ยศกร บูรพา ร่วมทีมเยาวชนของราชนาวี

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในช่วงมัธยม 1 ที่เขาตัดสินใจเดินทางไปคัดตัวกับสโมสรพีทีที ระยอง โดยเล่นในตำแหน่งกองกลาง แต่ก็ต้องเจอกับความผิดหวังครั้งแรก เมื่อไม่ผ่านการคัดเลือก แต่เขาก็ยังคงมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ ก่อนจะออกเดินทางต่อไปอีกราวๆ 30-40 กิโลเมตร เพื่อไปหาสโมสรฟุตบอลราชนาวี ทีมในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

เขาได้โอกาสติดทีมอคาเดมี่ของราชนาวี และเข้าเรียนที่โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา ที่เป็นพันธมิตรกัน และเดินสายแข่งขันเพื่อเก็บเลเวลในรายการต่างๆ จนเข้าสู่ช่วงมัธยมปลายเขาได้โอกาสลงสนามให้กับสโมสรฟุตบอลกองเรือรบ ที่เป็นเหมือนทีมน้องของราชนาวี ก่อนจะเจอกับอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อเพื่อนร่วมทีมในตำแหน่งกองหน้าเกิดป่วย ทำให้โค้ชเลือกที่จะขยับ ยศกร ขึ้นไปข้างบนแทน 

การเปลี่ยนตำแหน่งของ ยศกร กลายเป็นการค้นพบครั้งสำคัญเมื่อเขาระเบิดฟอร์มทำผลงานได้อย่างโดดเด่น สุดท้ายกลายเป็นนักเตะในตำแหน่งกองหน้าเต็มตัวก่อนจะซัดไป 7 ประตูจนพาทีมเลื่อนชั้นจากอเมเจอร์ลีกขึ้นมาเล่นในระดับไทยลีก3 โซนตะวันออก

ยศกร บูรพา เซ็นสัญญากับชลบุรี เอฟซี

หลังพาทีมเลื่อนชั้นเขาก็ยังคงทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จนไปเข้าตาแมวมองของสโมสรชลบุรี เอฟซี ทีมบ้านใกล้เรือนเคียง ก่อนจะตัดสินใจทาบทามให้ย้ายมาร่วมทัพ "ฉลามชล" ซึ่งดีลทุกอย่างก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี

หลังเซ็นสัญญากับ ชลบุรี เอฟซี ไม่ถึง 2 สัปดาห์ สโมสรตัดสินใจส่งเขาไปร่วมทีมสมุทรปราการ ซิตี้ ที่เวลานั้นเล่นในศึกไทยลีก2 ด้วยสัญญายืมตัว ทำให้เขาได้โอกาสไต่ขึ้นมาเล่นในอีกขั้นของการแข่งขัน แต่ความยากอีกระดับก็ไม่สามารถฉุดรั้งการแจ้งเกิดของเด็กหนุ่มรายนี้ได้

ยศกร บูรพา แจ้งเกิดในไทยลีก2

ยศกร บูรพา สร้างชื่อทันทีด้วยโอกาสที่เข้ามารวดเร็วแบบไม่คาดคิด เพราะทีมประสบปัญหากองหน้าต่างชาติบาดเจ็บ ทำให้เขาได้ลงสนามชนิดที่ไม่ทันตั้งตัว ก่อนไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป ด้วยการซัดประตูแรกในไทยลีก2 นัดที่ต้นสังกัดเอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 2-0 สร้างสถิติกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่สามารถยิงประตูได้ในลีกรอง ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี 3 เดือน 

หลังจากนั้นเครื่องก็ติดต่อเนื่อง เขาซัดในฤดูกาลนั้นให้ทีมไป 7 ประตู จากการลงสนาม 31 นัด เป็นดาวซัลโวของทีมเหนือบรรดาแข้งต่างชาติ และมีส่วนช่วยให้ทีมอยู่รอดในไทยลีก2 ต่อไป

ยศกร บูรพา ติดทีมชาติไทยครั้งแรก

ในขณะเดียวกันด้วยผลงานที่โดดเด่น ทำให้เขาได้โอกาสติดทีมชาติไทยไปลุยมหกรรมซีเกมส์ 2023 ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชหระ" อิสสระ ศรีทะโร ก่อนจะประเดิมประตูแรกในเกมที่เอาชนะ มาเลเซีย 2-0 แม้สุดท้ายจะไม่สามารถไปถึงเหรียญทอง แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นสร้างชื่อให้แฟนฟุตบอลไทยได้รู้จัก

เข้าสู่ฤดูกาล 2024-25 สโมสรชลบุรี เอฟซี ตกชั้นไปเล่นในไทยลีก2 ทำให้ ยศกร ได้โอกาสกลับสู่ต้นสังกัดที่แท้จริง ก่อนที่ในเลก2 สโมสรจะให้โอกาสเขาได้ก้าวขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดครั้งแรกในชีวิต เมื่อตัดสินใจปล่อยให้ พีที ประจวบ เอฟซี ยืมตัวใช้งาน 

ยศกร บูรพา ย้ายไปเล่นในเอส ลีก สิงคโปร์

ปัจจุบันฤดูกาล 2025-26 ยศกร บูรพา ได้โอกาสออกโบยบินในต่างแดน เมื่อสโมสรชลบุรี เอฟซี ตัดสินใจปล่อยให้ ฮั่วกัง ยูไนเต็ด สโมสรในศึกเอส ลีก สิงคโปร์ ที่มีนักเตะไทยค้าแข้งอยู่หลายคนยืมตัวใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล ทำให้เขาได้โอกาสเปิดรับความท้าทายครั้งใหม่ในวัย 20 ปี 

การไปเล่นในลีกของประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้ทรัพยากรณ์รอบด้านมีความพร้อม เอื้อต่อการยกระดับฝีเท้าของตัวเอง ซึ่ง ยศกร สามารถยิงประตูแรกในลีกสูงสุดของประเทศสิงคโปร์ ได้สำเร็จ ในเกมที่ต้นสังกัดบุกไปเอาชนะ ยัง ไลอ้อนส์ 2-0 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ยังมีชื่อถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อย่างต่อเนื่อง และจะกลายเป็นส่วนสำคัญในการลุยมหกรรมซีเกมส์ เป็นสมัยที่ 2 ของตัวเอง 

ด้วยประสบการณ์ความผิดหวังจากซีเกมส์ครั้งแรก เชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมที่จะไล่ล่าเหรียญทองมาครองให้ได้ กับการแข่งขันที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งแฟนๆสามารถติดตามให้กำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทย ได้จากการถ่ายทอดสดทางแอปพลิเคชัน ทรูวิชั่นส์ นาว