ประวัติ "เฟรม" ศุภิสรา เพียวสามพราน นักแบดมินตันทีมชาติไทย

ประวัติ "เฟรม" ศุภิสรา เพียวสามพราน นักแบดมินตันทีมชาติไทย

จากผลงานความสำเร็จของทัพแบดมินตันไทย ที่ทำได้ในเวทีระดับโลกช่วงหลายปีที่ผ่านมา รุ่นแล้วรุ่นเล่าที่สลับกันขึ้นมาสร้างความสุขให้กับแฟนๆตบลูกขนไก่ไทย


กาลเวลาผ่านไปนักกีฬาหลายคนต่างเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ บ้างก็กลายไปเป็นโค้ชฝึกสอนเด็กๆรุ่นหลังเพื่อดำเนินรอยตาม ส่งต่อเข้าสู่เวทีระดับชาติ ทำให้ทีมแบดมินตันไทยมักจะมีสายเลือดใหม่ขึ้นมาประดับวงการอยู่เสมอ


ในช่วงเวลาหนึ่งคู่หูอย่าง "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ได้สร้างปรากฏการณ์ในการแข่งประเภทคู่ผสมให้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนๆได้อย่างล้นหลาม


จากความสำเร็จที่ทั้งสองสร้างขึ้นมากมายและการก้าวขึ้นไปรั้งตำแหน่งมือวางอันดับ1 ของโลก ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือคู่ที่เรียกเรตติ้งจากแฟนๆได้มากที่สุดในการแข่งขันแบดมินตัน


การผสมผสานที่ลงตัวของทั้งสองคน ที่มีจุดเริ่มต้นจากการเอ่ยปากในสนามซ้อมของ "บาส" เดชาพล ที่อยากลองจับคู่กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี จากคำพูดที่ลองชวนเล่นๆ กลายเป็นการสร้างตำนานบทใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทย 


กาลเวลาผ่านไป หลังผ่านจุดสูงสุดของทั้งคู่ ทีมแบดมินตันเอสซีจี ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการลองสลับสับเปลี่ยนเพื่อสิ่งใหม่ๆ โดยให้ "บาส" เดชาพล ไปคู่กับ "เฟรม" ศุภิสรา เพียวสามพราน ขณะที่  "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี ไปคู่กับ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ  

สรุปข่าว

"เฟรม" ศุภิสรา เพียวสามพราน เกิดวันที่ 18 พฤศจิกายน 1999 จังหวัดนครปฐม เริ่มเล่นแบดมินตันตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ก่อนจะพัฒนาฝีมือจนเข้าทีม เอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ ภายใต้การดูแลของโค้ชเทศนา พันธ์วิศวาส และก้าวสู่ทีมชาติไทยในประเภทคู่ ผลงานช่วงแรก เธอจับคู่กับ พุธิตา สุภจิรกุล (หญิงคู่) และ สุภัค จอมเกาะ (คู่ผสม) โดยทำผลงานเด่น คว้า เหรียญทองแดง อูเบอร์คัพ 2020 และ เอเชียนเกมส์ 2022 จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี 2024 ทีมเอสซีจีลองสลับคู่ ให้เธอจับคู่กับ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ แม้เริ่มต้นยังไม่ลงตัว แต่ก็พัฒนาจนคว้าแชมป์แรกที่ เจแปน มาสเตอร์ส 2024 (Super 500) และปิดปีด้วยแชมป์ อินเดีย อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 (Super 300) ปี 2025 ทั้งคู่สร้างกระแสแรงด้วยการคว้าแชมป์ใหญ่ต่อเนื่อง ทั้ง มาเลเซีย โอเพ่น 2025 (Super 1000) และ ไชน่า มาสเตอร์ส 2025 (Super 750) จนปัจจุบันก้าวขึ้นเป็น คู่มือวางอันดับ 3 ของโลก ปัจจุบัน เฟรมวัย 25 ปี ถือเป็นความหวังใหม่ของทีมชาติไทยในประเภทคู่ผสม โดยแฟนๆ ต่างคาดหวังว่าเธอกับบาสจะเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์บนเวทีโลกต่อไป

จากผลงานความสำเร็จของทัพแบดมินตันไทย ที่ทำได้ในเวทีระดับโลกช่วงหลายปีที่ผ่านมา รุ่นแล้วรุ่นเล่าที่สลับกันขึ้นมาสร้างความสุขให้กับแฟนๆตบลูกขนไก่ไทย


