หากว่าเรานึกถึงกองหน้าที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าย่อมหนีไม่พ้น แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ยิงประตูอย่างถล่มทลายตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาเล่นในลีกเมืองเบียร์ตั้งแต่ 2 ปีก่อน
ผลงานของ เคน นั้่นน่าทึ่งอย่างมาก เพราะเจ้าตัวทำไป 36 ประตูในฤดูกาลแรก และ 26 ประตูในฤดูกาลที่แล้ว จากการลงเล่นในบุนเดสลีกาทั้งสิ้น 62 นัด ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมากๆ
ขณะที่ในฤดูกาลปัจจุบัน 2025-26 ที่เพิ่งเปิดฉากไปได้ไม่นาน อดีตหัวหอกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็กดไปแล้ว 5 ประตูจากการลงเล่น 3 นัดในลีก เรียกได้ว่าส่อแววที่จะได้รางวัลดาวซัลโวในฤดูกาลนี้ไปครองอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม อันที่จริงแล้ว นอกเหนือจาก แฮร์รี่ เคน ยังมีอีกคนหนึ่งที่มีสถิติการถล่มประตูที่น่าทึ่งไม่แพ้กัน ซึ่งเจ้าตัวก็พิสูจน์ให้เห็นมา 3 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว และแน่นอนว่า นี่คือคนที่ใกล้เคียงที่สุดที่จะแย่งตำแหน่งดาวซัลโวกับ เคน ไม่มีใครทำได้ดีไปกว่าเขาในช่วงเวลานี้
กองหน้าที่เรากำลังพูดถึงอยู่ก็คือ แซร์อู กีราสซี หัวหอกทีมชาติกินีของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั่นเอง และวันนี้เราจะมาส่องประวัติของเจ้าตัวกันหน่อยว่ามีเส้นทางอาชีพที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ก่อนที่จะกลายมาเป็นหัวหอกอันดับหนึ่งของ ดอร์ทมุนด์ ในเวลานี้...
วัยเด็กและการเริ่มต้นบนเส้นทางลูกหนัง
แซร์อู กีราสซี เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ปี 1996 ที่เมืองอาร์ล ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันมีอายุ 29 ปี กีราสซี เติบโตในครอบครัวชาวกินี เขาแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย และเริ่มเข้าร่วมอะคาเดมี่ของสโมสรฟุตบอลท้องถิ่น ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของ เอฟเซ ลาวาล ในปี 2011 ในตอนที่มีอายุได้ 15 ปี ที่นั่นเขาใช้เวลาพัฒนาฝีเท้าหลายปี ก่อนจะสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้สำเร็จ
ในเดือนตุลาคม ปี 2013 ด้วยวัยเพียง 17 ปี กีราสซี ได้ลงประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพให้กับทีมชุดใหญ่ของ ลาวาล ในนัดที่พบกับ เลอ อาฟร์ ในศึก ลีก เดอซ์ ก่อนที่ในฤดูกาล 2014-15 เขาจะเริ่มได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำประตูแรกในอาชีพได้ในเดือนเมษายน ปี 2015 ในนัดที่พบกับ ชาโตรูซ์ ก่อนที่จะยิงไปทั้งสิ้น 7 ประตูจาก 34 เกมรวมทุกรายการในปีดังกล่าว
การเพิ่มพูนประสบการณ์ในฝรั่งเศสและเยอรมนี
หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับ ลาวาล ใน ลีก เดอซ์ เขาก็ได้รับความสนใจจากสโมสรในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส และในเดือนกรกฎาคม ปี 2015 เขาก็ได้ย้ายไปร่วมทีม ลีลล์ ด้วยค่าตัว 1 ล้านยูโร แต่ด้วยการแข่งขันที่สูงในทีม ทำให้เขาต้องใช้เวลาส่วนใหญ่กับทีมสำรอง และถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นใน ลีก เดอซ์ กับ โอแซร์ ในเวลาต่อมา ซึ่งที่ โอแซร์ นั้น กีราสซี ทำผลงานได้ไม่เลว เมื่อทำไป 8 ประตูจากการลงเล่น 16 เกม
จากนั้น ในเดือนกรกฎาคม ปี 2016 กีราสซี ตัดสินใจย้ายไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมนี กับ แอฟเซ โคโลญจน์ ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด โดยในฤดูกาลแรกนั้น กีราสซี ได้ลงสนามไปเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น และทำประตูไม่ได้เลย แต่ในฤดูกาลถัดมาเขาได้รับโอกาสมากขึ้น โดยได้ลงเล่นในบุนเดสลีกาไปทั้งสิ้น 15 นัด ทำไป 4 ประตู
อย่างไรก็ตาม ผลงานดังกล่าวถือว่ายังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร ทำให้ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2018-19 เขาถูกปล่อยยืมตัวกลับไปเล่นใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส กับ อาเมียงส์ ซึ่ง กีราสซี ได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของเขา ทำให้ อาเมียงส์ ยอมจ่าย 6 ล้านยูโร คว้าตัวไปร่วมทีมเป็นการถาวร
ในฤดูกาล 2019-20 กีราสซี ในวัย 23 ปีทำผลงานได้ค่อนข้างดี เขายิงไป 9 ประตูจากการลงเล่น 24 เกมรวมทุกรายการ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว อาเมียงส์ จะตกชั้นจาก ลีก เอิง หลังจบฤดูกาลนั้นก็ตาม แต่จากฟอร์มที่โดดเด่น ทำให้ แรนส์ จัดการคว้าตัวเขาไปร่วมทีมต่อทันทีในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร
สรุปข่าว
หากว่าเรานึกถึงกองหน้าที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าย่อมหนีไม่พ้น แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ยิงประตูอย่างถล่มทลายตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาเล่นในลีกเมืองเบียร์ตั้งแต่ 2 ปีก่อน
ผลงานของ เคน นั้่นน่าทึ่งอย่างมาก เพราะเจ้าตัวทำไป 36 ประตูในฤดูกาลแรก และ 26 ประตูในฤดูกาลที่แล้ว จากการลงเล่นในบุนเดสลีกาทั้งสิ้น 62 นัด ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมากๆ
ขณะที่ในฤดูกาลปัจจุบัน 2025-26 ที่เพิ่งเปิดฉากไปได้ไม่นาน อดีตหัวหอกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็กดไปแล้ว 5 ประตูจากการลงเล่น 3 นัดในลีก เรียกได้ว่าส่อแววที่จะได้รางวัลดาวซัลโวในฤดูกาลนี้ไปครองอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม อันที่จริงแล้ว นอกเหนือจาก แฮร์รี่ เคน ยังมีอีกคนหนึ่งที่มีสถิติการถล่มประตูที่น่าทึ่งไม่แพ้กัน ซึ่งเจ้าตัวก็พิสูจน์ให้เห็นมา 3 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว และแน่นอนว่า นี่คือคนที่ใกล้เคียงที่สุดที่จะแย่งตำแหน่งดาวซัลโวกับ เคน ไม่มีใครทำได้ดีไปกว่าเขาในช่วงเวลานี้
กองหน้าที่เรากำลังพูดถึงอยู่ก็คือ แซร์อู กีราสซี หัวหอกทีมชาติกินีของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั่นเอง และวันนี้เราจะมาส่องประวัติของเจ้าตัวกันหน่อยว่ามีเส้นทางอาชีพที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ก่อนที่จะกลายมาเป็นหัวหอกอันดับหนึ่งของ ดอร์ทมุนด์ ในเวลานี้...
