โดย อิชิอิ ตัดสินใจเรียก อนันต์ ยอดสังวาลย์, วันชัย จารุนงคราญ รวมถึง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว เข้ามาเสริมทัพแทน โดยที่ผ่านมาทีมชาติไทย รวมพลรายงานตัวฝึกซ้อมกันตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม ณ สนามยามาโอกะ ฮานาซากะ อคาเดมี 

รายชื่อ 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนามของ ทีมชาติไทย (ระบบ 4-3-3)

ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คําไหม กองหลังวาง ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ณัฐพงษ์ สายริยา, โจนาธาร เข็มดี, นิโคลัส มิคเกลสัน แดนกลางใช้ เบนจามิน เดวิส, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ แนวรุกส่ง สุภโชค สารชาติ, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ลงล่าตาข่าย

ทางฝั่งทีมเยือน ไชนีส ไทเป ภายใต้การคุมทัพของ ฮวง ชี หมิง ทำผลงานแพ้มา 2 นัดรวด เกมแรกพ่ายคาบ้านต่อ เติร์กเมนิสถาน 1-2 ต่อด้วยการบุกไปโดน ศรีลังกา อัดมา 3-1 รั้งบ๊วยของกลุ่ม โดยเกมนี้พวกเขาวางแผนมาเล่นแบบรัดกุมและทำการบ้านศึกษานักเตะไทยมาอย่างดีเพื่อรับมือ 

โดยขุมกำลังของพวกเขาเกมนี้ไม่มีปัญหา พร้อมขนบรรดาตัวหลักลงสนามอย่างพร้อมเพียง ไม่ว่าจะเป็น จอห์น เบนซี ดาวยิงเชื้อสายเฮติ ที่พร้อมผนึกกำลังกับดาวยิงตัวเก๋าอย่าง เชา เชา อัน

ทรรศนะ

เป็นเกมที่ทีมชาติไทย ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเดินหน้าบุกเพื่อชัยชนะสถานเดียว หากหวังเพิ่มโอกาสในการผ่านเข้ารอบสุดท้าย และด้วยคุณภาพทีมที่ทัพ "ช้างศึก" เหนือกว่าทุกด้าน แถมได้ลงเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอล แม้จะไม่มีกองหน้า 2 คนสำคัญที่บาดเจ็บต้องถอนตัวไป แต่ด้วยขุมกำลังและมาตรฐานทีม ยังมองว่าทีมชาติไทย เหนือกว่าเยอะ และมีทีเด็ดเก็บ 3 แต้มได้ตามเป้าหมาย

ผลการแข่งขันที่คาด 

ทีมชาติไทย ชนะ ไชนีส ไทเป 4-0