
"จำนำไอคลาวด์" เมื่อมือถือกลายเป็นทรัพย์ค้ำประกัน
ในยุคที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ห้าของชีวิต ใครจะคิดว่าบัญชี iCloud ซึ่งเป็นระบบล็อกเครื่องของ Apple จะถูกนำมาใช้เป็น "หลักประกัน" สำหรับการกู้เงิน โดยมีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “Care apple phone ซื้อขายฝากไอโฟนรับซ่อมครบวงจร” เปิดบริการรับจำนำไอโฟนผ่านการส่งรหัส iCloud แลกเงินสดแบบเร่งด่วน
สรุปข่าว
"จำนำไอคลาวด์" เมื่อมือถือกลายเป็นทรัพย์ค้ำประกัน
ในยุคที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ห้าของชีวิต ใครจะคิดว่าบัญชี iCloud ซึ่งเป็นระบบล็อกเครื่องของ Apple จะถูกนำมาใช้เป็น "หลักประกัน" สำหรับการกู้เงิน โดยมีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “Care apple phone ซื้อขายฝากไอโฟนรับซ่อมครบวงจร” เปิดบริการรับจำนำไอโฟนผ่านการส่งรหัส iCloud แลกเงินสดแบบเร่งด่วน
เพจดังกล่าวโพสต์ข้อความเชิญชวนให้กู้เงินอย่างเปิดเผย พร้อมติดแฮชแท็ก #จำนำไอคลาวด์ #ปล่อยกู้ไอโฟน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน โดยมีข้อเสนอคือ ถ้าผู้กู้ไม่จ่ายเงินคืนตามกำหนด ผู้ให้กู้จะล็อกบัญชี iCloud ทันที ทำให้โทรศัพท์ไม่สามารถใช้งานได้เลย
เงินกู้ที่ต้องจ่ายด้วยข้อมูลส่วนตัว
ขั้นตอนการกู้ดูเหมือนง่าย แต่ต้องแลกมาด้วยข้อมูลส่วนตัวจำนวนมาก ผู้กู้ต้องถ่ายภาพตนเองคู่กับบัตรประชาชน พร้อมระบุชื่อ เบอร์โทรศัพท์ รายชื่อคนรู้จัก บัญชีโซเชียลมีเดีย และรหัส IMEI ของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเท่ากับว่าผู้ให้กู้สามารถเข้าถึงตัวตนดิจิทัลของผู้กู้ได้ทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น ดอกเบี้ยที่เรียกเก็บก็สูงลิ่ว หากกู้เงิน 6,000 บาท ผู้กู้จะถูกหักค่าดำเนินการทันที 10% เหลือรับจริงเพียง 5,400 บาท แล้วต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 1,200 บาท รวม 6 เดือนเป็นเงิน 7,200 บาท รวมกับเงินต้นเป็นยอดหนี้ทั้งหมด 13,200 บาท ภายในครึ่งปี ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายสูงถึง 240% ต่อปี ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดหลายเท่า
เมื่อเทคโนโลยีถูกใช้ควบคุมคนจน
กรณีนี้สะท้อนภาพใหม่ของวงจรหนี้ ที่เทคโนโลยีกลายเป็นเครื่องมือควบคุมผู้กู้ได้อย่างแนบเนียน เพราะโทรศัพท์ไม่ใช่แค่ของใช้ส่วนตัวอีกต่อไป แต่เป็น “ตัวประกัน” ที่ผู้กู้ต้องแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินสด หากผิดนัดชำระหนี้ โทรศัพท์ก็กลายเป็นเครื่องไร้ค่า
ช่องโหว่ของกฎหมายที่ยังไม่มีการกำกับดูแลเรื่องการใช้บัญชี iCloud หรือ Apple ID เป็นหลักทรัพย์ ทำให้ผู้ให้กู้ใช้ระบบล็อกเครื่องเป็นเครื่องมือกดดันผู้กู้โดยไม่ต้องใช้พฤติกรรมข่มขู่เหมือนในอดีต
คำถามที่ใหญ่กว่านี้คือ ทำไมคนจนถึงไม่มีทางเลือก?
การจับกุมผู้ปล่อยกู้นอกระบบรายนี้ แม้จะเป็นข่าวดี แต่สิ่งที่ควรถามต่อคือ เหตุใดคนจำนวนมากจึงยังต้องหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ ที่เสี่ยงและดอกเบี้ยแพงขนาดนี้ ระบบการเงินไทยปิดประตูใส่คนไม่มีเอกสาร ไม่มีเครดิต หรือมีรายได้ไม่แน่นอน จนทำให้คนเหล่านี้ต้องยอมเสี่ยงทุกอย่าง แม้กระทั่งข้อมูลส่วนตัว
ธนาคารไม่ให้กู้ บัตรเครดิตไม่มี รายได้ก็ไม่มั่นคง การเข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบถูกกฎหมายจึงกลายเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อม จนเกิดคำถามว่า จริงหรือที่เรามี "ระบบการเงินเพื่อทุกคน" หรือเป็นเพียงระบบสำหรับคนที่มีเอกสารพร้อมเท่านั้น
ถ้ารัฐยังไม่เปลี่ยน ทางลัดก็จะยังอยู่
“จำนำไอคลาวด์” อาจเป็นแค่หนึ่งในหลายรูปแบบของเงินกู้นอกระบบที่พัฒนาไปพร้อมกับยุคดิจิทัล หากรัฐยังไม่สามารถออกแบบระบบสินเชื่อที่เข้าถึงง่าย เป็นธรรม และปกป้องข้อมูลส่วนตัวของประชาชนได้ โครงสร้างหนี้แบบนี้ก็จะยังอยู่ และขยายตัวต่อไป
เพราะความจนเมื่อเจอกับเทคโนโลยี ไม่ได้สร้างโอกาสใหม่เสมอไป หากไม่มีใครคอยกำกับดูแล มันอาจกลายเป็นเครื่องมือรัดคอคนจนให้อึดอัดยิ่งกว่าเดิม
บรรณาธิการออนไลน์