
เมื่อโลกหมุนเร็วจนเศรษฐกิจต้องปรับตัวรายวัน รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้ออกมาย้ำชัดถึงทิศทางใหม่ของประเทศ ผ่านเวทีพิเศษ “Mission Thailand” ที่จัดขึ้นโดย TNN โดยมีผู้นำภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง
ในปาฐกถาครั้งนี้ ผู้นำหญิงของประเทศไทยเผยแผนฟื้นเศรษฐกิจจากแรงกดดันระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการถูกปรับ Outlook จากมูดี้ส์ ค่าเงินบาทผันผวน หรือกำแพงภาษีสหรัฐ พร้อมแนวนโยบายที่มุ่งหา “โอกาสในวิกฤต” ด้วยการลงทุนใหม่ ดิจิทัล อุตสาหกรรมอนาคต และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
สรุปข่าว
เมื่อโลกหมุนเร็วจนเศรษฐกิจต้องปรับตัวรายวัน รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้ออกมาย้ำชัดถึงทิศทางใหม่ของประเทศ ผ่านเวทีพิเศษ “Mission Thailand” ที่จัดขึ้นโดย TNN โดยมีผู้นำภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง
ในปาฐกถาครั้งนี้ ผู้นำหญิงของประเทศไทยเผยแผนฟื้นเศรษฐกิจจากแรงกดดันระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการถูกปรับ Outlook จากมูดี้ส์ ค่าเงินบาทผันผวน หรือกำแพงภาษีสหรัฐ พร้อมแนวนโยบายที่มุ่งหา “โอกาสในวิกฤต” ด้วยการลงทุนใหม่ ดิจิทัล อุตสาหกรรมอนาคต และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
ประเด็นสำคัญ
- มูดี้ส์ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยจาก Stable เป็น Negative พร้อมข้อกังวล
- รัฐบาลเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น กลาง และยาว
- ดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมอนาคต เช่น Semiconductor, Data Center
- ผลักดัน Entertainment Complex ดึงนักท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ทั้งระบบ
- ปรับบทบาทรัฐจากผู้สั่งการเป็นผู้สนับสนุนการลงทุนและนวัตกรรม
--------------------
รับมือมูดี้ส์มองลบ มากกว่าคะแนนคือความมั่นใจ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยจาก "Stable" เป็น "Negative" ว่าเป็นสัญญาณเตือน ไม่ใช่การลดเครดิตเรตติ้ง พร้อมอธิบายว่า Outlook คือการประเมินทิศทาง ไม่ใช่การตัดสิน
“เราต้องทำให้เขาไม่กังวลในสิ่งที่เขากังวล” — นายกรัฐมนตรีแพทองธารกล่าว พร้อมย้ำว่าไทยเคยถูกปรับมุมมองเช่นนี้ในปี 2008 ก่อนจะกลับมาได้
นายกฯ ยังกล่าวถึงปัจจัยสำคัญ เช่น กำแพงภาษีของสหรัฐ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และภาระหนี้สาธารณะ ที่อาจกระทบความเชื่อมั่นระยะยาว ซึ่งรัฐบาลกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด
ปลุกเศรษฐกิจด้วยนโยบาย 3 ระยะ
รัฐบาลดำเนินมาตรการเชิงรุกทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว โดยระยะสั้นคือมาตรการกระตุ้นการจับจ่าย เช่น การปลดล็อกหนี้สินบางกลุ่ม เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยฟื้นตัวได้ ระยะกลางคือการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรัฐซึ่งปัจจุบันสูงถึง 72% ของการลงทุนทั้งหมด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
ระยะยาวเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ท่าเรือ โครงการแลนด์บริดจ์ และระบบการจัดการน้ำ ตลอดจนการลงทุนใน Soft Infrastructure เช่น การศึกษาและวิจัย เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ชูอุตสาหกรรมอนาคต สร้างการเติบโตใหม่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การสร้างอุตสาหกรรมใหม่เป็นเป้าหมายสำคัญ เช่น Data Center, Semiconductor, อุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งไทยเริ่มดึงดูดการลงทุนจากบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Google โดยอาศัยนโยบาย Cloud First ที่ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางบริการดิจิทัล
“สิ่งที่สำคัญคือไม่ใช่แค่สร้างงาน แต่ต้องสร้างคนด้วย” นายกฯ กล่าว พร้อมระบุว่าไทยต้องพัฒนาแรงงานและส่งเสริม R&D เพื่อให้แข่งขันในเวทีโลกได้
Entertainment Complex: ศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ ไม่ใช่แค่คาสิโน
ประเด็น Entertainment Complex ถูกหยิบยกขึ้นอย่างตรงไปตรงมา นายกรัฐมนตรีอธิบายว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่คาสิโนแบบลาสเวกัส แต่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและครอบครัว เช่น โรงแรม พิพิธภัณฑ์ สวนสนุก สวนน้ำ สนามกีฬาในร่ม และศูนย์ประชุมขนาดใหญ่
“คาสิโนเป็นเพียงองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่ไม่ถึง 10% ของพื้นที่ทั้งหมด” นายกฯ กล่าว พร้อมยืนยันว่าจะมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด และรัฐไม่ได้ลงทุนเองแต่เปิดให้เอกชนลงทุน ภาครัฐเก็บรายได้จากภาษี
จับมือเอกชน รัฐคือผู้สนับสนุน
นายกรัฐมนตรีชี้ว่า รัฐบาลต้องเปลี่ยนบทบาทจากผู้ควบคุมมาเป็นผู้สนับสนุน โดยเฉพาะการสร้างระบบเกื้อหนุนการลงทุนทั้งในประเทศและการลงทุนของไทยในต่างประเทศ เช่น การออกแบบนโยบายเฉพาะกลุ่มเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนในสหรัฐท่ามกลางปัญหากำแพงภาษี
“เราต้องทำให้ภาคเอกชนมั่นใจ” นายกฯ กล่าว พร้อมเสนอให้รัฐเป็น Facilitator ที่เข้าใจปัญหา และสนับสนุนโครงสร้างเพื่อให้เอกชนขยายตัวได้อย่างมั่นคง
-------
ในเวที “Mission Thailand” นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ไม่เพียงแค่กล่าวถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจจากบริบทโลก แต่ยังวางหมากทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ทั้งมาตรการระยะสั้นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ มาตรการระยะกลางที่เน้นการลงทุนของภาครัฐ และยุทธศาสตร์ระยะยาวเพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจใหม่ ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล การศึกษา และอุตสาหกรรมอนาคต
ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศใหม่ทางเศรษฐกิจ ผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยรัฐทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน ผู้ประสาน และผู้เอื้อให้เกิดการลงทุนที่ยั่งยืน นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลจะไม่ทำงานเพียงลำพัง แต่จะทำงานเคียงข้างภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางและความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้าง
“รัฐบาลไม่ทำงานโดยลำพัง แต่ทำงานร่วมกับภาคเอกชน และเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีศักยภาพสูง พร้อมจะร่วมกันสร้างอนาคต”
เป้าหมายหลักของรัฐบาลชุดนี้ คือการวางเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าอย่างมั่นคง และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นในทุกมิติ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และไม่ปล่อยให้โอกาสทางเศรษฐกิจจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
“ดิฉันขอยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง และจะเดินหน้าหาแนวทางเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับประเทศไทยของเราต่อไป”
ท้ายที่สุด สุนทรพจน์ “Mission Thailand” ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการอธิบายสถานการณ์ แต่เป็นการสื่อสารถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการสร้างอนาคตที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ภายใต้โลกที่ไม่หยุดเปลี่ยนแปลง
บรรณาธิการออนไลน์