“หญ้าหวาน” คืออะไร? ถอดรหัสคำเปรียบนายกเบี้ยว หลังคว้าชัยธัญบุรี

“หญ้าหวาน” คืออะไร? ถอดรหัสคำเปรียบนายกเบี้ยว หลังคว้าชัยธัญบุรี

นายกเบี้ยว เปิดใจหลังทีม “น้ำอ้อย-ลูกพีช” ชนะเลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี เปรียบชาวบ้าน “กินหญ้าหวาน” ไม่หลงคำขม เจาะความหมายเชิงวาทกรรมในสนามการเมืองท้องถิ่น


นายกเบี้ยวประกาศชัยชนะ พร้อมวาทะ “ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน”

วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 หลังปิดหีบนับคะแนนเลือกตั้งเทศบาลตำบลธัญบุรีอย่างไม่เป็นทางการ นายกฤษดา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” ได้ออกมาแถลงร่วมกับภรรยา นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ หรือ “น้ำอ้อย” ผู้สมัครตำแหน่งนายกเทศมนตรี และบุตรชาย นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “ลูกพีช” ผู้สมัคร ส.ท. ในเขตเดียวกัน ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความยินดี

โดยนายกเบี้ยวกล่าวถึงความเชื่อมั่นของชาวบ้านที่มีต่อครอบครัวหลีนวรัตน์ว่า “พวกผมดูแลกันมาทั้งบ้าน” พร้อมยืนยันว่าตนไม่ใช่ “บ้านใหญ่” แต่เป็น “บ้านที่อบอุ่น” และหนึ่งในประโยคที่เรียกเสียงฮือฮาคือการกล่าวว่า

“ชาวธัญบุรีเนี่ยกินหญ้าหวานครับ ถ้ากินหญ้าขม ผมก็คงไม่ได้รับชัยชนะ”

คำกล่าวนี้สะท้อนอะไร? และ “หญ้าหวาน” กลายเป็นวาทกรรมทางการเมืองในสนามท้องถิ่นได้อย่างไร?

สรุปข่าว

“นายกเบี้ยว” ประกาศชัยเลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี พร้อมวาทะ “ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน” ชวนตั้งคำถามถึงการใช้คำเปรียบเปรยในสนามการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนการสื่อสารเชิงวาทกรรมเพื่อสร้างภาพจำและเชื่อมโยงกับประชาชน

นายกเบี้ยว เปิดใจหลังทีม “น้ำอ้อย-ลูกพีช” ชนะเลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี เปรียบชาวบ้าน “กินหญ้าหวาน” ไม่หลงคำขม เจาะความหมายเชิงวาทกรรมในสนามการเมืองท้องถิ่น


นายกเบี้ยวประกาศชัยชนะ พร้อมวาทะ “ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน”

วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 หลังปิดหีบนับคะแนนเลือกตั้งเทศบาลตำบลธัญบุรีอย่างไม่เป็นทางการ นายกฤษดา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” ได้ออกมาแถลงร่วมกับภรรยา นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ หรือ “น้ำอ้อย” ผู้สมัครตำแหน่งนายกเทศมนตรี และบุตรชาย นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “ลูกพีช” ผู้สมัคร ส.ท. ในเขตเดียวกัน ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความยินดี

โดยนายกเบี้ยวกล่าวถึงความเชื่อมั่นของชาวบ้านที่มีต่อครอบครัวหลีนวรัตน์ว่า “พวกผมดูแลกันมาทั้งบ้าน” พร้อมยืนยันว่าตนไม่ใช่ “บ้านใหญ่” แต่เป็น “บ้านที่อบอุ่น” และหนึ่งในประโยคที่เรียกเสียงฮือฮาคือการกล่าวว่า

“ชาวธัญบุรีเนี่ยกินหญ้าหวานครับ ถ้ากินหญ้าขม ผมก็คงไม่ได้รับชัยชนะ”

คำกล่าวนี้สะท้อนอะไร? และ “หญ้าหวาน” กลายเป็นวาทกรรมทางการเมืองในสนามท้องถิ่นได้อย่างไร?

หญ้าหวานคืออะไร?

หญ้าหวาน (Stevia rebaudiana) คือพืชล้มลุกในวงศ์ทานตะวัน มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะบริเวณปารากวัยและบราซิล จุดเด่นของหญ้าหวานคือ สารสตีวิโอไซด์ (stevioside) และ รีบาวดิโอไซด์ เอ (rebaudioside A) ที่มีรสหวานกว่าน้ำตาลทรายถึง 200-300 เท่า แต่ ไม่ให้พลังงานและไม่กระตุ้นระดับน้ำตาลในเลือด

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ หญ้าหวานจึงถูกนำมาใช้เป็น สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้รักสุขภาพ ผู้ควบคุมน้ำหนัก รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยไม่ส่งผลต่อระดับอินซูลินหรือก่อให้เกิดฟันผุเหมือนน้ำตาลทั่วไป นอกจากนี้ ยังผ่านการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา (อย.) ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย

หญ้าหวานในวัฒนธรรมอาหารไทย

แม้จะไม่ใช่พืชพื้นเมืองไทย แต่หญ้าหวานเริ่มได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีการแปรรูปเป็นผง ชงเป็นชา หรือผสมในขนม เครื่องดื่ม และอาหารเพื่อสุขภาพ ร้านอาหารคลีนและคาเฟ่สุขภาพจำนวนมากหันมาใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาลเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพ

“หวานแบบไม่หลอก” คือจุดขายของหญ้าหวาน

คำเปรียบ “หญ้าหวาน” จึงไม่ใช่แค่ความหวานทางกายภาพ แต่ยังสื่อถึง “ความหวานที่ไม่แฝงภัย” หรือ “หวานแท้ ไม่หลอกลวง” เมื่อถูกนำมาใช้ในบริบททางการเมือง เช่นที่ “นายกเบี้ยว” กล่าวหลังชนะเลือกตั้งว่า “ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน” ก็กลายเป็นวาทกรรมที่ตีความได้ว่า ประชาชนเลือกสิ่งที่ดี มีประโยชน์ และไม่ถูกเบี่ยงเบนด้วยคำพูดหวานลวง

ถอดรหัส “หญ้าหวาน” ในความหมายทางการเมือง

วาทกรรม “ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน” ของนายกเบี้ยว จึงเป็นมากกว่ามุกตลกข้างเวทีหาเสียง หากมองในเชิงวาทศาสตร์ มันคือการประกาศว่า ชาวบ้านในพื้นที่เลือกใช้วิจารณญาณ ไม่หลงเชื่อ “หญ้าขม” หรือคำพูดที่ขาดหลักฐาน

อีกแง่หนึ่งยังสื่อถึงภาพลักษณ์ของทีมผู้สมัครที่ให้ความหวาน (ความจริงใจ ความช่วยเหลือ ความต่อเนื่องของการพัฒนา) แก่ชาวบ้านมายาวนาน สะท้อนความมั่นใจในฐานเสียงของ “บ้านหลีนวรัตน์” แม้จะถูกวิจารณ์ว่าเป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่นสายบ้านใหญ่

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN / Freepik

บรรณาธิการออนไลน์