กาลเวลาผ่านไปนักกีฬาหลายคนต่างเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ บ้างก็กลายไปเป็นโค้ชฝึกสอนเด็กๆรุ่นหลังเพื่อดำเนินรอยตาม ส่งต่อเข้าสู่เวทีระดับชาติ ทำให้ทีมแบดมินตันไทยมักจะมีสายเลือดใหม่ขึ้นมาประดับวงการอยู่เสมอ


ในช่วงเวลาหนึ่งคู่หูอย่าง "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ได้สร้างปรากฏการณ์ในการแข่งประเภทคู่ผสมให้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนๆได้อย่างล้นหลาม


จากความสำเร็จที่ทั้งสองสร้างขึ้นมากมายและการก้าวขึ้นไปรั้งตำแหน่งมือวางอันดับ1 ของโลก ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือคู่ที่เรียกเรตติ้งจากแฟนๆได้มากที่สุดในการแข่งขันแบดมินตัน


การผสมผสานที่ลงตัวของทั้งสองคน ที่มีจุดเริ่มต้นจากการเอ่ยปากในสนามซ้อมของ "บาส" เดชาพล ที่อยากลองจับคู่กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี จากคำพูดที่ลองชวนเล่นๆ กลายเป็นการสร้างตำนานบทใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทย 


กาลเวลาผ่านไป หลังผ่านจุดสูงสุดของทั้งคู่ ทีมแบดมินตันเอสซีจี ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการลองสลับสับเปลี่ยนเพื่อสิ่งใหม่ๆ โดยให้ "บาส" เดชาพล ไปคู่กับ "เฟรม" ศุภิสรา เพียวสามพราน ขณะที่  "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี ไปคู่กับ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ  

รายการแรกที่เริ่มทดลองสลับคู่เกิดขึ้นในศึกอาร์คติก โอเพ่น ที่ประเทศฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2024 ปรากฎว่า "บาส" และ "เฟรม" จบที่รอบ 16 คนสุดท้าย ส่วน "ปอป้อ" กับ "เอ็ม" จบที่รอบก่อนรองชนะเลิศ


แม้จะเริ่มต้นไม่สวยเพราะด้วยความที่ยังใหม่ ทำให้การปรับตัวยังไม่เข้าที่ แต่ก็ดูมีแววที่จะไปต่อกันได้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปราวๆ 1 เดือน "บาส" และ "เฟรม" ก็เริ่มเข้าที่ ก่อนจะปลดล็อกแชมป์แรกของทั้งคู่ในศึกมาสเตอร์ส เจแปน 2024 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2024


หลังได้แชมป์แรกกลายเป็นความมั่นใจมา จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเดินหน้าล่าความสำเร็จและไล่เก็บคะแนนสะสมเป็นกอบเป็นกำ ปลายปี 2024 ทั้งคู่ตบท้ายด้วยการคว้าแชมป์ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 กับศึกอินเดีย อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 ทั้งๆที่เพิ่งจะเป็นการจับคู่กับเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ 5 เท่านั้น


ผลงาน "บาส" เดชาพล กับ "เฟรม" ศุภิสรา ในปี 2025


เข้าสู่ปี 2025 "บาส" และ "เฟรม" ที่ตอนนั้นรั้งมือวางอันดับ 57 ของโลก พกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า ออกสตาร์ทปีปฎิทินด้วยการคว้าแชมป์ มาเลเซีย โอเพ่น 2025 ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ด้วยการไล่ตบคู่เจ้าถิ่น ที่เป็นมือวางอันดับ6 ของโลก อย่าง โก๊ะ ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ ไล ในรอบรองชนะเลิศ ต่อด้วยการปราบคู่มือ 1 ของโลกจากจีนอย่าง เฝิง หยานเจ๋อ กับ หวง ตงปิง ในรอบชิงชนะเลิศ


และล่าสุดกับการผงาดคว้าแชมป์ไชน่า มาสเตอร์ส เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 จนปัจจุบันทั้งสองคนรั้งคู่มือวางอันดับ3 ของโลกเป็นที่เรียบร้อย 

เราจึงขอใช้โอกาสนี้พาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ "เฟรม" ศุภิสรา เพียวสามพราน ว่ากว่าที่เขาจะก้าวมาถึงจุดนี้ เส้นทางในวงการตบลูกขนไก่ต้องผ่านอะไรมาบ้าง


ประวัติ "เฟรม" ศุภิสรา เพียวสามพราน


"เฟรม" ศุภิสรา เพียวสามพราน เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1999 ที่จังหวัดนครปฐม จุดเริ่มต้นในการเล่นแบดมินตันก็คล้ายๆกับเด็กทั่วไปที่ใช้กีฬาชนิดนี้สร้างความบันเทิง เพราะมันเป็นกีฬาที่มีอยู่แทบทุกบ้านและเล่นกันได้ทุกเพศทุกวัย


เขารู้จักกับแบดมินตัน ในวัย 6 ขวบ และแม้จะเริ่มต้นเล่นแค่เอาสนุก แต่ทำไปทำมากลายเป็นความรู้สึกว่านี่คือกีฬาที่ชอบและทำได้ดี ก่อนจะลงแข่งขันในระดับเยาวชนตามที่ต่างๆ ซึ่งก็มีทั้งสมหวังและผิดหวังตามวัย


"เฟรม" ศุภิสรา เข้าสังกัดทีมเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่


จากที่เล่นขำๆก็กลายเป็นเริ่มจริงจังมากขึ้น มีการแบ่งเวลาฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งอายุได้ 15 ปี แววของ "เฟรม" ก็ไปเข้าตา "โค้ชโอม" เทศนา พันธ์วิศวาส ดึงตัวไปเข้าสังกัดทีมเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ เพื่อบ่มเพาะฝีมือปูทางสู่ความเป็นเลิศ


การได้เข้าสู่ทีมระดับอาชีพ ทำให้เฟรม ได้โอกาสเริ่มต้นตั้งแต่ปรับพื้นฐาน เรียนรู้เทคนิคไต่ระดับเรื่อยไปจนกลายเป็นฝีมือของเธอพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด จนกระทั่งได้โอกาสติดทีมชาติไทย ในประเภทคู่


"เฟรม" ศุภิสรา เริ่มต้นในระดับทีมชาติ


โดยในเวลานั้น เธอเริ่มต้นจับคู่กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล ในประเภทหญิงคู่ และจับกับ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ ในประเภทคู่ผสม ซึ่งผลงานก็ถือว่าทำได้อย่างน่าชื่นชม โดยเฉพาะในประเภทคู่ผสม ที่ก้าวขึ้นไปถึงท็อป 20 ของโลก 


ผลงานชิ้นโบว์แดงของทั้งคู่คือการคว้าเหรียญทองแดงในศึก อูเบอร์คัพ 2020 และ เหรียญทองแดง ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2022 คือถามว่าดีไหม ก็ตอบได้ว่าดี แต่มันยังดูไม่สุด จนกระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนที่ทีมเอสซีจี แบดมินตัน ตัดสินใจลองสลับคู่ 


จนถือกำเนิดคู่หูใหม่อย่าง "บาส" เดชาพล และ "เฟรม" ศุภิสรา กลายเป็นคู่ที่น่าจับตามองและไล่ล่าความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยระยะเวลายังไม่ถึง 1 ปีเต็ม พวกเขาสามารถก้าวขึ้นไปรั้งคู่มือวางอันดับ 3 ของโลกได้อย่างน่าชื่นชม และกลายเป็นคู่แบดมินตันที่แฟนๆตบลูกขนไก่ไทยเฝ้ารอติดตามเชียร์ทุกสนาม 


เชื่อเหลือเกินว่านี่เพิ่งจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ของความสำเร็จที่ยังรออยู่อีกมาก เพราะด้วยอายุของ "เฟรม" ศุภิสรา ที่ปัจจุบันเพิ่งจะ 25 ปี ขณะที่ "บาส" เดชาพล ปัจจุบัน 28 ปี ยังมีระยะเวลาใช้งานอีกยาวๆ 


ยิ่งบวกกับวินัยและความมุ่งมั่นของทั้งสองคนที่พร้อมจะเรียนรู้เพื่อยกระดับการเล่นตัวเองอยู่ตลอดเวลา นับแต่นี้ไปแฟนๆชาวไทยจะได้เห็นทั้งคู่ลงสนามไล่ล่าความสำเร็จอีกมากมาย ซึ่งสามารถติดตามให้กำลังใจทั้งคู่ได้สดๆผ่านทางแอปพลิเคชัน ทรูวิชั่นส์ นาว 

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย