ฟีฟ่า ส่งเอกสารรับรอง จู๊ด เบลล์ เล่นทีมชาติไทยได้

Share on Line Share on Facebook Share on X
ฟีฟ่า ส่งเอกสารรับรอง จู๊ด เบลล์ เล่นทีมชาติไทยได้

หลังจากที่ทัพ "ช้างศึก" ภายใต้การคุมทีมของแอนโธนี ฮัดสัน ประกาศรายชื่อ 22 นักเตะ ชุดอุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ที่จะพบกับ สิงคโปร์ และ การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่ 5 ที่จะพบกับ ศรีลังกา โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อของ จู๊ด ซุ่นทรัพย์ เบลล์ กองหน้าลูกครึ่งไทย–อังกฤษ ติดทีมเข้ามาด้วย

สรุปข่าว

ฟีฟ่า ส่งหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการว่า จู๊ด ซุ่นทรัพย์ เบลล์ สามารถลงเล่นให้กับ ทีมชาติไทย ได้ในทุกรายการภายใต้การจัดของ AFC และ FIFA แล้ว ดาวยิงลูกครึ่งไทย–อังกฤษรายนี้ มีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ แอนโธนี ฮัดสัน ในเกมอุ่นเครื่องพบ สิงคโปร์ และศึก เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก พบ ศรีลังกา จู๊ดจะรายงานตัวกับทีมในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ก่อนลงซ้อมทันที เพื่อเตรียมลงเล่นพบสิงคโปร์ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต วันที่ 13 พฤศจิกายน และบุกเยือนศรีลังกา วันที่ 18 พฤศจิกายน โดยทั้งสองนัดถ่ายทอดสดทางแอป ทรูวิชั่นส์ นาว

หลังจากที่ทัพ "ช้างศึก" ภายใต้การคุมทีมของแอนโธนี ฮัดสัน ประกาศรายชื่อ 22 นักเตะ ชุดอุ่นเครื่องตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ที่จะพบกับ สิงคโปร์ และ การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่ 5 ที่จะพบกับ ศรีลังกา โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อของ จู๊ด ซุ่นทรัพย์ เบลล์ กองหน้าลูกครึ่งไทย–อังกฤษ ติดทีมเข้ามาด้วย

ล่าสุด สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้ส่งเอกสารรับรองให้ จู๊ด ซุ่นทรัพย์ เบลล์ ลงเล่นให้กับทีมชาติไทย ในการแข่งขันที่จัดขึ้น ทั้งในระดับ AFC และ FIFA อย่างเป็นทางการ


โดยนักกีฬาจะเดินทางมารายงานตัวกับ ทีมชาติไทย ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 นี้ และลงฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมทุกคนทันที ในวันดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง กับ ทีมชาติสิงคโปร์ ที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 19.30 น. 

ต่อด้วย บุกไปเยือน ทีมชาติศรีลังกา ทีมอันดับ 193 ของโลก ในการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี แมตช์เดย์ที่5 ณ สนามโคลอมโบ เรซคอร์ส สเตเดียม กรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.15 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยการแข่งขันทั้งสองนัดจะมีการถ่ายทอดสดทางแอปพลิเคชันทรูวิชั่นส์ นาว

ที่มาข้อมูล : FA Thailand

ที่มารูปภาพ : FA Thailand

แท็กบทความ