อัปเดตสถานการณ์น้ำเขื่อนทั่วไทย ครึ่งประเทศยังต่ำกว่าระดับใช้งานจริง

อัปเดตสถานการณ์น้ำเขื่อนทั่วไทย ครึ่งประเทศยังต่ำกว่าระดับใช้งานจริง

ภาพรวมสถานการณ์น้ำเขื่อนทั่วประเทศ

ข้อมูลล่าสุดจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติและคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ระบุว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักแต่ละภาคยังมีความหลากหลาย โดยพบว่าหลายพื้นที่ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีระดับน้ำในเกณฑ์น้อยถึงวิกฤต ขณะที่ภาคใต้เก็บน้ำได้ในระดับดี และภาคเหนือเริ่มอยู่ในระดับปานกลาง

ภาคเหนือ เริ่มทรงตัว แต่อยู่ห่างจากจุดอิ่มตัว

ในภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล มีน้ำในอ่าง 3,903 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุรวม 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง เช่นเดียวกับ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่มีน้ำ 128 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำจากฝนในระยะถัดไปได้อีกมากพอสมควร

สรุปข่าว

เขื่อนหลักทั่วประเทศมีน้ำเฉลี่ย 56% ของความจุ และน้ำใช้งานจริงเพียง 37% หลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลางและภาคอีสาน มีเขื่อนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ ขณะเขื่อนในภาคตะวันออกและภาคใต้ยังคงมีน้ำสำรองในระดับมั่นคง สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ควรจับตาอย่างใกล้ชิดในช่วงฝนกลางฤดู

ภาพรวมสถานการณ์น้ำเขื่อนทั่วประเทศ

ข้อมูลล่าสุดจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติและคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ระบุว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักแต่ละภาคยังมีความหลากหลาย โดยพบว่าหลายพื้นที่ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีระดับน้ำในเกณฑ์น้อยถึงวิกฤต ขณะที่ภาคใต้เก็บน้ำได้ในระดับดี และภาคเหนือเริ่มอยู่ในระดับปานกลาง

ภาคเหนือ เริ่มทรงตัว แต่อยู่ห่างจากจุดอิ่มตัว

ในภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล มีน้ำในอ่าง 3,903 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุรวม 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง เช่นเดียวกับ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่มีน้ำ 128 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำจากฝนในระยะถัดไปได้อีกมากพอสมควร

ภาคกลาง สัญญาณวิกฤตเริ่มชัดเจน

สถานการณ์น้ำในภาคกลางยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่มีน้ำในอ่างเพียง 146 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับน้อยวิกฤต และ เขื่อนทับเสลา มีน้ำเพียง 48 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจัดอยู่ในระดับน้ำน้อย ทั้งสองเขื่อนถือเป็นจุดเสี่ยงสำคัญที่ต้องเร่งเติมน้ำเพื่อรองรับการใช้งานในช่วงฤดูฝนนี้

ภาคอีสาน เขื่อนสำคัญหลายแห่งเก็บน้ำน้อยกว่าระดับปลอดภัย

เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีน้ำเพียง 301 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 2,431 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับน้ำน้อย ขณะที่ เขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำเพียง 43 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร ถูกจัดให้อยู่ในระดับน้อยวิกฤต โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกที่ต้องพึ่งพาเขื่อนทั้งสองแห่ง จำเป็นต้องมีแผนการใช้น้ำอย่างรัดกุมและรอการเติมน้ำจากฝนกลางฤดู

ภาคตะวันตก เขื่อนใหญ่ยังมีพื้นที่รับน้ำ

ภาคตะวันตกมีเขื่อนขนาดใหญ่อย่าง เขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งปัจจุบันมีน้ำอยู่ที่ 2,501 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุรวม 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร และ เขื่อนวชิราลงกรณ มีน้ำ 1,905 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งสองเขื่อนอยู่ในระดับปานกลาง และยังสามารถรองรับมวลน้ำจากฝนตกต่อเนื่องในช่วงกลางถึงปลายฤดูฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภาคตะวันออก บางเขื่อนน้ำน้อยใกล้ขีดจำกัด

แม้ภาคตะวันออกจะมีฝนกระจายอยู่บ้าง แต่ระดับน้ำในเขื่อนกลับยังไม่เพียงพอในบางจุด โดยเฉพาะ เขื่อนคลองสียัด ที่มีน้ำเพียง 22 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 420 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับน้อยวิกฤต ขณะที่ เขื่อนหนองปลาไหล อยู่ที่ระดับปานกลาง โดยมีน้ำ 104 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุรวม 164 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่ารองรับสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง

ภาคใต้ ภูมิภาคที่มั่นคงที่สุดในฤดูฝน

ภาคใต้ยังคงเป็นภูมิภาคที่มีระดับน้ำในเขื่อนอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะ เขื่อนบางลาง ที่มีปริมาณน้ำ 821 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 1,454 ล้านลูกบาศก์เมตร จัดอยู่ในระดับดีมาก และ เขื่อนรัชชประภา มีน้ำอยู่ที่ 2,156 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 5,639 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับปานกลาง ทั้งสองเขื่อนสามารถรองรับมวลน้ำจากฝนมรสุมได้อย่างมีเสถียรภาพ

สถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักของไทยสัปดาห์นี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ “ควบคุมได้” โดยเฉพาะภาคใต้และภาคเหนือที่เริ่มมีระดับน้ำทรงตัว แต่ภาคกลางและอีสานยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขื่อนที่อยู่ในระดับวิกฤต หากฝนไม่ตกมากพอในช่วงกลางเดือนนี้ อาจกระทบต่อการใช้น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคในระยะยาว


ข้อมูล https://tiwrmdev.hii.or.th/DATA/REPORT/php/rid_bigcm_raw.php


บรรณาธิการออนไลน์