
กระแสความขัดแย้งระหว่างวงการสร้างสรรค์กับเทคโนโลยี AI ปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Studio Ghibli และกลุ่มสำนักพิมพ์ญี่ปุ่นภายใต้สมาคมอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (Content Overseas Distribution Association - CODA) ได้ร่วมกันส่งจดหมายถึง โอเพนAI (OpenAI) เรียกร้องให้หยุดใช้ผลงานที่มีลิขสิทธิ์ของพวกเขาในการฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต
สรุปข่าว
กระแสความขัดแย้งระหว่างวงการสร้างสรรค์กับเทคโนโลยี AI ปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Studio Ghibli และกลุ่มสำนักพิมพ์ญี่ปุ่นภายใต้สมาคมอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (Content Overseas Distribution Association - CODA) ได้ร่วมกันส่งจดหมายถึง โอเพนAI (OpenAI) เรียกร้องให้หยุดใช้ผลงานที่มีลิขสิทธิ์ของพวกเขาในการฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต
“Ghiblified” เทรนด์ไวรัลที่กลายเป็นปัญหาลิขสิทธิ์
หลังจาก โอเพนAI (OpenAI) เปิดตัวระบบสร้างภาพของแช็ตจีพีที (ChatGPT) เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้นับล้านทั่วโลกต่างนิยมสร้างภาพใน “สไตล์ Ghibli” สตูดิโอแอนนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่นทั้งภาพเซลฟีหรือรูปสัตว์เลี้ยงของตนเอง จนแม้แต่ แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI ยังเปลี่ยนรูปโปรไฟล์บน X เป็นภาพแนวจิบลิด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม เทรนด์ดังกล่าวกลับสร้างความกังวลในหมู่ผู้สร้างสรรค์ เนื่องจากภาพและลักษณะงานของ สตูดิโอแอนนิเมชั่นจิบลิ (Studio Ghibli) ถือเป็นผลงานที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์
CODA เตือน “Sora” เสี่ยงละเมิดลิขสิทธิ์ซ้ำรอย
เมื่อ OpenAI เตรียมเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงแอปสร้างวิดีโอโซรา (Sora) มากขึ้น CODA จึงออกมาแสดงจุดยืนชัดว่า OpenAI ไม่ควรนำเนื้อหาของสมาชิกมาใช้ฝึกโมเดลโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมระบุว่า การจำลองหรือลอกเลียนผลงานในระหว่างกระบวนการเรียนรู้ของเครื่องอาจถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น
และ CODA เขียนในจดหมายว่า “ระบบกฎหมายลิขสิทธิ์ของญี่ปุ่นกำหนดให้ต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้า ไม่มีช่องทางให้หลีกเลี่ยงความรับผิดได้ด้วยการคัดค้านภายหลัง”
ช่องโหว่กฎหมายอเมริกา เส้นแบ่งยังคลุมเครือ
ในสหรัฐ กฎหมายลิขสิทธิ์ยังไม่มีความชัดเจนต่อการนำผลงานไปใช้ฝึกโมเดล AI โดยล่าสุดผู้พิพากษา วิลเลียม อัลซัป (William Alsup) เคยตัดสินว่า บริษัทแอนโทรปิก (Anthropic) ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์จากการฝึก AI ด้วยหนังสือ แต่ถูกปรับในข้อหาคัดลอกไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “เส้นแบ่งทางกฎหมาย” ระหว่างการใช้ข้อมูลเพื่อการเรียนรู้กับการละเมิดยังคงคลุมเครือ
ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์นี้ แม้ ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) ผู้ร่วมก่อตั้ง Studio Ghibli จะยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีล่าสุด แต่เขาเคยวิจารณ์ผลงานแอนิเมชันที่สร้างด้วย AI ตั้งแต่ปี 2016 ว่า “ผมรู้สึกขยะแขยงอย่างที่สุด” และกล่าวว่า “นี่คือการดูหมิ่นชีวิตโดยตรง
กรณีนี้สะท้อนการปะทะกันระหว่าง จิตวิญญาณแห่งศิลปะ กับ พลังแห่งปัญญาประดิษฐ์ ว่าเส้นแบ่งระหว่าง แรงบันดาลใจ กับ การละเมิด จะถูกตีความอย่างไรในยุคที่ AI สามารถสร้างสรรค์งานศิลป์ได้ในไม่กี่วินาที และคำถามสำคัญที่ยังคงค้างอยู่คือ ใครคือเจ้าของผลงานในโลกที่เครื่องจักรเริ่มเข้าใจศิลปะมากขึ้นทุกวัน
- OpenAI เปิดตัวแอป "Sora" สร้างวิดีโออัจฉริยะในไทย พร้อมเวียดนาม และไต้หวัน ดาวน์โหลดฟรีบน iOS
- "OpenAI" เล็ง IPO มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่นมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์
- ลือ OpenAI กำลังพัฒนาเครื่องมือ Generative Music ปฏิวัติการสร้างสรรค์เสียงดนตรี
- OpenAI เข้าซื้อกิจการ Sky แอปพลิเคชันผู้ช่วย AI สำหรับเครื่อง Mac ของ Apple
- OpenAI เปิดตัว “ChatGPT Atlas” เบราว์เซอร์อัจฉริยะ สั่นสะเทือนตลาดค้นหาข้อมูลออนไลน์
