อย่างไรก็ตามทุกอย่างยังคงเป็นเพียงแค่คำพูด ที่จะเติมแต่งให้ออกมาสวยหรูขนาดไหนก็ได้ แต่สิ่งที่จะชี้วัดกันจริงๆคือผลงานในสนาม ว่าแล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้กุนซือคนใหม่ของทีมชาติไทย สามารถพาทีมเดินหน้าสู่เป้าหมายที่วางเอาไวให้จงได้

และด้วยโอกาสนี้เราจึงขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับกุนซือชาวอังกฤษคนใหม่ของทีมชาติไทยกันให้มากขึ้น ว่ากว่าที่เขาจะเข้ามารับตำแหน่งในทัพ "ช้างศึก" เส้นทางลูกหนังต้องผ่านอะไรมาบ้าง...

ประวัติ แอนโธนี ฮัดสัน

แอนโธนี แพทริค ฮัดสัน เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1981 ณ เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นลูกชายของ อลัน ฮัดสัน อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษ ที่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก มากับหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, สโต๊ค ซิตี้ หรืออาร์เซนอล 

ด้วยความที่เกิดมามีพ่อเป็นนักฟุตบอล ทำให้ชีวิตในวัยเด็กส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังให้มีใจรักในศาสตร์ลูกหนัง และเรียนรู้ทักษะการเล่นฟุตบอลจากคุณพ่อโดยตรง

แม้จะเกิดที่สหรัฐอเมริกา แต่เขาใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ในประเทศอังกฤษ เพราะคุณพ่อต้องการจะปูทางลูกชายคนนี้สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งเขาได้เข้าศึกษาในโรงเรียนกีฬาชื่อดังอย่างมิลล์ฟิลด์ เพื่อเรียนรู้ระเบียบวินัยเบื้องต้นของการเป็นนักกีฬา

เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของ แอนโธนี ฮัดสัน

จุดเริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของเขาคือการได้โอกาสเข้าสู่ระบบปั้นเยาวชนของสโมสรเอฟเวอร์ตัน จากนั้นก็ถูกปล่อยไปอยู่กับลูตันทาวน์ ด้วยสัญญายืมตัวในวัย 17 ปี ต่อด้วยเอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนที่จะข้ามไปอยู่กับสโมสรวิลมิงตัน แฮมเมอร์เฮด ทีมกึ่งอาชีพในอเมริกา 

การย้ายมาเล่นให้กับ วิลมิงตัน แฮมเมอร์เฮด มีนัยสำคัญเพราะเขาได้โอกาสรับบทเป็นทั้งนักเตะและผู้ช่วยโค้ชในสโมสรแห่งนี้ และยังได้โอกาสเป็นโค้ชให้กับทีมอะคาเดมี ของเอซี ดิอาบลอส เอสซี ควบคู่กันไป ก่อนจะตัดสินใจปิดฉากอาชีพนักเตะกับสโมสรแห่งนี้ ด้วยวัยเพียงแค่ 27 ปี

แอนโธนี ฮัดสัน เริ่มต้นสายงานโค้ช

แม้รู้ว่าฝีเท้าของตัวเองคงจะไปไม่ถึงระดับที่คุณพ่อทำเอาไว้ แต่เขาก็ยังคงมีความรักและผูกพันกับฟุตบอลจึงตัดสินใจมาเอาดีทางสายงานโค้ชเต็มตัว และก็ดูจะเป็นการตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องสำหรับตัวเอง

ด้วยความที่ ฮัดสัน เริ่มต้นงานโค้ชในตอนที่อายุยังน้อย ทำให้เขาพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและทำความเข้าใจศาสตร์ของการเป็นโค้ชได้อย่างลึกซึ้ง บวกกับการที่ตัวเองเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน ยิ่งส่งให้เขาเข้าใจธรรมชาติของนักเตะเป็นอย่างดี

