ความขัดแย้งในห้องแต่งตัวและวิกฤตที่ 'ชาบี อลอนโซ่' ต้องเผชิญ

Share on Line Share on Facebook Share on X
ความขัดแย้งในห้องแต่งตัวและวิกฤตที่ 'ชาบี อลอนโซ่' ต้องเผชิญ

ปัญหาใหญ่ที่สุดของเรอัล มาดริดในขณะนี้คือผลงานของทีมที่ยังคงน่ากังวลในทุกระดับของสโมสร...

แม้จะบุกไปคว้าชัยชนะอย่างยากลำบากเหนือ โอลิมเปียกอส 4-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว แต่ฟอร์มการเล่นก็ส่งสัญญาณที่ไม่ดีเอาไว้ นอกจากนี้ การบุกไปเสมอกับทีมโซนท้ายตารางอย่าง จีโรน่า 1-1 ในเกม ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียตำแหน่งจ่าฝูง ลา ลีกา ให้แก่คู่ปรับอย่าง บาร์เซโลน่า จากที่เคยทำแต้มนำห่าง กลับต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังอยู่ 1 แต้ม

ทีมของ ชาบี อลอนโซ่ เสมอในลีกมา 3 นัดติดต่อกันแล้ว (เสมอ ราโย บาเยกาโน่ 0-0 และเสมอ เอลเช่ 2-2) ชัยชนะนัดล่าสุดในลีกของพวกเขาคือการเปิดบ้านชนะ บาเลนเซีย 4-0 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นพวกเขาต้องเล่นเกมนอกบ้าน 3 นัดติดต่อกัน เนื่องจากสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ถูกใช้จัดการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน

"นี่เป็นฤดูกาลที่ยาวนาน และเราต้องเดินหน้าต่อไป" อลอนโซ่ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังในการแถลงข่าวหลังเกมที่ทำได้แค่เสมอกับ จีโรน่า "เราเกือบจะพลิกสถานการณ์ได้แล้ว เราต้องรักษาความเป็นหนึ่งเดียวที่เรามี และมองดูตัวเองอย่างยุติธรรม"

ประตูเดียวของ เรอัล มาดริด ในเกมกับ จีโรน่า มาจากจุดโทษของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้ากัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งทำให้เขายิงไปแล้ว 23 ประตูรวมทุกรายการ แบ่งเป็น 14 ประตูใน ลา ลีกา จากทั้งหมด 29 ประตูที่นักเตะราชันชุดขาวทั้งทีมทำได้ในลีกฤดูกาลนี้ นั่นเท่ากับว่า เอ็มบั๊ปเป้ แบกภาระการทำประตูของทีมเอาไว้กว่า 50%

สรุปข่าว

ความขัดแย้งในห้องแต่งตัวและวิกฤตที่ ชาบี อลอนโซ่ ต้องเผชิญ กับอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย

ปัญหาใหญ่ที่สุดของเรอัล มาดริดในขณะนี้คือผลงานของทีมที่ยังคงน่ากังวลในทุกระดับของสโมสร...

แม้จะบุกไปคว้าชัยชนะอย่างยากลำบากเหนือ โอลิมเปียกอส 4-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว แต่ฟอร์มการเล่นก็ส่งสัญญาณที่ไม่ดีเอาไว้ นอกจากนี้ การบุกไปเสมอกับทีมโซนท้ายตารางอย่าง จีโรน่า 1-1 ในเกม ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียตำแหน่งจ่าฝูง ลา ลีกา ให้แก่คู่ปรับอย่าง บาร์เซโลน่า จากที่เคยทำแต้มนำห่าง กลับต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังอยู่ 1 แต้ม

ทีมของ ชาบี อลอนโซ่ เสมอในลีกมา 3 นัดติดต่อกันแล้ว (เสมอ ราโย บาเยกาโน่ 0-0 และเสมอ เอลเช่ 2-2) ชัยชนะนัดล่าสุดในลีกของพวกเขาคือการเปิดบ้านชนะ บาเลนเซีย 4-0 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นพวกเขาต้องเล่นเกมนอกบ้าน 3 นัดติดต่อกัน เนื่องจากสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ถูกใช้จัดการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน

"นี่เป็นฤดูกาลที่ยาวนาน และเราต้องเดินหน้าต่อไป" อลอนโซ่ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังในการแถลงข่าวหลังเกมที่ทำได้แค่เสมอกับ จีโรน่า "เราเกือบจะพลิกสถานการณ์ได้แล้ว เราต้องรักษาความเป็นหนึ่งเดียวที่เรามี และมองดูตัวเองอย่างยุติธรรม"

ประตูเดียวของ เรอัล มาดริด ในเกมกับ จีโรน่า มาจากจุดโทษของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้ากัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งทำให้เขายิงไปแล้ว 23 ประตูรวมทุกรายการ แบ่งเป็น 14 ประตูใน ลา ลีกา จากทั้งหมด 29 ประตูที่นักเตะราชันชุดขาวทั้งทีมทำได้ในลีกฤดูกาลนี้ นั่นเท่ากับว่า เอ็มบั๊ปเป้ แบกภาระการทำประตูของทีมเอาไว้กว่า 50%

บรรยากาศในห้องแต่งตัว ความเห็นที่แตกแยก

แม้จะยังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะ แต่ปัจจุบัน เชื่อกันว่ามีรอยร้าวในความคิดเห็นภายในห้องแต่งตัวของ เรอัล มาดริด อย่างแน่นอน

ย้อนกลับไปในช่วงปลายเดือนตุลาคม ขณะที่ทีมยังนำเป็นจ่าฝูงของ ลา ลีกา ได้มีรายงานระบุว่าวิธีการจัดการทีมและแนวคิดทางฟุตบอลบางอย่างของ อลอนโซ่ ไม่เป็นที่ยอมรับของนักเตะในทีมชุดใหญ่เป็นจำนวนมาก ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีรายงานออกมาจากหลายสื่อในสเปน เกี่ยวกับเรื่องการประชุมทีมระหว่าง อลอนโซ่ และนักเตะ เพื่อไกล่เกลี่ยความแตกต่างทางความคิดที่เกิดขึ้น

"ผมจะนำสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นภายในไปใช้" อลอนโซ่ กล่าวในการแถลงข่าวหลังเกมที่กรุงเอเธนส์เมื่อวันพุธที่แล้ว เมื่อถูกสื่อถามถึงบรรยากาศก่อนเกม ซึ่งนั่นเป็นการยอมรับว่าตัวเขาได้มีการเคลียร์ใจกับกลุ่มนักเตะจริงๆ

นักเตะบางคน เช่น เอ็มบัปเป้, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ และ เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า ได้ใช้โอกาสจากชัยชนะ 4-3 ที่กรีซ ปฏิเสธข่าวความขัดแย้งภายในสโมสร ผ่านโซเชียลมีเดียและพื้นที่ มิกซ์ โซน อย่างไรก็ตาม หลังเกมที่น่าผิดหวังกับ จีโรน่า จบลง กลับไม่มีนักเตะคนใดออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ

ทั้งนี้ เชื่อกันว่าในเวลานี้มีนักเตะ เรอัล มาดริด แบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มหนึ่งยังไม่มั่นใจในวิธีการของ อลอนโซ่ และอีกกลุ่มหนึ่งที่ยืนยันว่าโค้ชไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา

สถานการณ์ของ ชาบี อลอนโซ่ และอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย

ดิ แอธเลติก สื่อดังของอังกฤษ โดย มาริโอ กอร์เตกาน่า ได้อ้างว่ามีเแหล่งข่าวจากสโมสรและทีมงานโค้ชยอมรับถึงความยากลำบากในการที่จะเปลี่ยนแปลงการขับเคลื่อนภายในทีม โดยมีคนหนึ่ง (ไม่มีการเปิดเผยชื่อ) ได้กล่าวว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันดู "ยากมาก" เพราะ "เรากำลังเล่นได้แย่มาก" ขณะที่อีกคนได้อธิบายว่าการทำได้แค่บุกไปเสมอกับ จีโรน่า ซึ่งเป็นทีมในโซนตกชั้นของ ลา ลีกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น เป็น "หายนะ" อย่างแท้จริง

