
สรุปข่าว
วันที่ 30 กันยายน 2567 นับเป็นวันสำคัญสำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เมื่อกรมบัญชีกลางดำเนินการโอนเงิน 10,000 บาทให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นวันสุดท้าย โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นความหวังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ
ภาพรวมการโอนเงินวันสุดท้าย
ในวันสุดท้ายของการโอนเงิน กรมบัญชีกลางได้ดำเนินการโอนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9 จำนวนกว่า 2.26 ล้านคน นับเป็นการปิดฉากการโอนเงินรอบแรกของโครงการที่มีเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง
ปัญหาและอุปสรรคในการโอนเงิน
แม้ว่าโครงการจะประสบความสำเร็จในการโอนเงินให้กับประชาชนส่วนใหญ่ แต่ก็พบว่ามีผู้ที่ไม่ได้รับเงินตามกำหนดจำนวนไม่น้อย โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร เช่น บัญชีถูกปิด เลขบัญชีไม่ถูกต้อง หรือยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการบริหารจัดการข้อมูลและการประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคการเงิน
มาตรการแก้ไขและการโอนเงินซ้ำ
รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับเงิน โดยกำหนดให้มีการโอนเงินซ้ำในวันที่ 22 ตุลาคม 22 พฤศจิกายน และ 22 ธันวาคม 2567 พร้อมทั้งเร่งรัดให้ผู้มีสิทธิดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับบัญชีธนาคารภายในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 มาตรการนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง
กรณีพิเศษสำหรับผู้พิการ
สำหรับผู้พิการซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ รัฐบาลได้กำหนดมาตรการเฉพาะ โดยให้เวลาในการดำเนินการเกี่ยวกับบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 เพื่อให้สามารถรับเงินได้ทันในรอบการโอนซ้ำ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างทั่วถึง
แนวโน้มการแจกเงินเฟส 2
แม้ว่าการแจกเงินเฟสแรกจะยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่รัฐบาลก็ได้ส่งสัญญาณถึงการเตรียมการสำหรับการแจกเงินเฟส 2 ซึ่งจะครอบคลุมผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันของรัฐ โดยคาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 26 ล้านคน การดำเนินการในเฟส 2 นี้จะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของนโยบายและความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว
การโอนเงิน 10,000 บาทในวันสุดท้ายนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปิดฉากของการดำเนินการเฟสแรกเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้และพัฒนาระบบการช่วยเหลือประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต ความท้าทายที่พบในครั้งนี้ ทั้งในด้านการบริหารจัดการข้อมูล การประสานงานระหว่างหน่วยงาน และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการดำเนินโครงการในระยะต่อไป ในขณะเดียวกัน การเตรียมการสำหรับเฟส 2 ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของโครงการนี้จะขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและการติดตามผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดในระยะยาว
ภาพ Freepik
- "ชวน-นิพนธ์" ลุยเฉิงตู ดึงจีนตั้งโรงงานภาคใต้ หนุนกระตุ้นเศรษฐกิจ
- เปิดงบประมาณรัฐบาลปี 2559 กระทรวงไหนได้งบเยอะที่สุด?
- นายกฯ เผยครม. เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ใต้วงเงิน 157,000 ล้าน
- ครม.ไฟเขียว อัดฉีดงบ 1.57 แสนล้าน "กระตุ้นเศรษฐกิจ" ทุกมิติครั้งใหญ่
- จีนหั่นดอกเบี้ย LPR ครั้งแรกรอบ 7 เดือน 5 แบงก์รัฐลดดอกเบี้ยเงินฝาก หนุนกระตุ้นเศรษฐกิจ
- รัฐบาลย้ำประเทศไทยเป็นจุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลกตลอดปี
- นายกฯ เตรียมประชุมร่วมไทย–เวียดนาม ยกระดับความสัมพันธ์รอบด้าน 15–16 พ.ค. 2568
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand