
กองทัพเรือจีน (PLAN) กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของอำนาจทางทะเล เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง 3 ลำ ประกอบด้วย เรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง, เรือบรรทุกเครื่องบินซานตง และลำล่าสุด เรือบรรทุกเครื่องบินฟู่เจี้ยน เริ่มเป็นรากฐานสำคัญของยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายผลักดันจีนขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจทางทะเลเต็มรูปแบบในทศวรรษนี้
สรุปข่าว
กองทัพเรือจีน (PLAN) กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของอำนาจทางทะเล เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง 3 ลำ ประกอบด้วย เรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง, เรือบรรทุกเครื่องบินซานตง และลำล่าสุด เรือบรรทุกเครื่องบินฟู่เจี้ยน เริ่มเป็นรากฐานสำคัญของยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายผลักดันจีนขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจทางทะเลเต็มรูปแบบในทศวรรษนี้
“เหลียวหนิง” (Liaoning / CV-16) จุดเริ่มต้นของอาณาจักรเรือบรรทุกจีน
“เหลียวหนิง” ประจำการตั้งแต่ปี 2012 “เหลียวหนิง” คือ ลำแรกของกองทัพเรือจีนที่ทำให้โครงการเรือบรรทุกเครื่องบินจีนเกิดขึ้นจริง หลังจากต่อยอดจากเรือสหภาพโซเวียตเก่า ตัวเรือมีขนาดราว 60,000-66,000 ตัน ใช้ระบบส่งอากาศยานแบบกระโดดไกล หรือ STOBAR พร้อมรันเวย์ยาว 305 เมตร
แม้จะไม่ใช่เรือที่ทันสมัยที่สุด แต่เหลียวหนิง คือ เรือที่ทำให้จีนสร้างบุคลากร ความรู้ และประสบการณ์ด้านปฏิบัติการอากาศยานบนเรือรบเป็นครั้งแรก โดยฝูงบินหลักคือ J-15 “Flying Shark” ราว 26-30 ลำ
“ซานตง” (Shandong / CV-17) เรือสร้างเองลำแรกของจีน
“ซานตง” เข้าประจำการในปี 2019 “ซานตง” ถือเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่จีนสร้างเอง 100% โดยอาศัยพื้นฐานการออกแบบจากเหลียวหนิง แต่ปรับปรุงให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตัวเรือใหญ่ขึ้นเล็กน้อยราว 60,000-70,000 ตัน และยังคงใช้ระบบส่งอากาศยานแบบกระโดดไกล หรือ STOBAR เหมือนเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง
ฝูงบินประจำเรือประกอบด้วย J-15B / J-15T รุ่นใหม่ที่ติดเรดาร์ AESA ความสามารถสูงขึ้น ทำให้ซานตงสามารถออกปฏิบัติการได้จริงในทะเลจีนใต้และฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมากขึ้น
“ฟู่เจี้ยน” (Fujian / CV-18) เรือบรรทุกรุ่นก้าวกระโดดแห่งปี 2025
“ฟู่เจี้ยน” ประจำการในปี 2025 คือก้าวกระโดดสำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมเรือรบจีน ตัวเรือมีขนาดใหญ่มาก 80,000-85,000 ตัน ใกล้เคียงเรือซูเปอร์คาร์เรียร์ ของสหรัฐฯ และที่สำคัญคือ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินจีนลำแรกที่ใช้ระบบ EMALS (Electromagnetic Catapult) เช่นเดียวกับเรือชั้น Gerald R. Ford ของสหรัฐฯ
ด้วยระบบ EMALS ฟู่เจี้ยนสามารถปล่อยเครื่องบินที่หนักกว่า ไกลกว่า และทันสมัยกว่าระบบส่งอากาศยานแบบกระโดดไกล หรือ STOBAR ทำให้จีนพร้อมรองรับเครื่องบินรบยุคใหม่ของฝูงบินทั้ง J-35 Stealth Carrier Jet, เครื่อง AEW&C KJ-600 และอากาศยานไร้คนขับรุ่นใหม่ในอนาคต
เรือบรรทุกลำที่ 4 และอนาคตของกองเรือจีน
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดว่า จีนกำลังเร่งพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 4 ซึ่งอาจเป็นเรือพลังงานนิวเคลียร์ลำแรกของประเทศ หากเป็นจริง นั่นหมายความว่าจีนจะยกระดับขีดความสามารถของกองเรือเทียบชั้นสหรัฐฯ ได้เร็วขึ้นอีกหนึ่งขั้น
ทิศทางของกองทัพเรือจีน PLAN ชี้ชัดว่าจีนกำลังเดินหน้าไล่ระดับจากเรือบรรทุกที่ใช้งานได้สู่เรือบรรทุกที่แข่งขันได้ และในที่สุดอาจไปถึงเรือบรรทุกที่ทัดเทียมมหาอำนาจทางทะเล ในอนาคตอันใกล้

ที่มาข้อมูล : https://www.aljazeera.com/news/2025/11/7/chinas-third-aircraft-carrier-the-fujian-enters-military-service
ที่มารูปภาพ : PLAN
