ชิงเมื่อไหร่ก็แชมป์! 4 ปัจจัยสำคัญ 'เซบีย่า' เถลิงบัลลังก์ยูโรปาสมัยที่ 6

ชิงเมื่อไหร่ก็แชมป์! 4 ปัจจัยสำคัญ 'เซบีย่า' เถลิงบัลลังก์ยูโรปาสมัยที่ 6

สรุปข่าว

วันนี้ (22 ส.ค. 63) จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก ถ้วยเล็กของสโมสรยุโรปฤดูกาลนี้ โดยแชมป์ตกเป็นของ เซบีย่า เจ้าพ่อรายการนี้ จากสเปน ที่สามารถเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ทีมแกร่งจากอิตาลี ด้วยสกอร์ 3-2 อย่างสุดมันส์ ทำให้สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 6 จากการเข้าชิงชนะเลิศ 6 ครั้ง ไปครองได้สำเร็จ


นอกจากนี้ ยังทำให้ งูใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่หลายคนมองว่าเหนือกว่าก่อนลงสนาม ต้องไร้บัลลังก์ใดๆมาครองในซีซั่นนี้ โดยเป็นการได้ดับเบิ้ลรองแชมป์ต่อจาก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี สร้างความผิดหวังให้กับตัวกุนซือเป็นอย่างมากถึงขั้นที่พร้อมอำลาทีมหากบอร์ดบริหารไม่ไว้ใจให้ทำงานต่อ


ส่วน เซบีย่า ก็เฉลิมฉลองกับความสำเร็จกันไป โดยในลีกก็สามารถคว้าโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปครองได้ อีกทั้งยังมาประสบความสำเร็จในบอลถ้วยอย่างน่าชื่นชม เพราะอะไรพวกเขาจึงคว้าชัยในนัดนี้ไปครอง TNNSPORTS ขอเจาะ 4 ปัจจัยกับความสำเร็จของพวกเขาในวันนี้ให้แฟนๆได้ทบทวนกันอีกครั้งครับ


ปัจจัยแรก : ประสบการณ์ที่มีมากกว่า

เซบีย่า คือทีมแชมป์เก่ารายการนี้ 5 สมัย นี่คือการชิงครั้งที่ 6 ซึ่งพวกเขาก็ยังรักษาสถิติ 100 % ในรอบการชิงดำเอาไว้ได้ การเจอกันในวันนี้ แม้ก่อนนเริ่มการแข่งขัน พวกเขาจะดูเป็นรองอินเตอร์ นิดหน่อย อีกทั้งยังโดนออกนำไปก่อนตั้งแต่ห้านาทีแรก แต่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่มีมากมายบนรอบชิงชนะเลิศ ที่ไม่ว่าจะเจอคู่แข่งจากไหน ก็เอาอยู่หมด วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ทำได้ยอดเยี่ยม เพราะพวกเขาไม่แตกตื่นกับการโดนนำ และคืนสู่เกมได้อย่างรวดเร็ว พวกเขารับมือได้ทุกสถานการณ์แม้ว่าจะ โดนนำ เสมอ หรือขึ้นนำก็ตาม จนที่สุดแล้วก็คว้าแชมป์มาครองได้


ปัจจัยที่สอง : บอมบ์ใส่จนได้เรื่อง

ปกติแล้วรูปแบบการเล่นและการเข้าทำของ เซบีย่า ไม่ใช่การโยนหรือครอสส์บ่อยแบบนี้ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้พวกเขาอ่านขาด โจมตีใส่งูใหญ่ ที่เลือกจะไม่ส่งตัวรับมือลูกกลางอากาศได้ดีอย่าง มิลาน สคริเนียร์ ลงมาเล่น ซึ่งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ อินเตอร์ เป็นทีมที่ไม่มีจุดอ่อนด้านนี้ จึงไม่ได้ระวังตัวมากพอ เพราะกองหน้าสามคนของ เซบีย่า ก็ไม่ได้มีความโดดเด่นด้านความสูงแต่อย่างใด จนสุดท้ายแล้ว ทั้งสามประตูของทีมจากแดนกระทิงดุ ก็เป็นสกอร์ที่ได้จากลูก Early Cross และลูกฟรีคิกทั้งหมด


