ส่องงานใหญ่ “World Smart Industry Expo 2025” โชว์นวัตกรรมโลกอนาคตในจีน

ส่องงานใหญ่ “World Smart Industry Expo 2025” โชว์นวัตกรรมโลกอนาคตในจีน

จีนจัดงานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีครั้งใหญ่ World Smart Industry Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่นครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ชูจุดเด่นการเปิดตัวสถาปัตยกรรม Computing AI  หรือโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบ AI ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบ "เปิด" เป็นครั้งแรก พร้อมด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอีกมากมายในงาน 

สรุปข่าว

งาน World Smart Industry Expo 2025 ที่นครฉงชิ่ง ประเทศจีน จัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่า 3,000 รายการ โดยมีไฮไลต์คือการเปิดตัว สถาปัตยกรรม Computing AI แบบเปิด เป็นครั้งแรก พร้อมด้วย AI super cluster และนวัตกรรมอื่นๆ เช่น หุ่นยนต์ปลา สำหรับตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเวลาในการทำงาน

จีนจัดงานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีครั้งใหญ่ World Smart Industry Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่นครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ชูจุดเด่นการเปิดตัวสถาปัตยกรรม Computing AI  หรือโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบ AI ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบ "เปิด" เป็นครั้งแรก พร้อมด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอีกมากมายในงาน 

งานนี้รวบรวมบริษัททั้งในและต่างประเทศกว่า 600 แห่ง เพื่อจัดแสดงนวัตกรรมที่ครอบคลุมหลากหลายภาคส่วน โดยแบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ได้แก่ 

  • ยานยนต์พลังงานใหม่ที่เชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Connected New Energy Vehicles)

  • เมืองดิจิทัล (Digital Cities)

  • หุ่นยนต์อัจฉริยะ (Smart Robots)

  • เศรษฐกิจระดับต่ำ (Low-altitude Economy) 

  • และ บ้านอัจฉริยะ (Smart Homes) 


โดยมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์, เทคโนโลยี และผลงานใหม่ ๆ มากกว่า 3,000 รายการ รวมถึงไฮไลต์สำคัญของงานคือการเปิดตัวสถาปัตยกรรม Computing AI แบบเปิด ซึ่งเป็นครั้งแรกของจีน และการเปิดตัวระบบ AI super cluster กลุ่มของคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่ทำงานร่วมกันเพื่อประมวลผลงานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ซับซ้อนและใช้ทรัพยากรมาก


เผยนวัตกรรมด้าน Computing AI และหุ่นยนต์

นอกจากนี้ยังมีการประกาศเริ่มการก่อสร้างห้องปฏิบัติการร่วมด้าน  Computing AI แบบเปิด ภายใต้ศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมการประมวลผลขั้นสูงแห่งชาติ (National Advanced Computing Industry Innovation Center) และการจัดแสดงนวัตกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น "หุ่นยนต์ปลา" ที่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในหม้อแปลงไฟฟ้าได้ ซึ่งแตกต่างจากวิธีการแบบดั้งเดิมที่ต้องถ่ายน้ำมันออกและส่งคนเข้าไปตรวจสอบด้วยตนเอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและมีความเสี่ยงสูงต่อทั้งพนักงานและอุปกรณ์

หุ่นยนต์ปลาดังกล่าวยังได้รับการออกแบบให้มีขนาดเล็ก คล่องตัว และทนทาน สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระที่ความลึกถึง 10 เมตร เพื่อทำการตรวจสอบและถ่ายภาพ ภายในติดตั้งกล้องความละเอียดสูงและระบบไฟส่องสว่าง ทำให้สามารถจับภาพที่ชัดเจนในสภาพแสงน้อยและส่งภาพแบบเรียลไทม์ได้ นอกจากนี้ หุ่นยนต์ยังใช้เทคโนโลยี AI ในการระบุข้อบกพร่องต่างๆ โดยอัตโนมัติ เช่น รอยคาร์บอน, การคายประจุไฟฟ้า และวัตถุแปลกปลอม


ยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ อีกมากมายในงาน

นอกจากหุ่นยนต์ปลาแล้ว ยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน เช่น เครื่องบินขึ้นลงในแนวดิ่งพลังงานไฟฟ้า (eVTOL), ชุดเจ็ตแพ็ค (Jet Pack) และ รถบ้านอัจฉริยะ (Smart RV) โดยภายในงาน มีผู้เข้าชมจำนวนมากให้ความสนใจกับเครื่องบิน eVTOL แบบสองที่นั่ง ซึ่งมีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 620 กิโลกรัม บินได้ไกลประมาณ 30 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดง เจ็ตแพ็ค นวัตกรรมใหม่ที่สามารถรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม บินได้ไกลกว่า 10 กิโลเมตร ที่ระดับความสูงไม่เกิน 1,000 เมตร ซึ่งผู้ใช้งานสามารถควบคุมการบินอัตโนมัติได้ง่าย ๆ เพียงแค่สวมหมวกกันน็อกและแว่นตาอัจฉริยะ แล้วมองไปยังทิศทางที่ต้องการไป

อีกหนึ่งไฮไลต์คือ รถบ้านอัจฉริยะ (Smart RV) ที่ออกแบบให้เป็นได้ทั้งห้องนอน ห้องประชุม และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในคันเดียว ด้วยระบบควบคุมอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในได้อย่างง่ายดาย ทำให้รถมีความสะดวกสบายมากขึ้น

สำหรับงานมหกรรมนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 กันยายนที่ผ่านมา ครอบคลุมพื้นที่จัดแสดงในร่ม 130,000 ตารางเมตร และพื้นที่จัดแสดงกลางแจ้ง 40,000 ตารางเมตร โดยในปีนี้เน้นในหัวข้อ "AI+" และ "ยานยนต์พลังงานใหม่เชื่อมต่ออัจฉริยะ"