
ผู้เชี่ยวชาญของนาซา เผยแพร่ภาพใหม่ของวัตถุระหว่างดวงดาวที่มีชื่อว่า ทรีไอ/แอตลาส (3I/ATLAS) เมื่อวันพุธที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเผยว่าข้อมูลจากการวิจัยที่ได้บ่งชี้ว่าวัตถุลึกลับนี้คือ “ดาวหาง” สยบข่าวทฤษฎีสมคบคิดที่ลือว่านี่อาจจะเป็น “ยานมนุษย์ต่างดาว” หรือจุดจบของมนุษยชาติ
สรุปข่าว
ผู้เชี่ยวชาญของนาซา เผยแพร่ภาพใหม่ของวัตถุระหว่างดวงดาวที่มีชื่อว่า ทรีไอ/แอตลาส (3I/ATLAS) เมื่อวันพุธที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเผยว่าข้อมูลจากการวิจัยที่ได้บ่งชี้ว่าวัตถุลึกลับนี้คือ “ดาวหาง” สยบข่าวทฤษฎีสมคบคิดที่ลือว่านี่อาจจะเป็น “ยานมนุษย์ต่างดาว” หรือจุดจบของมนุษยชาติ
3I/ATLAS มาเยือนโลก
ทรีไอ/แอตลาส (3I/ATLAS) ถูกพบเห็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกล้องโทรทรรศน์เพื่อการแจ้งเตือนการชนดาวเคราะห์น้อยบนโลก หรือ แอตลาส (ATLAS) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองริโอ เฮอร์ตาโด ในประเทศชิลี โดยหลังจากนั้นนักดาราศาสตร์ก็ได้ติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากวิถีโคจรที่ผิดปกติของมันบ่งชี้ถึงการโคจรผ่านระบบสุริยะของเรา จากบริเวณที่ไม่รู้จัก
สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับ 3I/ATLAS
วัตถุนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางของนิวเคลียสหรือแกนหลักของมัน มีความกว้างมากสุดที่ราว 5.6 กิโลเมตร และส่วนที่แคบสุดอยู่ที่ราว 440 เมตร เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 221,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 246,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ณ ตำแหน่งใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
หรือนี่คือยานเอเลี่ยน?
วัตถุระหว่างดวงดาวนี้ ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก หลังจากมีข่าวลือว่ามันอาจจะไม่ใช่ “ดาวหาง” แต่เป็นเทคโนโลยีจากต่างดาว เนื่องจากวิถีโคจร องค์ประกอบ และปัจจัยอื่น ๆ ของมัน ที่ดูแตกต่างไปจากดาวหางอื่น โดยพบความเร็วที่ไม่เกี่ยวข้องกับแรงโน้มถ่วง และเคลื่อนที่เร็วกว่าที่จะอธิบายได้
NASA ออกแถลงข่าวชี้แจง
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญของนาซาออกมาปฏิเสธความเชื่อนี้ โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อมิต กษัตริยา (Amit Kshatriya) รองผู้อำนวยการขององค์การนาซากล่าวว่า ทรีไอ/แอตลาส (3I/ATLAS) มีลักษณะและพฤติกรรมเหมือนดาวหาง และหลักฐานทั้งหมดที่พบ ก็บ่งชี้ว่ามันเป็นดาวหางจริง ๆ
ส่วน นิคกี้ ฟ็อกซ์ (Nicky Fox) รองผู้อำนวยการฝ่ายภารกิจวิทยาศาสตร์เสริมว่า ดาวหางนี้ ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อโลกตามที่หลายคนกังวลกัน ส่วนวิถีการโคจรที่ดูแปลกไป ก็มาจากการปล่อยแก๊สและฝุ่นละออง รวมถึงยังมีการ ตรวจพบโมเลกุลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากการแตกตัวของไอน้ำ
อย่างไรก็ตามยังมีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่ม ที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่านี่คือดาวหางจริง ๆ โดยหนึ่งในนั้นคือ อาวี โลบ (Avi Loeb) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์และศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่กล่าวว่าวัตถุในอวกาศนี้มีมวลมากกว่าวัตถุระหว่างดวงดาวใด ๆ ที่เคยค้นพบ
นอกจากนี้ วิถีโคจรของมัน ยังสอดคล้องกับระนาบการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ โดยมีความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 5 องศา และมีการเร่งความเร็วโดยไม่อาศัยแรงโน้มถ่วง ซึ่งเขามองว่าโอกาสที่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นแบบสุ่มนั้นมีน้อยมาก และเรียกร้องให้นาซาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อที่ตัดสินใจได้ว่ามันคือดาวหางจริงหรือไม่
ที่มาข้อมูล : reutersconnect
ที่มารูปภาพ : science.nasa.gov