เข้าสู่ปี 2008 ฮัดสัน ได้โอกาสครั้งสำคัญกับการทำหน้าที่เฮดโค้ชเต็มตัวครั้งแรกในชีวิต กับสโมสรเรอัล แมริแลนด์ มอนาร์คส์ ทีมในระดับดิวิชั่น2 ของสหรัฐอเริกา ทำให้เขากลายโค้ชที่อายุน้อยที่สุดของลีกในช่วงเวลานั้น

ผลงานการคุมทีมครั้งแรกถือว่าสร้างชื่อได้พอตัว กับการพาทีมที่จบอันดับสุดท้ายเมื่อฤดูกาลก่อน ทะยานขึ้นมาอยู่ในอันดับที่5 ของตาราง พร้อมกับคว้าสิทธิ์ไปเล่นรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นเป็นครั้งแรกของสโมสร

แม้ว่าสุดท้ายจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ผลงานของ แอนโธนี ฮัดสัน ก็ดีพอที่จะทำให้เขาถูกเสนอชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตเข้าชิงรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีของดิวิชั่น2 อเมริกา ในปี 2009

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลต่อมา ผลงานภาพรวมทีมของ ฮัดสัน กลับจมดิ่งอยู่ในอันดับสุดท้ายของตาราง แถมยังมีสถิติไม่ชนะใครเลยตลอดช่วง 10 เกมสุดท้าย  เป็นเหตุให้เขาต้องอำลาทีมไปในที่สุด หลังทำงานกับสโมสรแห่งนี้มาได้ 2 ปี 

โค้ชทีมสำรองของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส

สถานีต่อไปของเขาคือการมุ่งหน้าสู่ประเทศอังกฤษ เพื่อรับงานเฮดโค้ชในทีมสำรองของสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ก่อนที่จะได้รับข้อเสนอให้กลับไปทำงานในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง กับการคุมทีมนิวพอร์ต เคาน์ตี้ ในระดับคอนเฟอเรนซ์ พรีเมียร์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล 2010-11 ซึ่งเขาได้รับคำชมจาก แฮร์รี เรดแนปป์ กุนซือสเปอร์สในเวลานั้นว่านี่คือ โชเซ่ มูริญโญ่ คนต่อไป

หลังจบฤดูกาล ฮัดสัน ตัดสินใจเข้าอบรมโค้ชหลักสูตรยูฟ่า โปร ไลเซนส์ กับกับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ แต่ในระหว่างนั้นผลงานของสโมสรนิวพอร์ต เคาน์ตี้ กลับเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ได้ไม่ดี กับการเก็บชัยชนะได้เพียงแค่เกมเดียวจากการลงสนาม 12 นัดแรก ทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในที่สุด ท่ามกลางประเด็นดราม่าที่นักเตะในทีมยังหนุนหลังโค้ช แต่ผลงานดันไม่ถูกใจประธานสโมสร

แอนโธนี ฮัดสัน จบหลักสูตรโค้ชระดับยูฟ่า โปร ไลเซนส์

หลังจากแยกย้ายกับนิวพอร์ต เคาน์ตี้ ฮัดสัน ได้รับใบอนุญาตยูฟ่า โปร ไลเซนส์ ในปี 2012 ส่งผลให้เขากลายเป็นหนึ่งในโค้ชที่อายุน้อยที่สุดที่ผ่านหลักสูตรยูฟ่า โปร ไลเซนส์ ที่เปรียบเหมือนปริญญาสูงสุดในวงการโค้ชฟุตบอล

แอนโธนี ฮัดสัน มุ่งหน้าสู่ถนนลูกหนังสายเอเชีย

21 มีนาคม ค.ศ. 2012 ฮัดสัน ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติบาห์เรน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ก่อนจะสร้างผลงานโดดเด่นด้วยการพาทีมเข้าชิงชนะเลิศศึกGCC U-23 Championship 2012 (รายการชิงแชมป์U23ปีของชาติในโซนอาหรับ) ก่อนจะพ่ายให้กับ ซาอุดีอาระเบีย 0-2 ในรอบชิงชนะเลิศ