ปัจจัยที่สาม : โลเปเตกี หยิบจับอะไรเป็นดีไปหมด


ช่วงที่ผ่านมา ยุฟเซฟ เอ็น-เนซรี่ หัวหอกชาวโมร็อคโก จะเป็นตัวหลักมาโดยตลอดนับตั้งแต่ย้ายเข้ามาเมื่อเดือน ม.ค. แต่เกมนัดนี้ ฆูเลน โลเปเตกี เลือกที่จะกล้าดร็อปกองหน้ารายนี้ และใช้งาน ลุค เดอ ยอง ที่ว่ากันตรงๆกับเกมระดับนี้ เขาน่าจะคลาสไม่ถึง เนื่องจากตลอดอาชีพค้าแข้ง เจ้าตัวฟอร์มดับอนาถทั้งสิ้นเวลาออกมาเล่นนอกลีกฮอลแลนด์ แต่วันนี้กลับฉายแสง พังคนเดียวสองประตูจากลูกโขก ซึ่งมันเป็นประตูปลุกชีพให้ทีมอย่างแท้จริง ก่อนที่สุดท้ายแล้ว เดอ ยอง จะคว้าตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ไปครองได้อย่างเซอไพรส์


ปัจจัยที่สี่ : นอกจากเก่งแล้วยังเฮงอีกด้วย


สิ่งนี้มาคู่กับวงการฟุตบอลมาตลอด บางทีเก่งอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องพึ่งโชค พึ่งพาความผิดพลาของคู่แข่งบ้าง และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ เซบีย่า คว้าตรงนี้มาครองได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะลูกยิงประตูชัยของ ดีเอโก้ คาร์ลอส ซึ่งบอลไปแฉลบ โรเมลู ลูกากู ที่ลงมาช่วยเกมรับก่อนเปลี่ยนทางเข้าประตูไปแบบชนิดที่เรียกว่า ซามีร์ ฮันดาโนวิช หมดสิทธิ์ป้องกัน โดยลูกนี้หากมองกันดีๆแล้ว ถ้าบอลที่ออกจากเท้าของ คาร์ลอส ไม่ไปแฉลบ ก็น่าจะพุ่งตรงไปที่นายประตูงูใหญ่ และมีโอกาสหลุดกรอบได้มากกว่า 60 % จึงนับว่าวันนี้เป็นวันของเซบีย่า อย่างแท้จริงเลยทีเดียว


และนี่ก็คือ 4 ปัจจัย ที่ทาง TNNSPORTS มองว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ เซบีย่า คว้าบัลลังก์ถ้วยเล็กยุโรปซีซั่นนี้มาครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 6 เข้าไปแล้ว ก็นับว่าเป็นปีที่ดีของสโมสรแห่งนี้ แต่ในฤดูกาลหน้าพวกเขาจะไปโลดแล่นบนเวที แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งบรรดาทีมที่เล่นใน ยูโรปา ก็คงจะต้องพากันภาวนาหนักๆเลยว่าอย่าให้พวกเขาได้อันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่ม และหล่นลงมาเลย มิเช่นนั้นทุกทีมงานหนักแน่นอน


เรียบเรียงโดย : NickyMAN (นิก ธีร์ธวัช)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผิดหวังแรง! 'คอนเต้' พร้อมลาหากบอร์ดอินเตอร์ไม่ให้ทำต่อ

แชมป์สมัย6! 'เซบีย่า' ได้ 'เดอยอง' ซัดสองพาทีมเชือด 'อินเตอร์' 3-2 ซิวแชมป์ยูโรปา



ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ยูโรปา ลีกเซบีย่า
4 ปัจจัยคว้าแชมป์
เจ้าพ่อยูโรปา
โลเปเตกี
เดอ ยอง
แชมป์สมัยที่ 6