หลังจากที่ยามาฮ่า เปิดตัว มอเตอร์ไซค์ที่ใช้แข่งขัน MotoGP เครื่องยนต์ V4 ในรุ่น M1 ออกสู่สาธารณะชนที่มิซาโน ในวันศุกร์ที่ผ่านมา(12 ก.ย. 68) ก่อนการแข่งขันซานมาริโน กรังด์ปรีซ์ 2025
โดย ออกุสโต้ เฟอร์นันเดซ ในฐานะนักขับทดสอบ ทำเวลาในรอบฝึกซ้อมอยู่ในอันดับที่ 19 จากนั้นในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา นักขับชาวสเปนสามารถทำเวลาต่อรอบได้เร็วกว่าเดิม 1 วินาที แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถคันนี้
อย่างไรก็ตามมีเหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นในช่วง FP1 เมื่อรถเกิดหยุดกะทันหัน จากปัญหาการอ่านข้อมูลผิดพลาดของเซ็นเซอร์ ทำให้รถหยุดทำงานอัตโนมัติ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้รถคันที่2 กลับมาขับต่อ และจบอันดับที่ 21 ด้วยเวลาที่ดีที่สุด 1 นาที 32.537 วินาที ตามหลัง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ ที่ใช้รถรุ่นเดิมอยู่ 1 วินาที
สรุปข่าว
หลังจากที่ยามาฮ่า เปิดตัว มอเตอร์ไซค์ที่ใช้แข่งขัน MotoGP เครื่องยนต์ V4 ในรุ่น M1 ออกสู่สาธารณะชนที่มิซาโน ในวันศุกร์ที่ผ่านมา(12 ก.ย. 68) ก่อนการแข่งขันซานมาริโน กรังด์ปรีซ์ 2025
โดย ออกุสโต้ เฟอร์นันเดซ ในฐานะนักขับทดสอบ ทำเวลาในรอบฝึกซ้อมอยู่ในอันดับที่ 19 จากนั้นในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา นักขับชาวสเปนสามารถทำเวลาต่อรอบได้เร็วกว่าเดิม 1 วินาที แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถคันนี้
อย่างไรก็ตามมีเหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นในช่วง FP1 เมื่อรถเกิดหยุดกะทันหัน จากปัญหาการอ่านข้อมูลผิดพลาดของเซ็นเซอร์ ทำให้รถหยุดทำงานอัตโนมัติ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้รถคันที่2 กลับมาขับต่อ และจบอันดับที่ 21 ด้วยเวลาที่ดีที่สุด 1 นาที 32.537 วินาที ตามหลัง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ ที่ใช้รถรุ่นเดิมอยู่ 1 วินาที
จากนั้นในช่วงบ่าย เฟอร์นันเดซ ขับล้มในช่วงความเร็วต่ำของโค้งที่ 2 ทำให้ต้องจบวันก่อนกำหนด แต่ก็ยังมองเห็นข้อดีหลังจากเวลาของเขาตามหลัง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ ที่เป็นมาตรฐานของรถยามาฮ่า เหลือแค่ 0.6 วินาที แม้ว่าช่องว่างที่ลดลงจะมาจาก กวาร์ตาราโร่ ไม่พอใจที่ยังไม่สามารถคาดเดารถรุ่นเดิมของตัวเองได้ ทำให้อันดับหล่นมาอยู่ที่ 12 แต่เขาก็ยังประทับใจกับความเร็วของ เฟอร์นันเดซ ที่ใช้เครื่องยนต์ V4
โดย กวาร์ตาราโร่ เผยว่า "ผมดูเวลาต่อรอบเป็นหลัก เขาเร็วมาก เรารู้อยู่แล้วว่า ออกุสโต้ เป็นนักขับที่เร็ว แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้รถคันใหม่ เรายังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ รถยังมีข้อจำกัดเยอะในการตั้งค่าต่างๆ"
ขณะที่ เฟอร์นันเดซ มองว่ารถคันใหม่ได้เอาชนะจุดอ่อนของรถรุ่นก่อนในระยะยาวได้แล้ว "รถที่เป็นมาตรฐานปัจจุบันของเรายังดีกว่าเครื่อง V4 อยู่เล็กน้อย แต่เราก็ปรับปรุงในส่วนท้ายของรถได้ดีมาก จากปัญหาของรุ่นเก่าที่เกิดจากส่วนท้าย และปัญหาในเรื่องการยึดเกาะ"
"ตอนนี้มันดีขึ้นมากๆ และเราก็ะยายามหาสมดุลของรถเพื่อให้ส่วนหน้าทำงานได้ดีควบคู่กันไป เราจะนำข้อดีของรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มารวมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด"
สำหรับศึกโมโตจีพี กรังด์ปรีซ์ ออฟ ซาน มาริโน่ จะชิงชัยกันระหว่างวันที่ 12-14 ก.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางแอพพลิเคชั่น ทรูวิชั่นส์ นาว ช่อง MOTOGP1 (618)
ที่มาข้อมูล : motorsport
ที่มารูปภาพ : AFP
