ฟ้าเปิดกลุ่มหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ-จีนพักยกประเด็นภาษี หนุนตลาดเทคฯโลก

ฟ้าเปิดกลุ่มหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ-จีนพักยกประเด็นภาษี หนุนตลาดเทคฯโลก

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีแนวโน้มพุ่งขึ้น หลังสหรัฐฯ และจีนระงับการเก็บภาษีตอบโต้ชั่วคราว

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี เตรียมเปิดตลาดอย่างสดใส หลังมีสัญญาณบวกจากเวทีการค้าระหว่างประเทศ เมื่อสหรัฐอเมริกาและจีนเห็นพ้องต้องกันที่จะชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ซึ่งกันและกัน เป็นระยะเวลา 90 วัน

สรุปข่าว

ตลาดหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ คาดว่าจะเปิดตัวในแดนบวกอย่างแข็งแกร่ง หลังจากสหรัฐฯ และจีนตกลงที่จะระงับการขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้กันชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน โดยสหรัฐฯ จะลดภาษีสินค้าจีนจาก 145% เหลือ 30% และจีนจะลดภาษีสินค้าสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% ส่งผลให้หุ้นบริษัทเทคโนโลยีจีนและสหรัฐฯ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการผลิตในจีน เช่น Temu, Alibaba, Apple, Amazon ต่างปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก่อนเปิดตลาด แม้ว่าข้อตกลงนี้จะไม่ได้ครอบคลุมถึงการยกเลิกข้อยกเว้นภาษี "de minimis" ล่าสุดของสหรัฐฯ ก็ตาม

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีแนวโน้มพุ่งขึ้น หลังสหรัฐฯ และจีนระงับการเก็บภาษีตอบโต้ชั่วคราว

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี เตรียมเปิดตลาดอย่างสดใส หลังมีสัญญาณบวกจากเวทีการค้าระหว่างประเทศ เมื่อสหรัฐอเมริกาและจีนเห็นพ้องต้องกันที่จะชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ซึ่งกันและกัน เป็นระยะเวลา 90 วัน

ข้อตกลงสำคัญนี้เกิดขึ้นในการเจรจาที่นครเจนีวา โดยสหรัฐฯ ตกลงที่จะพักการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราที่สูงถึง 145% ลงมาอยู่ที่ 30% เป็นการชั่วคราว ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งก็พร้อมใจที่จะระงับการเก็บภาษี 125% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ โดยปรับลดลงมาอยู่ที่ 10%

ทันทีที่มีข่าวนี้แพร่สะพัด หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็แสดงปฏิกิริยาในเชิงบวกอย่างชัดเจน ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด หุ้นของบริษัทส่งออกรายใหญ่ของจีนที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq อย่าง Temu และ Alibaba พุ่งขึ้นเกือบ 9% 

นอกจากนี้ บรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ ที่มีความเชื่อมโยงกับการผลิตและจัดหาสินค้าในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็น Apple, Amazon, Tesla, Nvidia, AMD และ Meta ต่างก็ปรับตัวขึ้นระหว่าง 5% ถึง 6% ก่อนการเปิดตลาดอย่างเป็นทางการ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี Nasdaq ก็ทะยานขึ้นประมาณ 3.8% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแนวโน้มของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าจับตามองคือ ข้อตกลงทางการค้าในครั้งนี้ ไม่ได้มีการกล่าวถึงประเด็นที่สหรัฐฯ เพิ่งประกาศยกเลิกข้อยกเว้นภาษี "de minimis" ซึ่งเคยอนุญาตให้สินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ประเด็นนี้จึงยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไปว่าจะส่งผลกระทบต่อการค้าอย่างไรในระยะยาว

ทั้งนี้การระงับการขึ้นภาษีตอบโต้ระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความตึงเครียดทางการค้า การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในวันนี้จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางของตลาดในระยะต่อไป