จริง ๆ แล้ว IG ไม่ได้แอบฟังผู้ใช้งาน ซีอีโอยืนยันเป็นแค่ความเข้าใจผิด

อดัม โมสเซอรี (Adam Mosseri) หัวหน้าอินสตาแกรม หรือตำแหน่ง Head of Instagram ออกมาโพสต์ยืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาบน Instagram ว่าบริษัทแม่เมต้า (Meta) ไม่ได้แอบเปิดไมโครโฟนในโทรศัพท์ เพื่อฟังการสนทนาของผู้ใช้แล้วนำไปใช้ยิงโฆษณาอย่างที่หลายคนสงสัย โดยชี้ว่าเป็นเพียง “ทฤษฎีสมคบคิด” ที่มีมานาน และบริษัทก็เคยปฏิเสธข้อกล่าวหานี้หลายครั้ง อีกทั้งเขายังเสริมว่า หากโทรศัพท์ถูกเปิดไมโครโฟนจริง ผู้ใช้จะสังเกตเห็นได้จากไฟแจ้งเตือนบนหน้าจอ รวมถึงแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

สรุปข่าว

อดัม โมสเซอรี (Adam Mosseri) หัวหน้า Instagram ยืนยันว่า Meta ไม่ได้แอบใช้ไมโครโฟนฟังผู้ใช้เพื่อยิงโฆษณา แต่บริษัทเตรียมใช้ข้อมูลจากการโต้ตอบกับ AI มาเป็นสัญญาณใหม่ในการเจาะโฆษณา เริ่มมีผล 16 ธันวาคมนี้

อดัม โมสเซอรี (Adam Mosseri) หัวหน้าอินสตาแกรม หรือตำแหน่ง Head of Instagram ออกมาโพสต์ยืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาบน Instagram ว่าบริษัทแม่เมต้า (Meta) ไม่ได้แอบเปิดไมโครโฟนในโทรศัพท์ เพื่อฟังการสนทนาของผู้ใช้แล้วนำไปใช้ยิงโฆษณาอย่างที่หลายคนสงสัย โดยชี้ว่าเป็นเพียง “ทฤษฎีสมคบคิด” ที่มีมานาน และบริษัทก็เคยปฏิเสธข้อกล่าวหานี้หลายครั้ง อีกทั้งเขายังเสริมว่า หากโทรศัพท์ถูกเปิดไมโครโฟนจริง ผู้ใช้จะสังเกตเห็นได้จากไฟแจ้งเตือนบนหน้าจอ รวมถึงแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

คำยืนยันครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่ เมต้า (Meta) ประกาศนโยบายใหม่ เรื่องเตรียมนำข้อมูลจากการโต้ตอบของผู้ใช้กับผลิตภัณฑ์ AI ในเครือ เช่น Meta AI มาใช้เป็น “สัญญาณ” เสริมในการคัดเลือกโฆษณา ซึ่งบริษัทระบุว่าจะทำให้ระบบเจาะกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ระบบโฆษณา Meta อาศัยข้อมูลพฤติกรรม ไม่ใช่เสียงสนทนา

สิ่งที่ทำให้โฆษณาของ Meta แม่นยำคือข้อมูลที่นักโฆษณาส่งให้ เช่น ใครเข้าเว็บไซต์ใด รวมถึงการวิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้ที่คล้ายกัน ไม่จำเป็นต้องใช้ไมโครโฟนดักฟัง

โดยโมสเซอรีอธิบายว่า โฆษณาของ Meta มีความแม่นยำ เนื่องจากนักโฆษณาแชร์ข้อมูลกับบริษัท เช่น เว็บไซต์ที่ผู้ใช้เคยเข้า และการวิเคราะห์จากผู้ใช้ที่มีความสนใจใกล้เคียงกัน ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ระบบแนะนำโฆษณาทำงานได้อย่างทรงพลัง โดยไม่จำเป็นต้องดักฟังผ่านไมโครโฟน

เขายังระบุด้วยว่า หลายครั้งที่ผู้ใช้คิดว่า Meta “รู้ใจ” จริง ๆ อาจเป็นเพราะผู้ใช้เคยเห็นโฆษณานั้นมาก่อนโดยไม่ทันสังเกต หรือเป็นเพียงความบังเอิญที่เชื่อมโยงกับจิตวิทยาการจดจำของมนุษย์

ทั้งนี้ในปี 2016 Meta ซึ่งขณะนั้นยังใช้ชื่อว่า Facebook ได้เผยแพร่บล็อกโพสต์ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า บริษัทไม่ได้ใช้ไมโครโฟนในโทรศัพท์ของผู้ใช้เพื่อกำหนดว่าจะโชว์โฆษณาใดหรือคอนเทนต์ใดใน News Feed และต่อมาอีกหลายปี มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอของ Meta ก็ได้ให้การต่อหน้าสภาคองเกรส ยืนยันอีกครั้งว่าบริษัทไม่ได้เก็บข้อมูลเสียงของผู้ใช้มาใช้เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว

ในวันที่ 16 ธันวาคม Meta เตรียมบังคับใช้นโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่โดยจะอนุญาตให้ใช้ข้อมูลจากการสนทนากับ AI ของผู้ใช้เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือเพื่อยิงโฆษณา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนกังวลว่า แม้บริษัทจะไม่ใช้ไมโครโฟน แต่ความแม่นยำในการโฆษณาอาจยิ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกถูก “จับตามอง” มากกว่าเดิม