อาการโควิด 2568 ล่าสุด รู้ทันโอมิครอน XEC แพร่เร็ว-ไม่ควรชะล่าใจ

อาการโควิด 2568 ล่าสุด รู้ทันโอมิครอน XEC แพร่เร็ว-ไม่ควรชะล่าใจ

เจาะลึกอาการโควิด 2568 สายพันธุ์ XEC และ XBB.1.16 พร้อมวิธีสังเกตตัวเอง ระยะฟักตัว ระยะแพร่เชื้อ และคำแนะนำสำหรับกลุ่มเสี่ยง


อาการโควิด 2568 ล่าสุด รู้ทันโอมิครอน XEC แพร่เร็ว-ไม่ควรชะล่าใจ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2568 ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยสายพันธุ์ที่กำลังระบาดหนักคือ โอมิครอน XEC ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยที่พบว่าแพร่กระจายได้เร็วกว่าโควิดสายพันธุ์เดิมหลายเท่า แม้อาการในผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง แต่ความรวดเร็วในการแพร่เชื้อทำให้ยอดผู้ป่วยรายวันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย

สรุปข่าว

โควิดสายพันธุ์ XEC และ XBB.1.16 ในปี 2568 แม้ไม่รุนแรง แต่แพร่เชื้อได้ไว โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีไข้ ไอ เหนื่อยง่าย ตาแดง ตรวจ ATK ทันทีหากสงสัย และกักตัวอย่างน้อย 5 วัน

เจาะลึกอาการโควิด 2568 สายพันธุ์ XEC และ XBB.1.16 พร้อมวิธีสังเกตตัวเอง ระยะฟักตัว ระยะแพร่เชื้อ และคำแนะนำสำหรับกลุ่มเสี่ยง


อาการโควิด 2568 ล่าสุด รู้ทันโอมิครอน XEC แพร่เร็ว-ไม่ควรชะล่าใจ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2568 ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยสายพันธุ์ที่กำลังระบาดหนักคือ โอมิครอน XEC ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยที่พบว่าแพร่กระจายได้เร็วกว่าโควิดสายพันธุ์เดิมหลายเท่า แม้อาการในผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง แต่ความรวดเร็วในการแพร่เชื้อทำให้ยอดผู้ป่วยรายวันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย

โอมิครอน XEC แพร่ไวแค่ไหน?

จากข้อมูลในต่างประเทศ พบว่า โอมิครอน XEC มีอัตราการแพร่กระจายเพิ่มขึ้นถึง

 • 84% ในอังกฤษ

 • 90% ในสหรัฐฯ

 • 110% ในจีน

แม้จะไม่ใช่สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงในวงกว้าง แต่ความรวดเร็วในการติดเชื้อทำให้เกิดความเสี่ยงในกลุ่มเปราะบาง

สังเกตอาการโควิด 2568 ได้อย่างไร?

ลักษณะอาการของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XEC และ XBB.1.16 ใกล้เคียงกับไข้หวัดทั่วไป แต่มีความหลากหลายและแตกต่างกันในแต่ละราย โดยเฉพาะอาการแฝงที่เกิดขึ้นในกลุ่มเด็กและผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น

 • ไข้สูง หนาวสั่น

 • ไอแบบต่อเนื่องหรือเป็นชุด

 • หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย

 • ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ

 • คัดจมูก น้ำมูกไหล เบื่ออาหาร

 • อาการทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้

 • สูญเสียการรับกลิ่นและรสชาติ (ในบางราย)

สำหรับสายพันธุ์ XBB.1.16 หรือ “อาร์คตูรุส” พบอาการ “ตาแดง-เยื่อบุตาอักเสบ” เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ซึ่งเป็นอาการใหม่ที่ควรระวัง

กลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน หากติดโควิด 2568 ได้แก่:

 • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

 • หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป

 • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น หัวใจ เบาหวาน ไตวาย โรคมะเร็ง อ้วน และโรคทางเดินหายใจ

หากอยู่ในกลุ่มนี้และเริ่มมีอาการแม้เพียงเล็กน้อย ควรรีบตรวจ ATK และเข้ารับการรักษาโดยเร็ว

ติดโควิดปี 2568 ต้องกักตัวนานแค่ไหน?

โดยทั่วไป อาการจะเริ่มแสดงหลังได้รับเชื้อประมาณ 3–5 วัน และอาจแพร่เชื้อได้ก่อนจะแสดงอาการ ระยะกักตัวที่แนะนำคือ อย่างน้อย 5 วัน และติดตามอาการต่อเนื่องถึง 10 วัน โดยใช้ ATK ตรวจซ้ำก่อนกลับไปใช้ชีวิตปกติ

ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงมักหายดีภายใน 7–10 วัน ส่วนกลุ่มเปราะบางควรพบแพทย์เพื่อพิจารณาการให้ยาต้านไวรัส

ป้องกันตนเองในยุคโควิดสายพันธุ์ใหม่

แม้สถานการณ์จะไม่รุนแรงเท่าช่วงวิกฤต แต่การดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องยังจำเป็น:

 • หมั่นล้างมือและสวมหน้ากากในที่สาธารณะ

 • หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด

 • ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

 • ตรวจ ATK ทันทีหากเริ่มมีอาการผิดปกติ

 • เข้ารับวัคซีนกระตุ้นตามกำหนด

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Freepik

บรรณาธิการออนไลน์