
สรุปข่าว
ระบาดของโควิด-19 กลายเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงของสาธารสุขทั่วโลก นอกเหนือจากจำนวนผู้ป่วยที่มากจนเกินกำลังของแพทย์ในโรงพยาบาลแล้ว ยังพบปัญหาขาดแคลนออกซิเจน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอีกด้วย
ที่มาของภาพ Reutersในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประเทศอินเดียประสบปัญหาการระบาดของโควิด-19 เป็นวงกว้าง มีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเครื่องช่วยหายใจจะต้องใช้แก๊สออกซิเจนความเข้มข้นสูง เพื่อเพิ่มโอกาสรอดในผู้ป่วยที่มีการรุนแรง แต่ในประเทศกลับขาดแคลนแก๊สออกซิเจนอย่างหนัก จนหลายประเทศจากฝั่งตะวันตกต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและเร่งผลิตแก๊สออกซิเจนให้เพียงพอต่อความต้องการ
จะเห็นได้ว่า แก๊สออกซิเจนมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ทว่า การผลิตแก๊สออกซิเจนที่มีความเข้มข้นสูงต้องผ่านกระบวนการผลิตในระดับอุตสาหกรรม ดังนั้น หากกำลังการผลิตมีไม่เพียงพอต่อความต้งการ ก็จะเป็นเหตุให้แต่ละประเทศขาดซัพพลายของแก๊สออกซิเจนไว้ใช้ในโรงพยาบาลได้
ที่มาของภาพ Reutersถึงตรงนี้คุณอาจสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่ดึงออกซิเจนจากอากาศมาให้ผู้ป่วยเสียเลย? นั่นเป็นเพราะออกซิเจนในอากาศมีสัดส่วนเพียง 21% เท่านั้น แต่มีไนโตรเจนสูงถึง 78% ในขณะที่ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการหายใจรวมถึงผู้ป่วยโควิด-19 จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนที่มีความเข้มข้นมากกว่าปกติ (บางรายต้องใช้ออกซิเจน 100%) ให้เพียงพอต่อความต้องการที่มากขึ้นด้วย นี่จึงเป็นคำตอบว่าเหตุใดออกซิเจนความเข้มข้นสูงจึงต้องผ่านกระบวนการในระดับอุตสาหกรรม
ทั้งหมดนี้จึงเกิดเป็นไอเดียให้สองนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคิงอับดุลเลาะห์ (KAUST) ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้คิดค้นเครื่องช่วยหายใจ Ventibag ที่สามารถดึงแก๊สออกซิเจนในอากาศมาใช้ได้ทันที โดยได้แก๊สที่มีความเข้มข้นสูงกว่าอีกด้วย
ที่มาของภาพ New Atlasขณะที่เครื่อง Ventibag ทำงาน ตัวเครื่องจะดึงอากาศจากสิ่งแวดล้อมเข้ามา แล้วส่งอากาศผ่านไปยังแร่ซีโอไลต์ (Zeolite) ซึ่งเป็นแร่ที่มีรูพรุนขนาดเล็กอยู่ภายใน สามารถดูดซับแก๊สไนโตรเจนในอากาศที่ผ่านเข้ามาได้ ก็จะเหลือแต่ออกซิเจนและแก๊สอื่นอีกเล็กน้อยผ่านออกมา แต่ก่อนที่อากาศจะถูกส่งไปยังผู้ป่วย แก๊สออกซิเจนที่รวบรวมจะถูกบีบอัดให้มีความเข้มข้นสูงได้ถึง 96% เพราะฉะนั้นแก๊สออกซิเจนที่ส่งไปยังผู้ป่วยจะมีความเข้มข้นสูงเมื่อเทียบกับในสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ Ventibag ยังมีฟังก์ชันประเมินความต้องการออกซิเจนของผู้ป่วย กรณีที่ผู้ป่วยต้องการมาก ตัวเครื่องจะทำให้แก๊สในอากาศที่ผ่านเข้ามาเข้มข้นมากขึ้น แต่เมื่อต้องการน้อยลงก็จะปรับความเข้มข้นลดลงให้เหมาะสม ซึ่งเป็นการประหยัดพลังงานไปในตัว และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับแก๊สออกซิเจนในปริมาณที่เหมาะสมด้วย
ที่มาของภาพ New Atlasขนาดของเครื่อง Ventibag ถือว่ามีขนาดเล็ก สามารถนำไปใช้ที่บ้านได้และไม่ต้องติดตั้งถังออกซิเจนขนาดใหญ่เทอะทะ นี่ทำให้ Ventibag ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดนวัตกรรมในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
ในอนาคตจะมีการปรับปรุงเครื่องให้พร้อมใช้ และคาดว่า Ventibag จะกลายเป็นอุปกรณ์การแพทย์ที่มีประโยชน์ทั้งในสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการใช้เป็นเครื่องช่วยหายใจแบบ Home-uses สำหรับผู้ป่วยในบ้านอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก New Atlas
- โควิด NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์หลักในไทยแล้ว มีแนวโน้มมากขึ้น
- สถานการณ์โควิดป่วยสะสมพุ่ง 2.5 แสนราย สายพันธุ์ NB.1.8.1 ระบาดแรง
- “หมอยง” เปิดข้อมูลโควิดสายพันธุ์ล่าสุดที่พบในกทม. ติดต่อง่าย แพร่กระจายเร็ว
- โควิดระบาด! รมว.สธ. เผยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ XEC ติดง่าย แต่หายไว
- เปิดเทอม! กรมการแพทย์แนะเฝ้าระวังห่วงเด็กเสี่ยงได้รับเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น
- เตือน! เดือนพ.ค. สถานการณ์โควิดจะระบาดสูงสุด ก่อนตามด้วยโรคไข้หวัดใหญ่
- นักวิจัยพบว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายใจผ่านลำไส้ อาจปูทางสู่การรักษาภาวะขาดออกซิเจนในมนุษย์
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand