จีนทดสอบบิน eVTOL ผลิตเองในประเทศ ส่งของนอกชายฝั่งครั้งแรก

จีนทดสอบบิน eVTOL ผลิตเองในประเทศ ส่งของนอกชายฝั่งครั้งแรก

จีนทดสอบ อากาศยานแบบบินขึ้นและลงแนวดิ่งพลังงานไฟฟ้า (eVTOL) ที่พัฒนาขึ้นเองในประเทศ ประสบความสำเร็จในการบินขนส่งวัสดุไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งเป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา

สรุปข่าว

จีนได้ทดสอบการบินขนส่งสินค้าไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งเป็นครั้งแรกด้วย อากาศยาน eVTOL (เครื่องบินขึ้นลงแนวดิ่งพลังงานไฟฟ้า) ที่พัฒนาขึ้นเอง เครื่องบินรุ่น V2000CG CarryAll จากบริษัท AutoFlight บินออกจากเซินเจิ้นไปยังแท่นขุดเจาะที่อยู่ห่างออกไป 150 กิโลเมตร ใช้เวลาบินเหนือน้ำ 58 นาที เพื่อส่งสิ่งของจำเป็น เช่น ผลไม้และอุปกรณ์ทางการแพทย์ การขนส่งแบบนี้มีข้อดีคือ ต้นทุนต่ำ, ไม่ก่อมลพิษ และลงจอดในพื้นที่จำกัดได้ ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีการบินระดับต่ำในการขนส่งระยะไกลและภารกิจฉุกเฉิน

จีนทดสอบ อากาศยานแบบบินขึ้นและลงแนวดิ่งพลังงานไฟฟ้า (eVTOL) ที่พัฒนาขึ้นเองในประเทศ ประสบความสำเร็จในการบินขนส่งวัสดุไปยังแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งเป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา

อากาศยานรุ่น V2000CG CarryAll

อากาศยานลำนี้มีชื่อรุ่นว่า V2000CG CarryAll พัฒนาโดยบริษัท ออโต้ไฟลต์ (AutoFlight) ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการบรรทุกสินค้าอัตโนมัติ โดยเป็นอากาศยานที่มีน้ำหนักรวมราว 2 ตัน ให้ระยะการบิน 200 กิโลเมตร ทำความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 


การทดสอบบินของ V2000CG CarryAll

โดยบริษัทได้ทดสอบการบินขนส่งสินค้าไปยังจุดรับสินค้านอกชายฝั่ง เพื่อขนส่งสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ เช่น ผลไม้สดและอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉิน ด้วยการบินขึ้นจากฐานปล่อยบนบกในเมืองเซินเจิ้น บริเวณทางตอนใต้ของจีน และใช้เวลาบินเหนือน่านน้ำเป็นเวลา 58 นาที ก่อนลงจอดบนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งไปราว 150 กิโลเมตร 


ข้อได้เปรียบในการใช้งาน

บริษัทผู้พัฒนาระบุว่า การใช้อากาศยานแบบบินขึ้นและลงแนวดิ่งพลังงานไฟฟ้า มีข้อได้เปรียบเหนือวิธีการขนส่งสินค้าแบบเดิม ที่อาศัยเรือและเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากมีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่า ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และยังสามารถในการลงจอดในพื้นที่จำกัดได้ด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการขนส่งวัสดุสำหรับแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งของจีน ที่ปกติแล้วต้องอาศัยการขนส่งทางเรือเป็นหลัก และยังใช้เวลาเดินทางต่อเที่ยวนานถึง 10 ชั่วโมงหรือมากกว่า ทำให้ยากต่อการตอบสนองความต้องการด้านการจัดตารางขนส่งวัสดุเร่งด่วน และการใช้สนับสนุนฉุกเฉิน

ความสำเร็จของเที่ยวบินนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีการบินระดับต่ำ (low-altitude aviation) ในการส่งมอบสัมภาระฉุกเฉินระยะไกลและระดับต่ำ ซึ่งรวมถึงการใช้ทำภารกิจต่าง ๆ เช่น การป้องกันการบุกรุกของเรือประมง และการใช้งานด้านโลจิสติกส์ทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง

ที่มาข้อมูล : https://news.cgtn.com https://apvideohub.ap.org https://www.asdnews.com

ที่มารูปภาพ : AutoFlight