
หลังอิสราเอล เปิดฉากโจมตีโครงการนิวเคลียร์ และพื้นที่ส่วนอื่นของอิหร่าน เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน หลังจากนั้น ภายใน 24 ชั่วโมง อิหร่านก็ตอบโต้ด้วยการส่งขีปนาวุธมากกว่าร้อยลูก พุ่งตรงไปยังอิสราเอล
การปะทะกันของ 2 ประเทศ หลายฝ่ายหวั่นว่า ความขัดแย้งบนตะวันออกกลางจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ซ้ำเติมวิกฤตสถานการณ์ในฉนวนกาซา และยากที่จะเกิดความสงบเร็ววัน
แล้วช่วงเวลาที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นไปแล้วบ้างกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ครั้งนี้
“สิงโตผงาด” อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน
ค่ำวันที่ 13 มิถุนายน เวลาประมาณ 03.30 น. อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน ภายใต้ปฏิบัติการชื่อว่า “สิงโตผงาด” หรือ “Rising Lion” ซึ่งมีจุดประสงค์ เพื่อกำจัดภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ จากฝั่งอิหร่าน ที่อาจคุกคามต่ออิสราเอล และภูมิภาค
อิสราเอล ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ มุ่งเป้าไปที่โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า เป็นแหล่งหัวใจสำคัญของการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยส่งเครื่องบินรบ 200 ลำเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าว และโจมตีเป้าหมาย 100 แห่ง
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลมีเป้าหมายเพื่อเอาชนะภัยคุกคามจากอิหร่าน โดยอ้างถึงความล้มเหลวในการหยุดยั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามโลกครั้งที่สอง
โครงการนิวเคลียร์-บุคคลสำคัญอิหร่านเสียชีวิต
การโจมตีจากอิสราเอล ส่งผลให้โรงงานนิวเคลียร์ เมืองนาตันซ์ ซึ่งเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนีย เสียหาย แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานความเสียหายมากน้อยเพียงใด แต่ก็มีภาพวิดีโอที่เผยให้เห็นภาพความเสียหายครั้งใหญ่จากการถูกโจมตี
นอกจากนี้ ฐานทัพต่าง ๆ และสถานที่อื่นในกรุงเตหะรานก็เป็นเป้าการโจมตีครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ปฏิบัติการสิงโตผงาดของอิสราเอล ส่งผลให้นายทหารระดับสูง และนักวิทยาศาสตร์หลายรายของอิหร่านเสียชีวิต อาทิ
พลเอก โมฮัมหมัด ฮอสเซน บาการี เสนาธิการทหารสูงสุดอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่มีอำนาจเป็นอันดับสองรองจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน
พลเอก ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม หรือ IRGC, โกแลม-อาลี ราชิด ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางกาตัม อัล-อันบียา, เฟเรดุน อับบาซี นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ อดีตหัวหน้าองค์กรนิวเคลียร์ของอิหร่าน และโมฮัมหมัด มาห์ดิ เตหะรานชิ นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์อีกคนหนึ่ง
อะยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเมื่อวานนี้ (13 มิถุนายน) ว่า อิสราเอลริเริ่มและยั่วยุให้เกิดสงคราม และจะไม่ยอมปล่อยให้อิสราเอลโจมตีแต่ฝ่ายเดียว โดยที่ไม่มีผลร้ายแรงตามมา “ระบอบไซออนิสต์ หรืออิสราเอล จะไม่รอดพ้นจากผลที่ตามมาจากการก่ออาชญากรรมของตน อิหร่านต้องได้รับการรับรองว่า การตอบโต้ของเราจะไม่ถูกวัดผลเพียงครึ่งเดียว”
สรุปข่าว
หลังอิสราเอล เปิดฉากโจมตีโครงการนิวเคลียร์ และพื้นที่ส่วนอื่นของอิหร่าน เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน หลังจากนั้น ภายใน 24 ชั่วโมง อิหร่านก็ตอบโต้ด้วยการส่งขีปนาวุธมากกว่าร้อยลูก พุ่งตรงไปยังอิสราเอล
การปะทะกันของ 2 ประเทศ หลายฝ่ายหวั่นว่า ความขัดแย้งบนตะวันออกกลางจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ซ้ำเติมวิกฤตสถานการณ์ในฉนวนกาซา และยากที่จะเกิดความสงบเร็ววัน
แล้วช่วงเวลาที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นไปแล้วบ้างกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ครั้งนี้
“สิงโตผงาด” อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน
