยิงได้ในอนาคต...
⚽คอฟุตบอลไม่ควรพลาด! แพ็กเกจ NOW FOOTBALL ดูบอลครบทั้งลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ อาทิ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ยูฟ่า ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก / ลาลีกา / บุนเดสลีกา / เซเรีย อา และอีกมากมายกว่า 2,000 แมตช์ ตลอดฤดูกาล 2025/26
📲สมัครและดูได้แล้ววันนี้ รายเดือน และ รายฤดูกาล
📌Now Football 199 บาท/เดือน (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/h2uxvfkb
📌Now Football Season Pass 1,789 บาท/ฤดูกาล (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) ถึง 30 กันยายน 68 เท่านั้น สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/zd59zo1f
