ถ้าพูดถึงผู้รักษาประตูที่ “นิ่งเหมือนรูปปั้น แต่ไวเหมือนสายฟ้า” ชื่อของ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ (Thibaut Courtois) มักจะโผล่มาเป็นลำดับต้น ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผลงานในทีมชาติหรือระดับสโมสร เขาคือหนึ่งในนายด่านที่รวมความสูงชะลูดเข้ากับปฏิกิริยาที่เฉียบคมได้อย่างลงตัว - และที่สำคัญเขาคือ “กำแพงมนุษย์” ของทาง เรอัล มาดริด ที่มีส่วนสำคัญในการพาทีมเดินหน้าคว้าความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ ลา ลีกา หรือ แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
ประวัติส่วนตัว
ธิโบต์ นิโกลัส มาร์ก กูร์กตัวส์ (Thibaut Nicolas Marc Courtois) เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 ที่เมืองบรี ประเทศเบลเยียม เขาเติบโตในครอบครัวนักกีฬา — ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เคยเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึง “กระโดดพุ่งรับบอล” ได้อย่างเป็นธรรมชาติขนาดนั้น
กูร์กตัวส์เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก โดยตอนแรกเขาไม่ได้เริ่มต้นจากตำแหน่งผู้รักษาประตูด้วยซ้ำ แต่เคยเป็นนักเตะตำแหน่งแบ็กซ้าย ก่อนจะเปลี่ยนมาเฝ้าเสาเต็มตัวเมื่ออายุราว 7 ขวบ และกลายเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นในระดับเยาวชนอย่างรวดเร็ว
เส้นทางอาชีพ
เริ่มต้นที่เกงค์ (KRC Genk)
กูร์กตัวส์ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของเกงค์ในปี 2009 ตอนอายุเพียง 16 ปี และเพียงสองปีต่อมา เขาก็กลายเป็นมือหนึ่งพาทีมคว้าแชมป์ จูปิแลร์ โปร ลีก ฤดูกาล 2010–11 พร้อมรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของลีกเบลเยียม
สู่เชลซี และช่วงเวลาแห่งการเติบโต
ปี 2011 เชลซีเห็นศักยภาพในหนุ่มน้อยร่างยักษ์รายนี้และเซ็นสัญญาทันที แต่เพื่อให้ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ สโมสรส่งเขาไปเก็บประสบการณ์ที่ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ — เพราะเขากลายเป็นกำลังหลักพาทีม “ตราหมี” คว้าแชมป์ ลาลีกา 2013–14, ยูโรปา ลีก 2012 และเข้าชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้อีกด้วย
เมื่อกลับมาสู่เชลซี เขาก็ยึดตำแหน่งมือหนึ่งทันที ภายใต้การคุมทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ และอันโตนิโอ คอนเต้ กูร์กตัวส์ช่วยทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัย (2014–15 และ 2016–17) พร้อมกลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในอังกฤษ
ยุคทองกับ เรอัล มาดริด
ในปี 2018 กูร์กตัวส์ ย้ายสู่ เรอัล มาดริด สโมสรในฝันของเขา และแม้จะเริ่มต้นไม่ง่ายนัก แต่เขาค่อย ๆ พิสูจน์ตัวเองด้วยฟอร์มอันเหนียวแน่น ฤดูกาล 2021–22 ถือเป็นปีทองของ เจ้าตัว เพราะสามารถโชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์คลาสในนัดชิงฯ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล โดยเซฟลูกยิงสำคัญๆได้หลายครั้งจนคว้ารางวัล Man of the Match และพา มาดริด คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 14 มาครองได้สำเร็จ และจากนั้นอีกเพียงไม่กี่ปี กูร์กตัวส์ ก็ประสบความสำเร็จอีกครั้งในศึก "บิ๊กเอียร์" โดยพาทีมเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปแบบสบายๆ 2-0 ผงาดแชมป์สมัยที่ 15 ในประวัติศาสตร์
สรุปข่าว
ถ้าพูดถึงผู้รักษาประตูที่ “นิ่งเหมือนรูปปั้น แต่ไวเหมือนสายฟ้า” ชื่อของ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ (Thibaut Courtois) มักจะโผล่มาเป็นลำดับต้น ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผลงานในทีมชาติหรือระดับสโมสร เขาคือหนึ่งในนายด่านที่รวมความสูงชะลูดเข้ากับปฏิกิริยาที่เฉียบคมได้อย่างลงตัว - และที่สำคัญเขาคือ “กำแพงมนุษย์” ของทาง เรอัล มาดริด ที่มีส่วนสำคัญในการพาทีมเดินหน้าคว้าความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ ลา ลีกา หรือ แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