ค่ำวันที่ 13 มิถุนายน เวลาประมาณ 03.30 น. อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน ภายใต้ปฏิบัติการชื่อว่า “สิงโตผงาด” หรือ “Rising Lion” ซึ่งมีจุดประสงค์ เพื่อกำจัดภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ จากฝั่งอิหร่าน ที่อาจคุกคามต่ออิสราเอล และภูมิภาค
อิสราเอล ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ มุ่งเป้าไปที่โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า เป็นแหล่งหัวใจสำคัญของการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยส่งเครื่องบินรบ 200 ลำเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าว และโจมตีเป้าหมาย 100 แห่ง
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลมีเป้าหมายเพื่อเอาชนะภัยคุกคามจากอิหร่าน โดยอ้างถึงความล้มเหลวในการหยุดยั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามโลกครั้งที่สอง
โครงการนิวเคลียร์-บุคคลสำคัญอิหร่านเสียชีวิต
การโจมตีจากอิสราเอล ส่งผลให้โรงงานนิวเคลียร์ เมืองนาตันซ์ ซึ่งเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนีย เสียหาย แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานความเสียหายมากน้อยเพียงใด แต่ก็มีภาพวิดีโอที่เผยให้เห็นภาพความเสียหายครั้งใหญ่จากการถูกโจมตี
นอกจากนี้ ฐานทัพต่าง ๆ และสถานที่อื่นในกรุงเตหะรานก็เป็นเป้าการโจมตีครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ปฏิบัติการสิงโตผงาดของอิสราเอล ส่งผลให้นายทหารระดับสูง และนักวิทยาศาสตร์หลายรายของอิหร่านเสียชีวิต อาทิ
พลเอก โมฮัมหมัด ฮอสเซน บาการี เสนาธิการทหารสูงสุดอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่มีอำนาจเป็นอันดับสองรองจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน
พลเอก ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม หรือ IRGC, โกแลม-อาลี ราชิด ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางกาตัม อัล-อันบียา, เฟเรดุน อับบาซี นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ อดีตหัวหน้าองค์กรนิวเคลียร์ของอิหร่าน และโมฮัมหมัด มาห์ดิ เตหะรานชิ นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์อีกคนหนึ่ง
อะยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเมื่อวานนี้ (13 มิถุนายน) ว่า อิสราเอลริเริ่มและยั่วยุให้เกิดสงคราม และจะไม่ยอมปล่อยให้อิสราเอลโจมตีแต่ฝ่ายเดียว โดยที่ไม่มีผลร้ายแรงตามมา “ระบอบไซออนิสต์ หรืออิสราเอล จะไม่รอดพ้นจากผลที่ตามมาจากการก่ออาชญากรรมของตน อิหร่านต้องได้รับการรับรองว่า การตอบโต้ของเราจะไม่ถูกวัดผลเพียงครึ่งเดียว”
อิหร่านโต้กลับ ส่งขีปนาวุธกว่าร้อยลูก
ภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง อิหร่านก็ตัดสินใจส่งขีปนาวุธไปยังอิสราเอล มีรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดหลายจุดในเมืองเยรูซาเล็ม และเทล อาวีฟ เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังไปทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่อพยพประชาชนเข้าหลุมหลบภัย และมีผู้ผู้พบเห็นขีปนาวุธเหนือเส้นขอบฟ้าของกรุงเทล อาวีฟ ด้วย
สำนักข่าว IRNA รายงานว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธมากกว่าร้อยลูกไปยังอิสราเอล เพื่อตอบโต้อีกฝ่ายโจมตีโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ และสังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่าน พร้อมกับยืนยันว่า อิหร่านมีโครงการนิวเคลียร์ เพื่อใช้งานทางด้านสันติเท่านั้น
ด้านกองทัพอิสราเอล แถลงว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธมากกว่า 100 ลูก ส่วนใหญ่ถูกสกัดกั้นไว้ได้ ทางสหรัฐฯ ก็ช่วยยิงขีปนาวุธที่มุ่งหน้าสู่อิสราเอลตกด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า การโจมตีกลับของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน บาดเจ็บสาหัส 2 คน, บาดเจ็บปานกลาง 8 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 34 คน
ปฏิกิริยานานาชาติ-ดีลข้อตกลงนิวเคลียร์ส่อล่ม ?