เมื่อถูกถามถึงอนาคตของอลอนโซ่ แหล่งข่าวเดียวกันนี้กล่าวว่าเกมที่กำลังจะมาถึงของ เรอัล มาดริด ที่จะออกไปเยือน แอธเลติก บิลเบา ในเกม ลา ลีกา วันพุธที่ 3 ธันวาคมนี้ มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่แค่ในแง่ของผลการแข่งขัน แต่ในแง่ของ "ภาพลักษณ์" ด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แม้แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับห้องแต่งตัวจะยอมรับว่าข้อความบางอย่างของ อลอนโซ่ ส่งไปไม่ถึงนักเตะก็จริง แต่จริงๆ แล้วปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันมีมากกว่าแค่เรื่องโค้ชเท่านั้น แต่เป็นกลุ่มนักเตะที่ไม่สามารถ "หลอมรวม" กันได้มากกว่า โดยแหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุว่า "ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ ชาบี (อลอนโซ่) แต่เป็นเพราะ เอ็มบั๊ปเป้, วินิซิอุส จูเนียร์ และ (จู๊ด) เบลลิงแฮม ไม่สามารถเข้ากันได้ คุณไม่สามารถมีทีมที่สมดุลกับทั้งสามคนนี้ได้"

ว่ากันตามตรงก็คือ มันอาจจะมีความเป็นไปได้เหมือนกัน ถ้าหากว่า เรอัล มาดริด ไม่สามารถเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา ในวันพุธที่จะถึงนี้ได้ หรือถึงขึ้นแพ้เลยนั้น บางที ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานทีมราชันชุดขาว อาจต้องพิจารณาถึงอนาคตการคุมทีมของ อลอนโซ่

แม้ว่าอาจจะยังไม่มีการปลดจากตำแหน่งทันที แต่อนาคตในการคุมทีมระยะยาวของ อลอนโซ่ อาจจะต้องนำกลับมาพิจารณากันใหม่ว่าเขาจะยังเป็นโค้ชที่ เรอัล มาดริด ไว้วางใจในการสร้างทีมในอีกหลายปีหลังจากนี้หรือไม่

เกมในวันพุธนี้ของ เรอัล มาดริด จึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางข่าวลือว่า ลิเวอร์พูล ที่ไม่พอใจการทำงานของ อาร์เน่อ ชล็อต ที่ทำให้ทีมเหมือนจะหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ยังไม่ถึงเดือนธันวาคม กำลังจับตามองสถานการณ์ของ อลอนโซ่ อยู่อย่างใกล้ชิด และเชื่อกันว่าหาก เรอัล มาดริด ไม่คิดจะไปต่อกันกุนซือชาวสเปนรายนี้ ทีมหงส์แดงก็พร้อมรับช่วงต่อทันที เพราะสนใจดึงอดีตแข้งของตนเองรายนี้มาคุมทีม ตั้งแต่วันที่รู้ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่ไปต่อกับทีมตั้งแต่ 1 ปีก่อนแล้ว

แต่สุดท้ายทุกอย่างไม่เกิดขึ้นเพราะ อลอนโซ่ สนใจมารับงานกับ เรอัล มาดริด มากกว่า เลยเลือกที่จะคุม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ต่อไปอีก 1 ฤดูกาลแทน เพื่อรอเวลาในการก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของทีมราชันชุดขาว และทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น

อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ น่าจะเป็นบทพิสูจน์ของ อลอนโซ่ อย่างแท้จริงว่าเขาจะเอาตัวรอดจากความกดดันที่ถาโถมเข้ามาได้หรือไม่ ถ้าทำได้ จากที่เป็นกุนซือหนุ่มฝีมือดีอยู่แล้ว เขาจะอัพเลเวลกลายเป็นยอดโค้ชของวงการทันที และมีโอกาสที่จะสานต่อการทำงานแบบยาวๆ กับ เรอัล มาดริด ได้เช่นกัน...

ดูบอลสดครบทั้งลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ อาทิ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ยูฟ่า ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก / ลาลีกา / บุนเดสลีกา / เซเรีย อา และอีกมากมายกว่า 2,000 แมตช์ ตลอดฤดูกาล 2025/26

📲สมัครและดูได้แล้ววันนี้ Now Football 199 บาท/เดือน (1 จอ ดูได้ทุกอุปกรณ์) คลิก : https://truevisions-now.onelink.me/RQwi/570ofgkt

ที่มาข้อมูล : The Athletic

ที่มารูปภาพ : AFP