ตัวเงินตัวทองคาบศพทารก ปมซับซ้อนของสังคม ที่ถูกเปิดโปงโดยสัตว์

ตัวเงินตัวทองคาบศพทารก ปมซับซ้อนของสังคม ที่ถูกเปิดโปงโดยสัตว์

กลางซอยกิ่งแก้ว 28 ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า พบตัวเงินตัวทองคาบสิ่งของบางอย่างเข้าไปใต้ตึกร้าง เมื่อเข้าตรวจสอบก็พบว่า สิ่งที่ถูกคาบคือศพของทารกเพศชายที่เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความตกใจให้กับผู้พบเห็น หากแต่ทิ้งคำถามไว้มากมายว่า ทำไมจึงไม่มีใครรู้ว่ามีทารกคนหนึ่งเกิดขึ้นและจากไปโดยไร้ร่องรอย ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่เพื่อนบ้าน ไม่ใช่ระบบสาธารณสุข แต่เป็นสัตว์ที่พบก่อน?

สรุปข่าว

ตัวเงินตัวทองคาบศพทารกในซอยบางพลี กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดเผยปัญหาซับซ้อนในเมืองใหญ่ ทั้งความเหลื่อมล้ำ การคลอดนอกระบบ ระบบสวัสดิการที่ไม่ครอบคลุม และพื้นที่เมืองที่ปล่อยให้บางชีวิตถูกลืมในความมืด

กลางซอยกิ่งแก้ว 28 ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า พบตัวเงินตัวทองคาบสิ่งของบางอย่างเข้าไปใต้ตึกร้าง เมื่อเข้าตรวจสอบก็พบว่า สิ่งที่ถูกคาบคือศพของทารกเพศชายที่เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความตกใจให้กับผู้พบเห็น หากแต่ทิ้งคำถามไว้มากมายว่า ทำไมจึงไม่มีใครรู้ว่ามีทารกคนหนึ่งเกิดขึ้นและจากไปโดยไร้ร่องรอย ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่เพื่อนบ้าน ไม่ใช่ระบบสาธารณสุข แต่เป็นสัตว์ที่พบก่อน?

ตัวเงินตัวทอง สัตว์เลื้อยคลานที่ทำตามบทบาทของมัน

ในสายตาของคนเมือง ตัวเงินตัวทองอาจเป็นภาพคุ้นตาในสวนสาธารณะหรือชานเมือง แต่บทบาทของมันในห่วงโซ่อาหารคือ “ผู้จัดการซาก” สัตว์ชนิดนี้สามารถดมกลิ่นซากสิ่งมีชีวิตได้จากระยะไกล และเข้าไปกำจัดเศษซากเหล่านั้นอย่างเป็นธรรมชาติ

มันไม่ได้เลือกว่าซากนั้นจะเป็นหมา แมว หรือมนุษย์ เพราะหน้าที่ของมันคือการทำความสะอาดโลกจากสิ่งที่ตายไปแล้ว

ในอีกด้านหนึ่ง การที่สัตว์ต้องมาทำหน้าที่จัดการศพมนุษย์ กลับกลายเป็นคำถามทางสังคมอย่างลึกซึ้ง ว่าระบบใดกันที่ปล่อยให้ชีวิตเล็กๆ หนึ่งชีวิตจบลงในพื้นที่รกร้างโดยไม่มีใครรับรู้

ปัญหาซับซ้อนที่ไม่มีใครพูดถึง

เราไม่อาจฟันธงได้ว่าเหตุใดศพทารกจึงไปอยู่ใต้ตึกในสภาพเช่นนั้น แต่อย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นเปิดให้เห็นถึงปมปัญหาซ้อนทับหลายระดับ ทั้งในมิติของสุขภาพ สิทธิผู้หญิง ความยากจน พื้นที่เมือง และระบบสวัสดิการที่ยังไม่ทั่วถึง