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างอิหร่าน และอิสราเอล สร้างความวิตกว่า ความรุนแรงจะขยายวงกว้างมากขึ้นบนภูมิภาคตะวันออกกลาง
นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน หลายชาติก็ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
จีน ออกมาประมาณการกระทำของอิสราเอล และเรียกว่า โจมตีครั้งนี้ ว่าเป็นการ ”ละเมิดอำนาอธิปไตยของอิหร่าน” พร้อมเรียกร้องให้ยุติการกระทำทหารที่เสี่ยงก่อให้เกิดความรุนแรงบานปลายเพิ่มขึ้นอีก
ซาอุดีอาระเบีย ออกมาประมาณการโจมตีอิสราเอลว่า เป็นการกระทำที่โหดร้าย ละเมิดอำนาจอธิปไตย, ละเมิดกฎหมายและบรรทัดฐานระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง รวมถึงยังเรียกร้องให้ UNSC ต้องรับผิดชอบโดยตรง ในการเผชิญหน้าและยับยั้งการโจมตีที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ของอิสราเอลในทันที
ด้านสหราชอาณาจักร เผยว่า การโจมตีอิหร่านของอิสราเอลถือเป็นเรื่องน่ากังวล และทุกฝ่ายจำเป็นต้องถอยกลับและลดความตึงเครียดลง
ส่วนทางด้านสหรัฐฯ ก่อนอิหร่านจะโจมตีตอบโต้ ออกมายืนยันว่า สหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและให้ความช่วยเหลือใด ๆ เกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอล ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เรียกร้องให้อิหร่านหันมาทำข้อตกลงนิวเคลียร์กัน เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ได้วางแผนไว้ เพราะมีคนตาย และความเสียหายเกิดขึ้นมากพอแล้ว แต่ยังพอมีเวลาที่จะยุติการสังหารหมู่นี้
ทั้งนี้ ก่อนจะเกิดการโจมตีจากอิสราเอล สหรัฐฯ กับอิหร่าน ได้หันมาเจรจาโดยอ้อม เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ร่วมกันถึง 5 ครั้ง และครั้งที่ 6 จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ซึ่งสหรัฐฯ ต้องการให้อิหร่านหยุดผลิตแร่ยูเรเนียคุณภาพสูง
ล่าสุด วันนี้ (14 มิถุนายน) อิหร่าน ออกแถลงการณ์ ระบุว่า การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านนั้น “ไร้ความความหมาย” หลังจากอิสราเอลโจมตีอิหร่าน
“อีกฝ่าย (สหรัฐฯ) มีพฤติกรรมที่ทำให้การเจรจาไร้ความหมาย คุณไม่สามารถอ้างว่า จะมาเจรจา แต่ก็เหมือนแบ่งบทบาทกัน ด้วยการปล่อยให้ระบอบไซออนิสต์ (อิสราเอล) โจมตีดินแดนของอิหร่านได้ในเวลาเดียวกัน” แถลงการณ์อิหร่าน กล่าว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://www.theguardian.com/world/2025/jun/13/israel-strikes-iran-what-we-know-so-far
https://edition.cnn.com/world/live-news/israel-iran-strikes-news-06-12-25-hnk-intl
https://edition.cnn.com/2025/06/13/middleeast/israel-attack-iran-nuclear-program-explainer-intl
https://time.com/7293906/trump-warning-iran-israel-strikes-death-destruction/
ที่มาข้อมูล : The Guardian, Al Jazeera, Reuters, CNN, Time, NDTV
ที่มารูปภาพ : Freepik