สตาร์ตอัปจากฮ่องกง เปิดตัว "Reetle SmartInk I" เคสอัจฉริยะที่เปลี่ยนด้านหลัง iPhone ให้เป็นหน้าจอศูนย์สั่งงาน E Ink พลัง AI สำหรับการอ่านและการทำงานที่ช่วยถนอมสายตา แนวคิดของอุปกรณ์ชิ้นนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ ePaper เสริมในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องเปลี่ยนสมาร์ตโฟนหลักให้เป็นจอ E Ink
ที่มาของภาพ
Reetle SmartInk I
สรุปข่าว
สตาร์ตอัปจากฮ่องกง เปิดตัว "Reetle SmartInk I" เคสอัจฉริยะที่เปลี่ยนด้านหลัง iPhone ให้เป็นหน้าจอศูนย์สั่งงาน E Ink พลัง AI สำหรับการอ่านและการทำงานที่ช่วยถนอมสายตา แนวคิดของอุปกรณ์ชิ้นนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ ePaper เสริมในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องเปลี่ยนสมาร์ตโฟนหลักให้เป็นจอ E Ink
ที่มาของภาพ
Reetle SmartInk I
ดีไซน์หน้าจอ E Ink รองรับเฉพาะ iPhone รุ่นใหม่
Reetle SmartInk I มาพร้อมหน้าจอสัมผัส E Ink ขนาด 3.97 นิ้ว ความละเอียด 235 พิกเซลต่อนิ้ว ติดตั้งไว้บริเวณด้านล่างของเคสใต้กระจกนิรภัย และยึดกับตัวเครื่องด้วยระบบแม่เหล็ก รองรับการใช้งานกับ iPhone ตั้งแต่ iPhone 14 เป็นต้นไป ขณะที่ผู้ใช้สมาร์ตโฟนระบบ Android ยังไม่สามารถใช้งานอุปกรณ์นี้ได้ในช่วงเริ่มต้น
ที่มาของภาพ
Reetle SmartInk I
เสริมการทำงานด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI
จุดเด่นสำคัญของเคสรุ่นนี้คือการเสริมความสามารถด้าน AI สำหรับงานเอกสารและการสื่อสาร ผู้ใช้สามารถอ่านอีบุ๊กหรือเอกสารงานบนจอ E Ink เพื่อลดอาการล้าสายตา พร้อมรองรับฟังก์ชันแปลงเสียงเป็นข้อความ (Voice-to-Text) สำหรับถอดเสียงการสนทนาได้แบบเรียลไทม์ ขณะเดียวกัน AI ยังสามารถสรุปโน้ต จัดหมวดหมู่ข้อมูล และแปลภาษาได้มากกว่า 100 ภาษา
นอกจากระบบ AI แล้ว หน้าจอ E Ink ยังสามารถแสดงวิดเจ็ต รายการสิ่งที่ต้องทำ นามบัตรดิจิทัล เอกสารการเดินทาง คิวอาร์โค้ด รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ได้ พร้อมระบบซิงก์ข้อมูลผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth โดยตัวเคสมีแบตเตอรี่ในตัวขนาด 300 มิลลิแอมป์ ใช้งานสแตนด์บายได้นาน 7 วัน หรือใช้งานอ่านต่อเนื่องประมาณ 10 ชั่วโมง และยังรองรับการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe โดยไม่ดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ของ iPhone โดยตรง
ที่มาของภาพ
Reetle SmartInk I
ปัจจุบัน Reetle SmartInk I อยู่ในขั้นต้นแบบและทดสอบการใช้งานกับ iPhone 16 Pro แล้ว โดยบริษัทได้เปิดระดมทุนผ่านแพลตฟอร์ม Kickstarter ในราคาเริ่มต้นราว 120 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าราคาวางจำหน่ายจริงที่คาดไว้ประมาณ 40% อย่างไรก็ตาม โครงการนี้เป็นทั้งผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกและการระดมทุนครั้งแรกของบริษัท โดยตั้งเป้าเริ่มจัดส่งสินค้าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2026
แพ็กเกจใช้งานหลายระดับ ตั้งแต่ฟรีถึงธุรกิจ
ผู้ใช้จะได้รับแพ็กเกจพื้นฐานแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมสิทธิ์ถอดเสียง 50 นาทีต่อเดือน และฟีเจอร์ AI ในขอบเขตจำกัด ส่วนแพ็กเกจระดับธุรกิจราคา 99.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี จะเพิ่มเวลาถอดเสียงเป็น 150 นาทีต่อเดือน และแพ็กเกจระดับสูงสุดราคา 149.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี จะขยายเวลาการถอดเสียงเป็น 250 นาทีต่อเดือน
ที่มาของภาพ
Reetle SmartInk I
Reetle SmartInk I จึงถูกมองว่าเป็นอีกก้าวของการพัฒนา “เคสโทรศัพท์” จากเดิมที่มีหน้าที่เพียงป้องกันการตกกระแทก สู่การเป็นอุปกรณ์เสริมด้านการทำงาน ถนอมสายตา และเพิ่มศักยภาพด้าน AI ให้กับสมาร์ตโฟนในเครื่องเดียว
