
เชลซี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ถล่ม บาร์เซโลน่า ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรกไปอย่างขาดลอย 3-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส นัดที่ 5 เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ "สิงห์บลูส์" เก็บ 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ พร้อมกับขยับขึ้นไปรั้งอันดับที่ 5 ของตารางได้เป็นที่เรียบร้อย
ครึ่งแรกเริ่มมาเพียง 3 นาที เชลซี เป็นฝ่ายส่งบอลเข้าประตูได้ก่อน จากจังหวะที่ เวสลีย์ โฟฟาน่า จ่ายให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ยิงจ่อๆ เข้าไป แต่ โฟฟาน่า ดันไปทำแฮนด์บอลเสียก่อน ทำให้ เชลซี ถูกริบสกอร์ พลาดโอกาสขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม
หลังจากนั้น บาร์เซโลน่า ได้โอกาสตอบโต้บ้าง เมื่อ ลามีน ยามาล จ่ายบอลให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้ยิงโล่งๆ บริเวณจุดโทษ แต่บอลกลับหลุดกรอบออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
อีกไม่กี่นาทีต่อมา เชลซี ยิงเข้าไปได้อีกครั้ง จากลูกฟรีคิกที่เปิดไปให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ได้โหม่งจ่อๆ ไม่พลาด แต่หลังจากนั้นได้มีการเช็ก VAR ยืนยันว่า เทรโวห์ ชาโลบาห์ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้ามีส่วนร่วมกับการเล่น ก่อนที่บอลจะมาถึง เอ็นโซ่ ทำให้ เชลซี พลาดโอกาสขึ้นนำก่อนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 27 เชลซี ก็ได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากการเล่นลูกเตะมุม และเป็น มาร์ก กูกูเรย่า ที่เปิดบอลไปให้ เปโดร เนโต้ ได้ไขว้ยิงไปแฉลบ เฟร์ราน ตอร์เรส ก่อนที่สุดท้ายบอลจะเด้งไปโดนขาของ ชูลส์ กุนเด้ เข้าประตูตัวเองไป
หลังจากนั้นนาทีที่ 44 สถานการณ์ของ บาร์เซโลน่า ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อ โรนัลด์ อาเราโฮ กองหลังตัวหลัก ได้รับใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง ถูกไล่ออกจากสนามทันที หลังไปทำฟาวล์หนักใส่ มาร์ก กูกูเรย่า ทำให้ บาร์ซ่า ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน และจบครึ่งแรกไปด้วยการเป็นฝ่ายตามหลัง เชลซี 1-0
สรุปข่าว
เชลซี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ถล่ม บาร์เซโลน่า ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรกไปอย่างขาดลอย 3-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส นัดที่ 5 เมื่อคืนวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ "สิงห์บลูส์" เก็บ 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ พร้อมกับขยับขึ้นไปรั้งอันดับที่ 5 ของตารางได้เป็นที่เรียบร้อย
ครึ่งแรกเริ่มมาเพียง 3 นาที เชลซี เป็นฝ่ายส่งบอลเข้าประตูได้ก่อน จากจังหวะที่ เวสลีย์ โฟฟาน่า จ่ายให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ยิงจ่อๆ เข้าไป แต่ โฟฟาน่า ดันไปทำแฮนด์บอลเสียก่อน ทำให้ เชลซี ถูกริบสกอร์ พลาดโอกาสขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม
หลังจากนั้น บาร์เซโลน่า ได้โอกาสตอบโต้บ้าง เมื่อ ลามีน ยามาล จ่ายบอลให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้ยิงโล่งๆ บริเวณจุดโทษ แต่บอลกลับหลุดกรอบออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
อีกไม่กี่นาทีต่อมา เชลซี ยิงเข้าไปได้อีกครั้ง จากลูกฟรีคิกที่เปิดไปให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ได้โหม่งจ่อๆ ไม่พลาด แต่หลังจากนั้นได้มีการเช็ก VAR ยืนยันว่า เทรโวห์ ชาโลบาห์ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้ามีส่วนร่วมกับการเล่น ก่อนที่บอลจะมาถึง เอ็นโซ่ ทำให้ เชลซี พลาดโอกาสขึ้นนำก่อนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 27 เชลซี ก็ได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากการเล่นลูกเตะมุม และเป็น มาร์ก กูกูเรย่า ที่เปิดบอลไปให้ เปโดร เนโต้ ได้ไขว้ยิงไปแฉลบ เฟร์ราน ตอร์เรส ก่อนที่สุดท้ายบอลจะเด้งไปโดนขาของ ชูลส์ กุนเด้ เข้าประตูตัวเองไป
หลังจากนั้นนาทีที่ 44 สถานการณ์ของ บาร์เซโลน่า ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อ โรนัลด์ อาเราโฮ กองหลังตัวหลัก ได้รับใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง ถูกไล่ออกจากสนามทันที หลังไปทำฟาวล์หนักใส่ มาร์ก กูกูเรย่า ทำให้ บาร์ซ่า ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน และจบครึ่งแรกไปด้วยการเป็นฝ่ายตามหลัง เชลซี 1-0
ครึ่งหลัง เชลซี ที่ได้เปรียบทั้งสกอร์และตัวผู้เล่น ฉวยโอกาสเล่นเกมบุกต่อเนื่อง และมาได้ประตูเพิ่มเป็น 2-0 ในนาทีที่ 55 จากจังหวะที่ รีซ เจมส์ จ่ายบอลให้ เอสเตเวา โชว์ทักษะเลี้ยงบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะโยกหลบผู้เล่นบาร์ซ่าสองคนแล้วยิงด้วยเท้าขวา บอลพุ่งแสกหน้า โจน การ์เซีย เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
แม้ว่า บาร์เซโลน่า จะพยายามเปลี่ยนตัวสำรองลงมาเพื่อแก้เกม ไม่ว่าจะเป็น ราฟินญ่า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น รวมถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แถม เชลซี ยังมาได้ประตูที่สามเป็น 3-0 ในนาทีที่ 73 จากการต่อบอลที่สวยงาม และเป็น เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่จ่ายให้ เลียม ดีแล็ป ยิงจ่อๆ เข้าไปไม่พลาด
ในช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่มเติม ทำให้ เชลซี ปิดเกมเอาชนะ บาร์เซโลน่า ไปอย่างสวยงาม 3-0 ทำให้ "สิงห์บลูส์" มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนจาก 5 นัด ขยับขึ้นไปรั้งอันดับที่ 5 ของตาราง ส่วน บาร์เซโลน่า มี 7 คะแนนเท่าเดิม ตกลงไปอยู่อันดับที่ 15
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ มีดังนี้
อาแจ็กซ์ แพ้ เบนฟิก้า 0-2
กาลาตาซาราย แพ้ อูนิยง แซงต์-ชิลลัวส์ 0-1
โอลิมปิก มาร์กเซย ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1
นาโปลี ชนะ คาราบัก 2-0
สลาเวีย ปราก เสมอ แอธเลติก บิลเบา 0-0
แมนฯ ซิตี้ แพ้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 0-2
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ชนะ บียาร์เรอัล 4-0
โบโด กลิมท์ แพ้ ยูเวนตุส 2-3
ดูบอลสดครบทั้งลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ อาทิ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ยูฟ่า ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก / ลาลีกา / บุนเดสลีกา / เซเรีย อา และอีกมากมายกว่า 2,000 แมตช์ ตลอดฤดูกาล 2025/26
ดูบอลสดครบทั้งลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ อาทิ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ยูฟ่า ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก / ลาลีกา / บุนเดสลีกา / เซเรีย อา และอีกมากมายกว่า 2,000 แมตช์ ตลอดฤดูกาล 2025/26
📲สมัครและดูได้แล้ววันนี้ Now Football 199 บาท/เดือน (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) คลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/1rsb84q1
- พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025-26 รอบ ลีก เฟส : เชลซี พบ บาร์เซโลน่า
- พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025-26 รอบ ลีก เฟส : แมนฯ ซิตี้ พบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
- ผลบอลทีมชาติไทย บุกถล่ม ศรีลังกา 4-0 ศึกเอเชียนคัพ
- เรือใบสีฟ้าฟอร์มโหดต่อเนื่อง ถล่มดอร์ทมุนด์ขาดลอย 4-1
- พรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025-26 รอบ ลีก เฟส : แมนฯ ซิตี้ พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : Chelsea FC
