ทีมชาติไทยชุดเตรียมซีเกมส์ เปิดบ้านเอาชนะ ทีมชาติอินเดีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 4-0 ในฟุตบอลอุ่นเครื่อง เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(15 พฤศจิกายน 2568) ที่ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม
โดย "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เผยหลังจบเกมนี้ว่า "ก็ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย เรื่องผลสกอร์ก็เกินคาดด้วยซ้ำ ก็ต้องชื่นชมน้องๆ ที่ลงไปและมีความกระหายที่จะเล่น ทุกคนวิ่งไล่เวลาเสียบอล จากเกมรุกเป็นรับ ก็ค่อนข้างทำได้ดี แต่ก็มีจุดที่ต้องไปปรับปรุงอีกเยอะก่อนที่จะเล่นในซีเกมส์"
"จากที่เราดูอินเดีย ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เป็นทีมที่ค่อนข้างน่ากลัว ข้อมูลสไตล์การเล่นของพวกเขา ไม่ว่าจะชุด U17 หรือ ชุดนี้ ก็มีความคล้ายกันในการสร้างเกมขึ้นมา และตัวริมเส้นก็มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดี แต่เกมนี้ทีมของพวกเขาขาดนักเตะหลายคนจากเกมที่อุ่นเครื่องกับอินโดนีเซียครั้งก่อน ก็ถือเป็นบทพิสูจน์ของตัวเราเองไม่ว่าจะเจอทีมชุดไหนเราก็ต้องผ่านไปให้ได้"
"ผมอยากให้เอาสิ่งที่เราขาดจากแคมป์ที่แล้วมาพัฒนา หลายอย่างเขาก็ทำได้ดี ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่เอากองหลังขึ้นมายิงจุดโทษ เพราะเราได้ลูกนิ่งสามลูกจากสี่ประตู เรายังต้องแก้ไขเรื่องการเอาบอลไปถึงพื้นที่สุดท้ายแล้วและกดดันจนได้จุดโทษ แต่ก็ยังขาดในเรื่องเล่นโอเพ่นเพลย์ที่เราไม่สามารถจบสกอร์ได้"
"เราแก้ปัญหามาตั้งแต่แคมป์แรกๆที่ผมเข้ามาคุมทีม เราไม่สามารถผลิตสกอร์จากโอเพ่นเพลย์ ก็ต้องพยายามต่อไป การเล่น4นัดในซีเกมส์ก็จะเจอทีมที่มาเล่นรับแบบเหนียวแน่น พื้นที่สุดท้ายเราต้องเด็ดขาดมากกว่านี้"
สรุปข่าว
ทีมชาติไทยชุดเตรียมซีเกมส์ เปิดบ้านเอาชนะ ทีมชาติอินเดีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 4-0 ในฟุตบอลอุ่นเครื่อง เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(15 พฤศจิกายน 2568) ที่ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม
โดย "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เผยหลังจบเกมนี้ว่า "ก็ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย เรื่องผลสกอร์ก็เกินคาดด้วยซ้ำ ก็ต้องชื่นชมน้องๆ ที่ลงไปและมีความกระหายที่จะเล่น ทุกคนวิ่งไล่เวลาเสียบอล จากเกมรุกเป็นรับ ก็ค่อนข้างทำได้ดี แต่ก็มีจุดที่ต้องไปปรับปรุงอีกเยอะก่อนที่จะเล่นในซีเกมส์"
"จากที่เราดูอินเดีย ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เป็นทีมที่ค่อนข้างน่ากลัว ข้อมูลสไตล์การเล่นของพวกเขา ไม่ว่าจะชุด U17 หรือ ชุดนี้ ก็มีความคล้ายกันในการสร้างเกมขึ้นมา และตัวริมเส้นก็มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดี แต่เกมนี้ทีมของพวกเขาขาดนักเตะหลายคนจากเกมที่อุ่นเครื่องกับอินโดนีเซียครั้งก่อน ก็ถือเป็นบทพิสูจน์ของตัวเราเองไม่ว่าจะเจอทีมชุดไหนเราก็ต้องผ่านไปให้ได้"
"ผมอยากให้เอาสิ่งที่เราขาดจากแคมป์ที่แล้วมาพัฒนา หลายอย่างเขาก็ทำได้ดี ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่เอากองหลังขึ้นมายิงจุดโทษ เพราะเราได้ลูกนิ่งสามลูกจากสี่ประตู เรายังต้องแก้ไขเรื่องการเอาบอลไปถึงพื้นที่สุดท้ายแล้วและกดดันจนได้จุดโทษ แต่ก็ยังขาดในเรื่องเล่นโอเพ่นเพลย์ที่เราไม่สามารถจบสกอร์ได้"
"เราแก้ปัญหามาตั้งแต่แคมป์แรกๆที่ผมเข้ามาคุมทีม เราไม่สามารถผลิตสกอร์จากโอเพ่นเพลย์ ก็ต้องพยายามต่อไป การเล่น4นัดในซีเกมส์ก็จะเจอทีมที่มาเล่นรับแบบเหนียวแน่น พื้นที่สุดท้ายเราต้องเด็ดขาดมากกว่านี้"
"ฟีฟ่า เดย์ ครั้งที่แล้ว อินเดียก็ไปเยือน อินโดนีเซีย สองนัดรูปเกมเขาดีมาก และชนะในเกมแรก แล้วเกมที่สองก็เสมอกับ อินโดนีเซีย มีตัวรุกความสามารถเฉพาะตัวสูง แต่ไม่ได้มาเยือนไทยในครั้งนี้ เราชนะ 4-0 พอใจบางส่วน แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุงก็มีค่อนข้างเยอะ ก็ต้องแก้ไขปรับปรุง"
"ฝากแฟนบอลชาวไทยให้กำลังใจและมาเชียร์นักเตะทีมชาติไทย U23 ในซีเกมส์ที่เราเป็นเจ้าภาพ อยากให้แฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจน้องๆ เพื่อเป็นพลังใจช่วยเหลือพวกเราในการคว้าเหรียญทองในบ้านของเราให้ได้ในครั้งนี้"
ด้าน ชัยพล อดทน เพลย์เยอร์ ออฟ เดอะ แมตช์ กล่าวว่า "เป็นประตูแรกที่ทำได้ในนามทีมชาติรู้สึกดีใจมากที่ทำได้ ขอบคุณเพื่อนๆที่ข่วยกันเล่น สำหรับ การยิงจุดโทษก็เป็นยศกร บูรพา ครับ แต่ก็ขอเขายิง ส่วนสาเหตุที่ใส่เบอร์ 3 ในวันนี้ ก็เพราะมีพี่อุ้ม ธีราทร เป็นไอดอล ฝากแฟนบอลทีมชาติไทย U23 ทุกคน ใกล้จะถึงซีเกมส์แล้ว ก็ติดตามเชียร์กันด้วยนะครับ"
โดยหลังจากนี้ ทีมชาติไทย U23 จะซ้อมอีก 3 ครั้ง และอุ่นเครื่องแบบปิดอีกหนึ่งนัด ก่อนจะรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ต่อไป
ที่มาข้อมูล : FA Thailand
ที่มารูปภาพ : FA Thailand