ประวัติส่วนตัว
ธิโบต์ นิโกลัส มาร์ก กูร์กตัวส์ (Thibaut Nicolas Marc Courtois) เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 ที่เมืองบรี ประเทศเบลเยียม เขาเติบโตในครอบครัวนักกีฬา — ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เคยเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึง “กระโดดพุ่งรับบอล” ได้อย่างเป็นธรรมชาติขนาดนั้น
กูร์กตัวส์เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก โดยตอนแรกเขาไม่ได้เริ่มต้นจากตำแหน่งผู้รักษาประตูด้วยซ้ำ แต่เคยเป็นนักเตะตำแหน่งแบ็กซ้าย ก่อนจะเปลี่ยนมาเฝ้าเสาเต็มตัวเมื่ออายุราว 7 ขวบ และกลายเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นในระดับเยาวชนอย่างรวดเร็ว
เส้นทางอาชีพ
เริ่มต้นที่เกงค์ (KRC Genk)
กูร์กตัวส์ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของเกงค์ในปี 2009 ตอนอายุเพียง 16 ปี และเพียงสองปีต่อมา เขาก็กลายเป็นมือหนึ่งพาทีมคว้าแชมป์ จูปิแลร์ โปร ลีก ฤดูกาล 2010–11 พร้อมรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของลีกเบลเยียม
สู่เชลซี และช่วงเวลาแห่งการเติบโต
ปี 2011 เชลซีเห็นศักยภาพในหนุ่มน้อยร่างยักษ์รายนี้และเซ็นสัญญาทันที แต่เพื่อให้ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ สโมสรส่งเขาไปเก็บประสบการณ์ที่ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ — เพราะเขากลายเป็นกำลังหลักพาทีม “ตราหมี” คว้าแชมป์ ลาลีกา 2013–14, ยูโรปา ลีก 2012 และเข้าชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้อีกด้วย
เมื่อกลับมาสู่เชลซี เขาก็ยึดตำแหน่งมือหนึ่งทันที ภายใต้การคุมทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ และอันโตนิโอ คอนเต้ กูร์กตัวส์ช่วยทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัย (2014–15 และ 2016–17) พร้อมกลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในอังกฤษ
ยุคทองกับ เรอัล มาดริด
ในปี 2018 กูร์กตัวส์ ย้ายสู่ เรอัล มาดริด สโมสรในฝันของเขา และแม้จะเริ่มต้นไม่ง่ายนัก แต่เขาค่อย ๆ พิสูจน์ตัวเองด้วยฟอร์มอันเหนียวแน่น ฤดูกาล 2021–22 ถือเป็นปีทองของ เจ้าตัว เพราะสามารถโชว์ฟอร์มระดับมาสเตอร์คลาสในนัดชิงฯ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล โดยเซฟลูกยิงสำคัญๆได้หลายครั้งจนคว้ารางวัล Man of the Match และพา มาดริด คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 14 มาครองได้สำเร็จ และจากนั้นอีกเพียงไม่กี่ปี กูร์กตัวส์ ก็ประสบความสำเร็จอีกครั้งในศึก "บิ๊กเอียร์" โดยพาทีมเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปแบบสบายๆ 2-0 ผงาดแชมป์สมัยที่ 15 ในประวัติศาสตร์
สไตล์การเล่นที่โดดเด่น
จุดเด่นที่สุดของกูร์กตัวส์คือ “การยืนตำแหน่ง” และ “ความสงบในสถานการณ์กดดัน” เขาไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่พุ่งไปทั่วสนามแบบไร้แบบแผน แต่เลือกเคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะและอ่านเกมได้แม่นยำ ส่วนสูง 200 เซนติเมตรช่วยให้เขาครองพื้นที่หน้าประตูได้อย่างมั่นคง และการใช้ขาที่แข็งแรงทำให้เขาเซฟลูกระยะใกล้ได้อย่างเหลือเชื่อ
ในยุคที่ผู้รักษาประตูต้องเล่นบอลกับเท้ามากขึ้น กูร์กตัวส์ก็พัฒนาเรื่องนี้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเกมรับที่ไหลลื่นของมาดริด พูดได้ว่าเขาเป็น “สัญลักษณ์ของผู้รักษาประตูสมัยใหม่ที่ไม่ต้องโอ้อวด แต่มีประสิทธิภาพสูงสุด”
เรื่องน่ารู้เพิ่มเติม
- เขาเคยเป็นนักเรียนสถาปัตย์มาก่อน ก่อนจะเลือกทางสายฟุตบอลเต็มตัว
- พี่สาวของเขา Valérie Courtois เป็นนักวอลเลย์บอลทีมชาติเบลเยียม
- เขาพูดได้หลายภาษา ทั้งฝรั่งเศส ดัตช์ อังกฤษ และสเปน
- ชอบเล่นเกมและศึกษากลยุทธ์ในกีฬาอื่น ๆ เช่น บาสเกตบอล เพื่อฝึกการอ่านสถานการณ์
- เคยได้รับฉายาจากแฟนบอลว่า “The Octopus” เพราะแขนขายาวและการปัดบอลได้ทุกทิศทาง
FAQ: คำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ Thibaut Courtois
1. ทำไมกูร์กตัวส์ถึงเลือกย้ายจากเชลซีไปเรอัล มาดริด?
เพราะเขาต้องการอยู่ใกล้ครอบครัว โดยเฉพาะลูก ๆ ที่อาศัยอยู่ในสเปน และเขาเองก็เคยกล่าวว่ามาดริดคือ “สโมสรในฝัน”
2. เขาได้รับบาดเจ็บหนักไหมในช่วงหลัง?
ใช่ - ฤดูกาล 2023-24 เขาต้องพักยาวเพราะบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า (ACL) แต่กลับมาได้ในปีถัดมาด้วยความมุ่งมั่นเต็มร้อย
3. จุดเด่นที่สุดของกูร์กตัวส์เมื่อเทียบกับผู้รักษาประตูคนอื่นคืออะไร?
คือ “สมาธิ” และ “การอ่านทางบอล” ที่เหนือชั้น เขามักยืนถูกตำแหน่งเสมอ ทำให้ไม่ต้องพุ่งเซฟแบบหวือหวาแต่ได้ผลจริง
4. เขามีไอดอลหรือแรงบันดาลใจในการเป็นผู้รักษาประตูไหม?
เขาเคยบอกว่าเติบโตมาพร้อมแรงบันดาลใจจากปีเตอร์ เช็ก และอิเกร์ กาซิยาส ซึ่งเป็นสองตำนานที่เขาเคยดวลกันมาแล้วด้วย
5. หลังแขวนถุงมือ เขามีแผนทำอะไรต่อ?
เขาเคยพูดไว้ว่าอยากทำงานด้าน “การวิเคราะห์เกม” หรือ “โค้ชผู้รักษาประตู” เพราะอยากส่งต่อความรู้ให้รุ่นต่อไป
เกียรติประวัติของ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ (Thibaut Courtois)
ระดับสโมสร
เกงค์ (Genk)
แชมป์เบลเยียม โปรลีก (Belgian Pro League): 2010–11
แอตเลติโก มาดริด (Atlético Madrid)
แชมป์ลาลีกา: 2013–14
แชมป์โกปา เดล เรย์: 2012–13
แชมป์ยูโรปาลีก: 2011–12
แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ: 2012
รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก: 2013–14
เชลซี (Chelsea)
แชมป์พรีเมียร์ลีก: 2014–15, 2016–17
แชมป์เอฟเอคัพ: 2017–18
รองแชมป์เอฟเอคัพ: 2016–17
แชมป์ลีกคัพ (EFL Cup): 2014–15
เรอัล มาดริด (Real Madrid)
แชมป์ลาลีกา: 2019–20, 2021–22, 2023–24
แชมป์โกปา เดล เรย์: 2022–23
แชมป์ซูเปอร์โกปา เด เอสปาญา: 2020, 2022
แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก: 2021–22, 2023–24
แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ: 2022, 2024
แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ: 2018
แชมป์ฟีฟ่า อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ: 2024
ระดับทีมชาติ
ทีมชาติเบลเยียม (Belgium)
อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018
รางวัลส่วนตัว
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของเบลเยียม: 2011
รางวัลรองเท้าทองแดงของเบลเยียม (Belgian Bronze Shoe): 2011
ถุงมือทองคำลาลีกา (Zamora Trophy): 2012–13, 2013–14, 2019–20
ผู้รักษาประตูลาลีกายอดเยี่ยมแห่งปี: 2012–13
นักเตะเบลเยียมในต่างแดนยอดเยี่ยม: 2013, 2014
ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ ESM: 2013–14, 2021–22
ติดทีมยอดเยี่ยมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก: 2013–14, 2020–21, 2021–22, 2022–23
นักกีฬาชายยอดเยี่ยมแห่งปีของเบลเยียม: 2014
รางวัลถุงมือทองคำ พรีเมียร์ลีก (Premier League Golden Glove): 2016–17
รางวัลถุงมือทองคำ ฟุตบอลโลก (FIFA World Cup Golden Glove): 2018
ติดทีมแฟนตาซี และดรีมทีมฟุตบอลโลก 2018
รางวัล The Best FIFA Goalkeeper: 2018
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของโลก (IFFHS): 2018, 2022
ติดทีมยอดเยี่ยมโลกของ IFFHS: 2018, 2022
นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนลาลีกา: มกราคม 2020, กุมภาพันธ์ 2022
ทีมยอดเยี่ยมลาลีกา: 2021–22, 2024–25
ติดทีมยอดเยี่ยม FIFA FIFPRO World 11: 2022, 2023
รางวัล Yashin Trophy (ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของโลกโดย France Football): 2022
รางวัล Globe Soccer Career Award: 2024
ทีมยอดเยี่ยมยุโรปแห่งปี (The Athletic European Men’s Team of the Season): 2024–25