จากนั้นวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2013 แอนโธนี ฮัดสัน ได้โอกาสครั้งสำคัญกับการขยับขึ้นไปทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติบาห์เรน ชุดใหญ่ แทน กาเบรียล กัลเดรอน กุนซือชาวอาร์เจนติน่า ในขณะเดียวกันเขาก็ยังดูแลทีมชุด U23 ควบคู่กันไปด้วย ก่อนจะพาทีมแก้ตัวด้วยการคว้าแชมป์ GCC U-23 Championship 2013 หลังเอาชนะ ซาอุดีอาระเบีย ในรอบชิงชนะเลิศ ถือเป็นแชมป์รายการนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบาห์เรน

แอนโธนี ฮัดสัน รับงานคุมทีมชาตินิวซีแลนด์

จากนั้นเขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2014 เพื่อไปรับงานคุมทีมชาตินิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นการทำงานที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงทีมชุดใหญ่ โดยผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาคือการพาทีมชุดU23 ผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก

เข้าสู่ปี 2017 ฮัดสัน พาทีมชาตินิวซีแลนด์ เป็นตัวแทนของโซนโอเชียเนียเข้าสู่รอบเพลย์ออฟชิงตั๋วฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยมีด่านสำคัญอย่าง ทีมชาติเปรู ตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้ ที่อยู่ในอันดับ10 ของโลกในเวลานั้น โดยเกมแรกที่เวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ ผลการแข่งขันเสมอกัน 0-0 ก่อนที่ เปรู จะกลับไปเช็กบิลในบ้านด้วยการเอาชนะ 2-0 ผ่านเข้าไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2018 ที่ประเทศรัสเซียได้สำเร็จ 

ความผิดหวังในครั้งนั้นส่งผลให้ ฮัดสัน ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่ง แม้ว่าประธานบริหารของสมาคมฟุตบอลนิวซีแลนด์ จะต้องการให้เขาทำงานต่อไปก็ตาม เพราะมองว่านี่คือโค้ชที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการฟุตบอลนิวซีแลนด์

แอนโธนี ฮัดสัน คุมทีมในศึกเมเจอร์ลีกซอกเกอร์

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2017 ฮัดสัน ได้รับข้อเสนอให้คุมทีมโคโลราโด ราปิดส์ ในศึกเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ กลายเป็นเฮดโค้ชที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยวัยเพียงแค่ 36 ปี และอายุน้อยที่สุดในลีกสูงสุดของอเมริกาในเวลานั้น 

ในฤดูกาลแรกที่ทำงานเขามีช่วงเวลาย่ำแย่กับการพาทีมพ่ายแพ้ 9 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายมาเกิดขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2019 สโมสรประกาศปลด ฮัดสัน ออกจากตำแหน่ง หลังเจ้าตัวไปให้สัมภาษณ์สื่อว่าสโมสรกำลังต่อสู้ด้วยการที่มีขุมกำลังคุณภาพต่ำสุดของลีก 

แถมยังบอกว่าสิ่งเดียวที่จะพัฒนาคือสโมสรต้องทุ่มเงินคว้าตัวผู้เล่นฝีเท้าดีเข้ามา แต่เขากลับไม่ได้รับสิ่งนั้น และมีเพียงแค่ ทิม ฮาวเวิร์ด ผู้รักษาประตูชื่อดังเพียงคนเดียว ในขณะที่ทีมอื่นๆเต็มไปด้วยนักเตะระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น นานี่, เวย์น รูนีย์ หรือ ลูโช่ อคอสต้า

หลังถูกปลด ฮัดสิน ยืนยันว่าเขาได้ทำความเข้าใจกับลูกทีมถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อออกไป และไม่ได้ต้องการจะด้อยค่านักเตะ บทสรุปสุดท้ายเขาจบเส้นทางกับทีมด้วยผลงานย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์กุนซือของสโมสร

แอนโธนี ฮัดสัน คุมทีมชาติสหรัฐอเมริกา

เข้าสู่เดือนมกราคม 2021 ฮัดสัน ได้โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตกับการคุมทีมชาติสหรัฐอเมริกา ก่อนจะพาทีมสร้างผลงานยิ่งใหญ่กับการเอาชนะเม็กซิโก 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ คว้าแชมป์คอนคาเคฟ เนชันส์ ลีก 2021 มาครองได้เป็นครั้งแรก ต่อด้วยการผงาดคว้าแชมป์คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2021 ด้วยการตอกย้ำชัยชนะเหนือ เม็กซิโก 1-0 

จากนั้นเขาพาทีมชาติสหรัฐอเมริกา ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ของศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ก่อนจะพ่ายให้กับ เนเธอร์แลนด์ 1-3 หยุดเส้นทางฝันไว้เพียงเท่านี้

แอนโธนี ฮัดสัน เริ่มเข้าสู่ช่วงชีพจรลงเท้า

ฤดูกาล 2023-24 ฮัดสัน เข้าไปรับงานคุมทีมอัล-มาร์กียาห์ เอสซี ในลีกกาตาร์ แต่ไม่นานหลังคุมทีมไปเพียงแค่ 3 นัด ก็โดนโยกไปรับบทที่ปรึกษาด้านเทคนิค ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในเดือนเมษายน 2024 ถัดมาในเดือนกันยายน เขาเข้ารับตำแหน่งเฮดโค้ชของสโมสรอัล อาราบี 

จุดเริ่มต้นเส้นทางโค้ชในประเทศไทยของ แอนโธนี ฮัดสัน

กุมภาพันธ์ 2025 ฮัดสัน ตอบรับข้อเสนอคุมสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด แทนที่ ศุภชัย คมศิลป์ แต่แล้วเขาก็ได้ทำงานเพียงแค่ 2 เดือน ก็เป็นอันต้องแยกย้าย หลังฝากผลงานในศึกไทยลีก 10 นัด ชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 2 ซึ่งเป็นการตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ามารับบทบาทผู้อำนวยการเทคนิคของทีมชาติไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2025

และก็อย่างที่ทราบกันว่าหลังจากนั้น ทีมชาติไทยมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือใหญ่ด้วยการยุติสัญญากับ มาซาทาดะ อิชิอิ และดัน แอนโธนี ฮัดสัน ขึ้นมารับบทบาทเฮดโค้ชคนหใม่ของทีมชาติไทยชุดใหญ่

งานสำคัญของ ฮัดสัน หลังจากนี้คือ 2 เกม ในรอบคัดเลือกศึกเอเชียนคัพ ที่โจทย์คือบังคับชนะทั้ง 2 นัด ในการเจอกับ ศรีลังกา วันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ และปิดท้ายรอบคัดเลือกด้วยการเจอกับ เติร์กเมนิสถาน ในวันที่ 31 มีนาคม 2026 หากเราเก็บ 6 แต้มเต็มได้ตามเป้า ก็จะตีตั๋วไปลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายที่ซาอุดิอาระเบีย ในปี 2027

จะว่าไปก็ถือเป็นงานที่ไม่ง่ายและก็ไม่ได้ยากจนเกินไป สำหรับโค้ชที่มีดีกรีระดับยูฟ่า โปร ไลเซนส์ และผ่านร้อนผ่านหนาวกับการทำงานมาทั่วโลก แม้กระแสส่วนใหญ่จะออกมาในแง่ลบ แต่เชื่อว่าตัวของ ฮัดสัน เองก็คงเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ แล้วขอพิสูจน์ฝีมือตัวเองด้วยผลงานในสนาม

เพราะถ้าสุดท้ายผลงานออกมาดี ทีมชาติไทย ดูมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเชิงบวก กระแสเหล่านั้นก็จะถูกลบล้างออกไปเอง เพราะไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย หากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือทีมชาติไทย ไม่มีใครที่จะรอดพ้นกับแรงเสียดทานและความคาดหวังจากแฟนบอลไปได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเต็มที่ หากผลงานออกมาดี คนไทยก็พร้อมหนุนหลังเสมอ เพราะคนไทยลืมง่ายจะตาย