วัยเด็กและการเริ่มต้นบนเส้นทางลูกหนัง
แซร์อู กีราสซี เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ปี 1996 ที่เมืองอาร์ล ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันมีอายุ 29 ปี กีราสซี เติบโตในครอบครัวชาวกินี เขาแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย และเริ่มเข้าร่วมอะคาเดมี่ของสโมสรฟุตบอลท้องถิ่น ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของ เอฟเซ ลาวาล ในปี 2011 ในตอนที่มีอายุได้ 15 ปี ที่นั่นเขาใช้เวลาพัฒนาฝีเท้าหลายปี ก่อนจะสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้สำเร็จ
ในเดือนตุลาคม ปี 2013 ด้วยวัยเพียง 17 ปี กีราสซี ได้ลงประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพให้กับทีมชุดใหญ่ของ ลาวาล ในนัดที่พบกับ เลอ อาฟร์ ในศึก ลีก เดอซ์ ก่อนที่ในฤดูกาล 2014-15 เขาจะเริ่มได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำประตูแรกในอาชีพได้ในเดือนเมษายน ปี 2015 ในนัดที่พบกับ ชาโตรูซ์ ก่อนที่จะยิงไปทั้งสิ้น 7 ประตูจาก 34 เกมรวมทุกรายการในปีดังกล่าว
การเพิ่มพูนประสบการณ์ในฝรั่งเศสและเยอรมนี
หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับ ลาวาล ใน ลีก เดอซ์ เขาก็ได้รับความสนใจจากสโมสรในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส และในเดือนกรกฎาคม ปี 2015 เขาก็ได้ย้ายไปร่วมทีม ลีลล์ ด้วยค่าตัว 1 ล้านยูโร แต่ด้วยการแข่งขันที่สูงในทีม ทำให้เขาต้องใช้เวลาส่วนใหญ่กับทีมสำรอง และถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นใน ลีก เดอซ์ กับ โอแซร์ ในเวลาต่อมา ซึ่งที่ โอแซร์ นั้น กีราสซี ทำผลงานได้ไม่เลว เมื่อทำไป 8 ประตูจากการลงเล่น 16 เกม
จากนั้น ในเดือนกรกฎาคม ปี 2016 กีราสซี ตัดสินใจย้ายไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมนี กับ แอฟเซ โคโลญจน์ ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด โดยในฤดูกาลแรกนั้น กีราสซี ได้ลงสนามไปเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น และทำประตูไม่ได้เลย แต่ในฤดูกาลถัดมาเขาได้รับโอกาสมากขึ้น โดยได้ลงเล่นในบุนเดสลีกาไปทั้งสิ้น 15 นัด ทำไป 4 ประตู
อย่างไรก็ตาม ผลงานดังกล่าวถือว่ายังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร ทำให้ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2018-19 เขาถูกปล่อยยืมตัวกลับไปเล่นใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส กับ อาเมียงส์ ซึ่ง กีราสซี ได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของเขา ทำให้ อาเมียงส์ ยอมจ่าย 6 ล้านยูโร คว้าตัวไปร่วมทีมเป็นการถาวร
ในฤดูกาล 2019-20 กีราสซี ในวัย 23 ปีทำผลงานได้ค่อนข้างดี เขายิงไป 9 ประตูจากการลงเล่น 24 เกมรวมทุกรายการ แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว อาเมียงส์ จะตกชั้นจาก ลีก เอิง หลังจบฤดูกาลนั้นก็ตาม แต่จากฟอร์มที่โดดเด่น ทำให้ แรนส์ จัดการคว้าตัวเขาไปร่วมทีมต่อทันทีในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร
แจ้งเกิดเต็มตัวกับ แรนส์ (2020-2022) และ สตุ๊ตการ์ท (2022-2024)
หลังจากที่ กีราสซี ย้ายมาอยู่กับ แรนส์ เขาได้กลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของทีม และทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอใน ลีก เอิง โดยตลอด 2 ฤดูกาลกับแรนส์ เขาทำไป 25 ประตูจาก 81 นัด ในทุกรายการ
ในเดือนกันยายน ปี 2022 กีราสซี ก็ได้สัมผัสกับเวทีบุนเดสลีกา หลังถูกปล่อยให้ สตุ๊ตการ์ท ยืมตัวไปใช้งาน 1 ฤดูกาล ซึ่งการย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในอาชีพของเขา และเป็นการระเบิดฟอร์มยกระดับจากกองหน้าที่ดูมีแวว กลายเป็นหัวหอกระดับแถวหน้าของลีก
ที่ สตุ๊ตการ์ท นั้น กีราสซี ได้แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงและน่าทึ่งเกินความคาดหมาย โดยในฤดูกาลดังกล่าว เขายิงไป 14 ประตูจาก 28 นัดรวมทุกรายการให้กับทีมม้าขาว ซึ่งถือเป็นฟอร์มที่น่าประทับใจมาก นั่นทำให้ สตุ๊ตการ์ท ตัดสินใจใช้ออปชั่นซื้อขาดมาร่วมทีมอย่างถาวรในฤดูกาลถัดมา ด้วยค่าตัวสุดถูกเพียง 9 ล้านยูโรเท่านั้น
และในฤดูกาล 2023-24 กีราสซี ก็สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการฟุตบอลเยอรมนี ด้วยการทำประตูได้อย่างถล่มทลาย เขายิงไปถึง 28 ประตูจาก 28 นัด ในบุนเดสลีกา เป็นรองเพียงแค่ แฮร์รี่ เคน ของ บาเยิร์น มิวนิค เท่านั้น และเป็นส่วนสำคัญในการพา สตุ๊ตการ์ท จบอันดับที่ 2 ของตารางได้อย่างเหลือเชื่อ ขณะที่แชมป์ตกเป็นของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ไม่แพ้ใครเลยทั้งฤดูกาล
ยกระดับไปอีกขั้นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (2024–ปัจจุบัน)
จากฟอร์มอันร้อนแรงกับ สตุ๊ตการ์ท ทำให้ กีราสซี กลายเป็นที่ต้องการของหลายสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป แต่สุดท้ายแล้ว เขายังเลือกที่จะเล่นในบุนเดสลีกาต่อไป ด้วยการย้ายไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2024 ด้วยค่าตัว 17.5 ล้านยูโร
หลังจากย้ายมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ กีราสซี ก็ไม่ได้ทำให้แฟนบอลเสือเหลืองต้องผิดหวัง เขาได้กลายเป็นหัวหอกคนสำคัญของทีมอย่างรวดเร็ว และพิสูจน์ให้เห็นถึงความคุ้มค่าของค่าตัวที่สโมสรลงทุนไป
ในฤดูกาล 2024-25 กีราสซี ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม เขายังคงทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวของลีก โดยสามารถทำไปถึง 21 ประตูจากการลงเล่น 30 เกมในบุนเดสลีกา คว้าตำแหน่งรองดาวซัลโวของลีกได้อีกครั้ง และยิงไปทั้งสิ้น 38 ประตูจากการลงสนาม 50 เกมรวมทุกรายการ เขากลายเป็นผู้เล่นของ ดอร์ทมุนด์ คนแรกที่ทำได้มากกว่า 20 ประตูในฤดูกาลแรกกับสโมสร
การย้ายมาเล่นให้ ดอร์ทมุนด์ ยังทำให้ กีราสซี ได้สัมผัสการลงเล่นในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ทำไปถึง 13 ประตู ทำให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของรายการนี้ ร่วมกับ ราฟินญ่า ของ บาร์เซโลน่า และทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดของนักเตะ ดอร์ทมุนด์ ในรายการนี้ด้วยเช่นกัน