แม่ของทารกคนนั้นอาจเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม หญิงต่างด้าวไร้เอกสาร แม่วัยรุ่นที่กลัวการถูกตีตรา หรือใครสักคนที่กำลังตกอยู่ในความเงียบของเมืองที่ไม่เปิดพื้นที่ให้เธอร้องขอความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ซึ่งมีมากถึง 16 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25 ของประชากรไทยทั้งหมด ยังมีจำนวนไม่น้อยที่เข้าไม่ถึงบริการด้านอนามัยเจริญพันธุ์อย่างมีคุณภาพ

ข้อมูลจากกรมอนามัยระบุว่า ในประเทศไทยมีผู้หญิงทำแท้งโดยประมาณ 300,000 รายต่อปี โดยมีอัตราการเสียชีวิตจากการแท้งไม่ปลอดภัยถึง 300 ต่อ 100,000 ราย กลุ่มเสี่ยงที่สุดคือหญิงสาวที่อยู่ในภาวะเปราะบาง ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือไม่มีข้อมูลอยู่ในระบบบริการสุขภาพ เมื่อการตั้งครรภ์ไม่ได้รับการดูแลตั้งแต่ต้น ความเสี่ยงต่อการเกิดผลลัพธ์ร้ายแรงก็ยิ่งสูงขึ้น

แม้จะมีอัตราการคุมกำเนิดในหญิงวัยเจริญพันธุ์อยู่ที่ร้อยละ 75 แต่สัดส่วนแพทย์สูตินรีเวชในไทยกลับยังอยู่ที่ 1 ต่อ 19,600 ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งหมายถึงโอกาสในการเข้าถึงคำปรึกษาหรือบริการที่เหมาะสมยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะในต่างจังหวัดหรือในกลุ่มหญิงแรงงานนอกระบบและหญิงข้ามชาติ

ขณะที่อัตราการคลอดของวัยรุ่นต่ำกว่า 20 ปีในไทยยังอยู่ในระดับสูง โดยในปี 2551 อยู่ที่ 50.5 ต่อ 1,000 ราย แม้มีแนวโน้มลดลง แต่ยังสะท้อนความจำเป็นในการเข้าถึงข้อมูล การสนับสนุนทางจิตใจ และความปลอดภัยในการตั้งครรภ์ที่เพียงพอและไม่ถูกตัดสิน

ค่าใช้จ่ายของรัฐในการรักษาผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนจากการแท้งในปี 2552 อยู่ที่กว่า 123 ล้านบาท ยังไม่นับรวมมูลค่าความสูญเสียทางจิตใจ อวัยวะ และความสามารถในการทำงานของผู้หญิงที่ถูกทิ้งให้อยู่ลำพังในสถานการณ์ที่ยากเกินรับมือ

ในโครงสร้างสังคมที่ยังมีรอยปริแตกมากมาย หญิงตั้งครรภ์ที่ไม่มีเสียงจึงอาจไม่สามารถหาทางออกใดได้เลย นอกจากการเก็บซ่อนตัว และหายไปในเมืองที่ไม่มีใครเงี่ยหูฟัง

เมื่อสัตว์ต้องเป็นผู้เปิดโปงความจริง

การที่ตัวเงินตัวทองเป็นผู้คาบศพออกมาให้สาธารณะเห็น ไม่ใช่เพียงเรื่องของธรรมชาติ แต่คือสัญญาณทางสังคมว่าช่องว่างระหว่างมนุษย์กับระบบกำลังถ่างกว้างขึ้น

มันไม่ได้เพียงคาบร่างของเด็กออกมาจากความมืด แต่คือการลากเอาความจริงที่ถูกปกปิดไว้ในซอกหลืบของเมืองให้ออกมาอยู่กลางสายตา

นั่นคือความจริงที่ว่า เมืองไทยยังมีคนจำนวนหนึ่งที่ระบบไม่เคยเห็น พวกเขาไม่มีชื่อ ไม่มีเอกสาร ไม่มีเสียง ไม่มีความช่วยเหลือ และบางครั้ง แม้แต่การมีชีวิตอยู่ของพวกเขาก็ไม่เคยถูกนับ

--

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

บรรณาธิการออนไลน์