โค้ชวัง ประกาศพาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ คว้าแชมป์ในบ้าน

Share on Line Share on Facebook Share on X
โค้ชวัง ประกาศพาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ คว้าแชมป์ในบ้าน

ฝ่ายจัดการแข่งขันซีเกมส์ซีเกมส์ จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลชาย ของกลุ่มเอ ที่ประกอบไปด้วย ทีมชาติไทย, ติมอร์ เลสเต และ สิงคโปร์ ณ ห้องแถลงข่าว ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา(2 ธันวาคม 2568) โดยทีมชาติไทย ได้ส่ง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอน เข้าร่วม


"โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เผยว่า "แน่นอนเป้าหมายที่เราวางไว้คือแชมป์ เราห่างหายจากการเป็นแชมป์ซีเกมส์มาค่อนข้างนาน ครั้งนี้เราเป็นเจ้าภาพก็เตรียมทีมมาหลายเดือน มีการเก็บตัวหลายครั้ง ตั้งแต่ชิงแชมป์อาเซียน ที่อินโดนีเซีย, ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกที่ไทย รวมถึงได้ไปอุ่นเครื่องที่จีน และล่าสุดกับอินเดีย เราได้เตรียมพร้อม และคัดสรรนักเตะจากทั้ง 4 แคมป์ ที่คิดว่าดีที่สุดในรุ่นนี้ของเมืองไทยมาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน"

สรุปข่าว

“โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ยืนยันเป้าหมายชัดเจนคือ การคว้าแชมป์ซีเกมส์ 2025 ในฐานะเจ้าภาพ หลังเตรียมทีมมาต่อเนื่องหลายเดือน ทั้งจากทัวร์นาเมนต์อาเซียน, รอบคัดเลือกเอเชีย, เกมอุ่นเครื่องในจีนและอินเดีย พร้อมคัดเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดจาก 4 แคมป์ แม้จะมีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บ แต่ทีมวางแผนสำรองไว้แล้ว โดยมองว่าทั้ง ติมอร์ เลสเต และ สิงคโปร์ เป็นคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้ พร้อมเน้นการโรเตชั่นนักเตะเพื่อเล่นให้ครบ 4 นัด หากต้องการเป็นแชมป์ โดยตั้งเป้าแรกคือ แชมป์กลุ่ม ก่อนเดินหน้าสู่รอบรองฯ และรอบชิงฯ โค้ชวังยังเชิญชวนแฟนบอลชาวไทยร่วมให้กำลังใจในสนามราชมังคลาฯ เพื่อผลักดันทีมให้ประสบความสำเร็จ โปรแกรมแข่งขันทีมชาติไทย ซีเกมส์ 2025 3 ธ.ค. 2568 – 19.00 น. ติมอร์ เลสเต พบ ไทย 11 ธ.ค. 2568 – 19.00 น. ไทย พบ สิงคโปร์ รอบรองฯ 15 ธ.ค. 2568 และ รอบชิงฯ 18 ธ.ค. 2568 (สนามราชมังคลาฯ)

ฝ่ายจัดการแข่งขันซีเกมส์ซีเกมส์ จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอลชาย ของกลุ่มเอ ที่ประกอบไปด้วย ทีมชาติไทย, ติมอร์ เลสเต และ สิงคโปร์ ณ ห้องแถลงข่าว ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา(2 ธันวาคม 2568) โดยทีมชาติไทย ได้ส่ง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอน เข้าร่วม


"โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เผยว่า "แน่นอนเป้าหมายที่เราวางไว้คือแชมป์ เราห่างหายจากการเป็นแชมป์ซีเกมส์มาค่อนข้างนาน ครั้งนี้เราเป็นเจ้าภาพก็เตรียมทีมมาหลายเดือน มีการเก็บตัวหลายครั้ง ตั้งแต่ชิงแชมป์อาเซียน ที่อินโดนีเซีย, ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกที่ไทย รวมถึงได้ไปอุ่นเครื่องที่จีน และล่าสุดกับอินเดีย เราได้เตรียมพร้อม และคัดสรรนักเตะจากทั้ง 4 แคมป์ ที่คิดว่าดีที่สุดในรุ่นนี้ของเมืองไทยมาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน"

"ก็มีผู้เล่นที่เป็นตัวหลักมาหลายแคมป์ได้รับบาดเจ็บ แต่เราก็มีการเตรียมแผนสองไว้แล้ว การเจอกับติมอร์ เลสเต ในเกมแรก เราก็เคยเจอกันมาแล้วในอาเซียน คัพ ที่อินโดนีเซีย ก็ถือเป็นทีมที่มีการพัฒนาที่ดี และไม่สามารถประมาทได้ ทั้งติมอร์ เลสเต และ สิงคโปร์ เราพยายามเตรียมตัวให้พร้อมมากที่สุด"


"ด้วยทัวร์นาเมนต์ในลีกก็มีการเตรียมแผนสอง แผนสามในการหมุนเวียนนักเตะ เราคิดว่าซีเกมส์จะเป็นแชมป์ ต้องเล่นทั้งหมด 4 เกม การโรเตชั่นนักเตะก็ต้องไม่ประมาททั้งสองเกม เราได้ทำการบ้านมาและจะนำมาใช้ในซีเกมส์ครั้งนี้ บันไดขั้นแรกคือต้องเป็นแชมป์กลุ่มก่อนจะมองถึงรอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ"


"สำหรับซีเกมส์ คือมหกรรมกีฬาของอาเซียน ก็อยากให้หลายชาติเข้าร่วมการแข่งขัน ในเรื่องของการมาร่วมเล่นกีฬาด้วยกันของทุกชาติ แต่ก็น่าเสียดายที่กัมพูชา ได้ถอนทีมออกไป แต่เราก็ยังมีแผนเพราะเป้าหมายเราชัดเจนเหมือนเดิม ถ้าเราต้องการเป็นแชมป์ซีเกมส์ ทวงความยิ่งใหญ่ในอาเซียน เราก็ต้องสามารถเจอกับทุกทีม"

"เราไม่ได้เป็นเจ้าภาพซีเกมส์มานานแล้ว และไม่ได้แชมป์มาหลายครั้ง ก็อยากเชิญชวนแฟนบอลชาวไทยให้มาเชียร์ มาเป็นกำลังใจในสนามกันเยอะๆ หรือติดตามข่าวสารจากทุกสำนักข่าว ผมในฐานะเฮดโค้ชฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ครั้งนี้จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างให้แฟนบอลไทยมีความสุขกับผลงานของทีมชาติไทยชุดนี้"


โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ มีดังนี้ 

นัดแรก วันที่ 3 ธันวาคม 2568 เวลา 19.00 น.

ติมอร์ เลสเต พบ ทีมชาติไทย 

สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน

ถ่ายทอดสดทาง แอปพลิเคชัน ทรูวิชั่นส์ นาว


นัด2 วันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 19.00 น.

ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์  

สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน

ถ่ายทอดสดทาง แอปพลิเคชัน ทรูวิชั่นส์ นาว


ส่วนการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานครฯ ในวันที่ 15 และ 18 ธันวาคม 2568 ตามลำดับ

ที่มาข้อมูล : FA Thailand

ที่มารูปภาพ : FA Thailand