แม้ว่า ดอร์ทมุนด์ ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรในฤดูกาลนี้ แต่สำหรับฟอร์มส่วนตัวของ กีราสซี นั้นน่าประทับใจมาก ขณะที่ในฤดูกาล 2025-26 ที่เพิ่มเริ่มเปิดฉากได้ไม่นาน เขาก็ระเบิดฟอร์มออกมาได้ทันที เมื่อทำไปแล้ว 5 ประตูจากการลงเล่น 5 เกมในทุกรายการ โดยเป็นการยิงในบุนเดสลีกา 4 ประตู นั่นทำให้ฤดูกาลนี้ กีราสซี น่าจะยังเป็นกำลังสำคัญของ ดอร์ทมุนด์ ต่อไป และถ้าเขาทำได้ดี ก็ไม่แน่ว่าปีนี้ทีมเสือเหลืองอาจจะมีความสำเร็จบางอย่างติดมือก็เป็นได้
ผลงานในนามทีมชาติกินี
แซร์อู กีราสซี เลือกที่จะลงเล่นให้กับทีมชาติกินี ซึ่งเป็นเชื้อสายที่แท้จริงของเขา แม้ว่าเขาจะเกิดและเติบโตที่ประเทศฝรั่งเศสก็ตาม กีราสซี ลงประเดิมสนามให้กับทีมชาติกินีชุดใหญ่ในเดือนมีนาคม ปี 2022 ในเกมกระชับมิตรที่เสมอกับ แอฟริกาใต้ 0-0 ก่อนจะทำประตูในนามทีมชาติได้เป็นครั้งแรก ในวันที่ 14 มิถุนายน 2023 ในเกม แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2023 รอบคัดเลือก ในเกมที่พ่าย อียิปต์ 1-2 เบ็ดเสร็จแล้วเขาลงเล่นให้กับ กินี ไปแล้วทั้งสิ้น 25 นัด ทำไปแล้ว 10 ประตูด้วยกัน
จากเส้นทางอาชีพของเขาเห็นได้ชัดเลยว่า กีราสซี เริ่มต้นจากนักเตะปลายแถว ก่อนจะค่อยๆ สร้างผลงานไต่เต้าขึ้นมาสู่ดับแถวหน้าของวงการได้อย่างน่าภาคภูมิ ด้วยฟอร์มในปัจจุบัน เขาน่าจะเป็นแค่คนเดียวที่สามารถขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งดาวซัลโวบุนเดสลีกากับ แฮร์รี่ เคน ได้ น่าเสียดายที่กว่าจะโด่งดัง กีราสซี ก็มีอายุ 29 ปีแล้ว ไม่อย่างนั้นเราอาจจะได้เห็นเขาย้ายไปอยู่กับทีมที่ใหญ่กว่า ดอร์ทมุนด์ อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากว่าในฤดูกาล 2025-26 เขายังสามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า กีราสซี อาจจะได้ย้ายไปอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป เพื่อลุ้นคว้าแชมป์ให้มากกว่านี้ก็เป็นได้ เพราะตั้งแต่เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพมาจนถึงปัจจุบัน เขายังไม่เคยสัมผัสแชมป์รายการระดับเมเจอร์เลยแม้แต่ครั้งเดียว และนั่นคงเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตการเล่นฟุตบอลของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย...
⚽คอฟุตบอลไม่ควรพลาด! แพ็กเกจ NOW FOOTBALL ดูบอลครบทั้งลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ อาทิ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ยูฟ่า ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก / ลาลีกา / บุนเดสลีกา / เซเรีย อา และอีกมากมายกว่า 2,000 แมตช์ ตลอดฤดูกาล 2025/26
📲สมัครและดูได้แล้ววันนี้ รายเดือน และ รายฤดูกาล
📌Now Football 199 บาท/เดือน (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/apphyrcr
📌Now Football Season Pass 1,789 บาท/ฤดูกาล (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) ถึง 30 กันยายน 68 เท่านั้น สมัครเลยคลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/p7b2l465
- ส่องประวัติ 'แซร์อู กีราสซี' จากนักเตะโนเนมสู่ดาวเด่นของบุนเดสลีกา
- พรีวิว บุนเดสลีกา เยอรมนี 2025-26 : บาเยิร์น มิวนิค พบ ฮัมบูร์ก
- พรีวิว บุนเดสลีกา เยอรมนี 2025-26 : เลเวอร์คูเซ่น พบ แฟร้งค์เฟิร์ต
- 'บาเยิร์น มิวนิค' ผู้ชนะในตลาดซื้อขาย?
- พรีวิว บุนเดสลีกา เยอรมนี 2025-26 : เอาก์สบวร์ก พบ บาเยิร์น มิวนิค
