
ภาพรวมสถานการณ์น้ำเขื่อนทั่วประเทศ
ข้อมูลล่าสุดจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติและคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ระบุว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักแต่ละภาคยังมีความหลากหลาย โดยพบว่าหลายพื้นที่ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีระดับน้ำในเกณฑ์น้อยถึงวิกฤต ขณะที่ภาคใต้เก็บน้ำได้ในระดับดี และภาคเหนือเริ่มอยู่ในระดับปานกลาง
ภาคเหนือ เริ่มทรงตัว แต่อยู่ห่างจากจุดอิ่มตัว
ในภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล มีน้ำในอ่าง 3,903 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุรวม 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง เช่นเดียวกับ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่มีน้ำ 128 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำจากฝนในระยะถัดไปได้อีกมากพอสมควร
สรุปข่าว
ภาพรวมสถานการณ์น้ำเขื่อนทั่วประเทศ
ข้อมูลล่าสุดจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติและคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ระบุว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักแต่ละภาคยังมีความหลากหลาย โดยพบว่าหลายพื้นที่ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีระดับน้ำในเกณฑ์น้อยถึงวิกฤต ขณะที่ภาคใต้เก็บน้ำได้ในระดับดี และภาคเหนือเริ่มอยู่ในระดับปานกลาง
ภาคเหนือ เริ่มทรงตัว แต่อยู่ห่างจากจุดอิ่มตัว
ในภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล มีน้ำในอ่าง 3,903 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุรวม 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง เช่นเดียวกับ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่มีน้ำ 128 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำจากฝนในระยะถัดไปได้อีกมากพอสมควร
ภาคกลาง สัญญาณวิกฤตเริ่มชัดเจน
สถานการณ์น้ำในภาคกลางยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่มีน้ำในอ่างเพียง 146 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับน้อยวิกฤต และ เขื่อนทับเสลา มีน้ำเพียง 48 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจัดอยู่ในระดับน้ำน้อย ทั้งสองเขื่อนถือเป็นจุดเสี่ยงสำคัญที่ต้องเร่งเติมน้ำเพื่อรองรับการใช้งานในช่วงฤดูฝนนี้
ภาคอีสาน เขื่อนสำคัญหลายแห่งเก็บน้ำน้อยกว่าระดับปลอดภัย
เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีน้ำเพียง 301 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 2,431 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับน้ำน้อย ขณะที่ เขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำเพียง 43 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร ถูกจัดให้อยู่ในระดับน้อยวิกฤต โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกที่ต้องพึ่งพาเขื่อนทั้งสองแห่ง จำเป็นต้องมีแผนการใช้น้ำอย่างรัดกุมและรอการเติมน้ำจากฝนกลางฤดู
ภาคตะวันตก เขื่อนใหญ่ยังมีพื้นที่รับน้ำ
ภาคตะวันตกมีเขื่อนขนาดใหญ่อย่าง เขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งปัจจุบันมีน้ำอยู่ที่ 2,501 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุรวม 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร และ เขื่อนวชิราลงกรณ มีน้ำ 1,905 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งสองเขื่อนอยู่ในระดับปานกลาง และยังสามารถรองรับมวลน้ำจากฝนตกต่อเนื่องในช่วงกลางถึงปลายฤดูฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาคตะวันออก บางเขื่อนน้ำน้อยใกล้ขีดจำกัด
แม้ภาคตะวันออกจะมีฝนกระจายอยู่บ้าง แต่ระดับน้ำในเขื่อนกลับยังไม่เพียงพอในบางจุด โดยเฉพาะ เขื่อนคลองสียัด ที่มีน้ำเพียง 22 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 420 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับน้อยวิกฤต ขณะที่ เขื่อนหนองปลาไหล อยู่ที่ระดับปานกลาง โดยมีน้ำ 104 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุรวม 164 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่ารองรับสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง
ภาคใต้ ภูมิภาคที่มั่นคงที่สุดในฤดูฝน
ภาคใต้ยังคงเป็นภูมิภาคที่มีระดับน้ำในเขื่อนอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะ เขื่อนบางลาง ที่มีปริมาณน้ำ 821 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 1,454 ล้านลูกบาศก์เมตร จัดอยู่ในระดับดีมาก และ เขื่อนรัชชประภา มีน้ำอยู่ที่ 2,156 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 5,639 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับปานกลาง ทั้งสองเขื่อนสามารถรองรับมวลน้ำจากฝนมรสุมได้อย่างมีเสถียรภาพ
สถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักของไทยสัปดาห์นี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ “ควบคุมได้” โดยเฉพาะภาคใต้และภาคเหนือที่เริ่มมีระดับน้ำทรงตัว แต่ภาคกลางและอีสานยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเขื่อนที่อยู่ในระดับวิกฤต หากฝนไม่ตกมากพอในช่วงกลางเดือนนี้ อาจกระทบต่อการใช้น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคในระยะยาว
ข้อมูล https://tiwrmdev.hii.or.th/DATA/REPORT/php/rid_bigcm_raw.php
ที่มาข้อมูล : รายงานสถานภาพน้ำเขื่อนต่าง https://tiwrmdev.hii.or.th/DATA/REPORT/php/rid_bigcm_raw.php
ที่มารูปภาพ : Freepik
บรรณาธิการออนไลน์