ประวัติ อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายในเงาของว่าที่ตำนาน

หากพูดถึง มาร์ค มาร์เกซ หลายคนจะจดจำความโดดเด่นของสไตล์การขับขี่และผลงานอันโดดเด่นได้แทบจะทันที และหลับตานึกภาพ มาร์ค กลายเป็นว่าที่ตำนานได้เลย แต่ในบ้านมาร์เกซ ยังมีอีกหนึ่งนักแข่งที่กำลังสร้างชื่อและพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายแท้ๆ ที่มีพรสวรรค์ แม้จะไม่หวือหวาเท่าพี่ชาย แต่เขาก็มีเส้นทางของตัวเองที่น่าสนใจ

ประวัติส่วนตัว

อเล็กซ์ มาร์เกซ อาร์เรนาส (Àlex Márquez Alentà) เกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน 1996 ที่เมืองเซอร์เวรา (Cervera) ประเทศสเปน อายุห่างจากพี่ชาย มาร์ค มาร์เกซ เพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น การเติบโตในครอบครัวที่หลงใหลในความเร็วและมอเตอร์ไซค์ ทำให้อเล็กซ์สนใจในกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาตั้งแต่เด็ก และเริ่มฝึกซ้อมแข่งรถเล็กๆ ตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน โดยมีพี่ชายเป็นทั้งแรงบันดาลใจและคู่แข่งคนสำคัญ

เส้นทางอาชีพ

เส้นทางของ อเล็กซ์ เริ่มต้นในเวทีระดับประเทศของสเปน และค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาสู่เวทีระดับโลก การก้าวเข้าสู่การแข่งขัน โมโต 3  ในปี 2012 คือจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในรายการจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก แม้ผลงานในปีแรกยังไม่โดดเด่น แต่ประสบการณ์ก็หล่อหลอมให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็คว้าแชมป์โลกในรุ่น โมโต 3  ได้สำเร็จในปี 2014 พร้อมสร้างสถิติเป็นคู่พี่น้องคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลกได้ในฤดูกาลเดียวกัน (มาร์ค คว้าแชมป์ โมโ๖จีพี)

หลังจากนั้น อเล็กซ์ก็ก้าวขึ้นสู่รุ่น โมโต 2 ในปี 2015 ซึ่งในฤดูกาลนั้นเต็มไปด้วยนักแข่งมากฝีมือ มีการแข่งขันอันเข้มข้น ใช้เวลาปรับตำนานนับปี และต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บหลายครั้ง แต่ความพยายามก็ไม่สูญเปล่า ในที่สุด อเล็กซ์ก็ระเบิดฟอร์มเก่ง คว้าแชมป์โลก โมโต 2 ได้ในปี 2019 กลายเป็นคู่พี่น้องคู่แรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลกได้ในสองรุ่นที่แตกต่างกัน 

ความสำเร็จใน โมโต 2 เป็นเหมือนตั๋วเบิกทางสู่ความฝันสูงสุด นั่นคือการก้าวขึ้นสู่รุ่นใหญ่ โมโตจีพี ชิงแชมป์โลก ในปี 2020 เซ็นสัญญากับทีมโรงงานฮอนด้า ตอนนั้นในชื่อ เรปโซล ฮอนด้า และได้ร่วมทีมกับพี่ชายอย่าง มาร์ค มาร์เกซ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การปรับตัวกับรถแข่งคันใหญ่และทรงพลัง รวมถึงอาการบาดเจ็บของพี่ชายที่ทำให้น้องต้องแบกรับแรงกดดันเพียงลำพัง ทำให้ผลงานในปีแรกยังไม่เข้าที่เข้าทาง แม้จะสามารถขึ้นโพเดียมได้ 2 ครั้งก็ตาม หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่กับทีมรองอย่าง LCR ฮอนด้า และปัจจุบันก็กำลังสร้างผลงานกับทีม เกรสินี่ เรซิ่ง ทีมอิสระ