สรุปข่าว
วันนี้ (24 พ.ย. 62) การแข่งขัน“ลากูน่าภูเก็ตไตรกีฬา 2019” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 26 ในปีนี้ชาวภูเก็ตและผู้ร่วมชมงานต่างส่งกำลังใจและร่วมเชียร์นักไตรกีฬากว่า 1,000 คน จาก 51 ประเทศทั่วโลก ที่ร่วมแข่งขันรายการลากูน่าภูเก็ตไตรกีฬาระยะเต็ม ประกอบด้วยการแข่งขันว่ายน้ำ 1.8 กม. ปั่นจักรยาน 50 กม. ต่อด้วยวิ่ง 12 กม. ชิงเงินรางวัล 20,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และไตรกีฬาระยะสั้น “25 ฟอร์ 25 สปรินท์” ณ ลานกิจกรรมริมน้ำลากูน่าโกรฟ ใจกลางลากูน่าภูเก็ต รีสอร์ทครบวงจรชั้นนำแห่งเอเชีย
ผลการแข่งขันปรากฏว่า รูดี้ ไวลด์ จากสวิตเซอร์แลนด์ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 คว้าแชมป์ 3 สมัย ด้วยเวลา 02:21:07 โดยทิ้งห่างคู่ต้อสู้ดีกรีแชมป์ลากูน่าภูเก็ตไตรกีฬา 3 สมัยอย่าง ไมเคิล เรเลิร์ท จากเยอรมนี ไปเพียงไม่ถึง 2 นาที โดยไมเคิลเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 02:22:34 ตามด้วย คริสตอฟ ฮาดาซ จากโปแลนด์ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 ด้วยเวลา 02:26:20
ส่วนแชมป์อันดับที่ 1 ประเภทหญิงตกเป็นของ อิโมเจน ซิมมอนด์ จากสวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน ที่คว้าแชมป์การแข่งขันลากูน่าภูเก็ตไตรกีฬาเป็นครั้งแรก โดยทำเวลาไปทั้งสิ้น 02:33:14 ตามมาด้วยอันดับที่ 2 ได้แก่ เอ็มมา พัลลานท์ จากสหราชาอาณาจักร เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 02:39:31 และอันดับ 3 ดิมิทรี ลี ดุค ชาวออสเตรเลีย ทำเวลา 02:46:12
ขณะที่ จเร เจียรนัย คว้าตำแหน่งแชมป์คนไทย 9 ปีซ้อน ด้วยเวลา 02:39:38 ส่วนแชมป์ชาวไทยฝ่ายหญิงตกเป็นของ ณิชกานต์ รัตนาภรณ์ เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน ทำเวลา 03:17:06 นอกจากนี้ ยังมี “เมจิ” อโณมา คุ๊ก ลงแข่งขันรายการลากูน่าภูเก็ตไตรระยะเต็มเป็นครั้งแรก จบลงด้วยเวลา 04:15:20
สำหรับการแข่งขันรายการไตรกีฬาระยะสั้น “25 ฟอร์ 25 สปรินท์” ประกอบด้วยระยะทางรวม 25 กม. (ว่ายน้ำ 0.5 กม. ปั่นจักรยาน 18.5 กม. และวิ่ง 6 กม.) แชมป์ตกเป็นของ โอลิเวอร์ ทร็อทท์ (01:02:24) ในประเภทชาย และ รีเบคก้า เคอร์แวน-รอดเจอร์ (01:18:46) ในประเภทหญิง
การแข่งขันวันนี้เป็นรายการต่อเนื่องมาจากกิจกรรม “วิ่งการกุศลลากูน่าภูเก็ตไตร ก้าวต่อไปด้วยกัน” ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (23 พฤศจิกายน) โดยมีนักวิ่งระยะ 2 กม. 5 กม. และ 10 กม. กว่า 1,100 คนเข้าร่วมการแข่งขัน โดยลากูน่าภูเก็ตระดมทุนจากกิจกรรมวิ่งการกุศลฯ ผ่านกองทุนเพื่อเด็กซีเอฟเอฟ (Children First Fund) เพื่อช่วยเหลือเด็กๆกว่า 400 ชีวิต ณ บ้านเด็กกำพร้าและสถานรับเลี้ยง 7 แห่งในภูเก็ต และมูลนิธิก้าวคนละก้าว เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลในประเทศไทย
ที่มาข้อมูล : -